สถานะยังไม่ชัดเจน!! วางตัวอย่างไร ถ้าอีกฝ่ายยังไม่พร้อมเรียกคุณว่า "ตัวจริง"

ความรักมักมีปริมาณร้อยละ 50 ของความสัมพันธ์คุณคิดว่ามีคนรักกันเต็มร้อยอยู่จริงๆ หรือ? สิ่งที่คู่รักมักต้องการก็คือ ความรักที่พบกันแบบครึ่งทางซะมากกว่า มีการให้และรับอย่างสมดุล ไม่มากหรือน้อยเกินไป ดังคำกล่าว "เมื่อคุณมองหาคนที่ใช่ คุณควรใช้ตาทั้งสองข้างมอง แต่ถ้าคุณเลือกที่จะคบกับคนๆ นั้น คุณจงหลับตาลงข้างหนึ่ง"

กรุณาอย่าจิกสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างแรก ก็คือ การโทรจิกอีกฝ่าย หรือพิมพ์ข้อความเพื่อให้อีกฝ่ายตอบกลับอยู่เป็นระยะๆ เพราะในขณะนี้ ?แฟนก็ยังไม่ได้เป็น คู่รักก็ยังไม่ใช่" แต่ทำไม๊ทำไม โทรจิก พิมพ์จิก ขนาดนี้ จำไว้เลยว่าไม่มีใครเขาชอบหรอก ยิ่งช่วงแรกของการจีบกัน คุณไม่ควรเรียกร้อง หรือเข้าไปลดทอนความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายมากจนเกินไป แล้วแค่ไหน? จึงจะเรียกว่าพอดี ก็คือคุณต้องสังเกตจาก "น้ำเสียงของอีกฝ่าย" ว่าเขาแสดงความพอใจ-สนใจ-สะดวกใจ หรือสนุกที่จะคุยกับคุณหรือไม่ ก็เท่านั้นเอง

อย่าเพิ่งประจานข้อบกพร่องของตนเองทุกคนย่อมมีข้อเสียหรือนิสัยแย่ๆ ด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็ไม่ต้องแฉทั้งหมดหรอกว่า คุณมีข้อเสียอะไรบ้าง ทำนองว่าเราก็เป็นของเราแบบนี้แหละ รับได้ไหมล่ะ? เดี๋ยวอีกฝ่ายพาลจะโบกมือบ๊ายบายกันไปซะก่อนจะทันได้คบกัน ดังนั้น จึงค่อยๆ เรียนรู้กันไปเดี๋ยวก็รับรู้ข้อเสียนั้นได้เอง บางทีการโฆษณาข้อบกพร่องของตนที่คุณคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อคบกันจริงๆ แล้ว อีกฝ่ายอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ได้ถ้าคุณเรียกร้องเวลาจากเขา คุณต้องมีเวลาให้เขาก่อนก่อนอื่นคุณต้องรู้สึกได้ว่า เขาเองก็อยากจะแชร์ความรู้สึก หรืออยากแชร์เวลากับคุณ หรือถ้าหากคุณต้องการความไว้ใจจากเขา คุณก็ต้องเป็นฝ่ายให้ความไว้วางใจให้เขารู้สึกให้ได้ก่อน และหากคุณต้องการความใกล้ชิด คุณก็ต้องเป็นฝ่ายมีเวลาให้เขาก่อน

ใช้การสื่อสารช่องทางอื่นๆ บ้างถ้าคุณไม่อยากโทรหาอีกฝ่าย เพราะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะว่างคุยกับคุณหรือเปล่า ก็มีทางเลือกอยู่เยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม Chat หรือ Social Media เมื่ออีกฝ่ายติดงาน อาจไม่สะดวกรับสาย แต่การส่งข้อความแสดงถึงความห่วงใยก็ต้องรู้จังหวะจะโคน ไม่ใช่ใช้พร่ำเพรื่อ พร่ำบ่น จนดูไม่น่าสนใจ ใช้ความถี่แบบไม่มีประโยชน์

จงเว้นระยะห่าง เพื่อให้คุณและเขามีที่ยืนเพราะในความเป็นจริง คุณกับเขาเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน อีกฝ่ายเขาก็อาจกำลังประเมินคุณอยู่ก็ได้ เหมือนกับว่าถ้าตกลงปลงใจเป็นแฟนกับคุณแล้ว เขาจะได้แฟนแบบไหน ได้ใช้ชีวิตแบบไหน อย่างเช่น เกาะติดแจและเป็นคนขี้ใจน้อยหรือเปล่า? คุณก็ควรปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีที่ว่างยืน ไม่บังคับฝืนความรู้สึก หรือลำบากใจ

ระวังบททดสอบจากอีกฝ่ายเขาอาจย่องแอบมาอ่านดูสเตตัสของคุณ ตรวจดูรูปแฟนเก่า การสอบถามข้อมูลจากเพื่อน หยอดถามความคิดเห็นทางการเมือง หรือลองใจสารพัด เพื่อต้องการความมั่นใจก่อนจะคบหากับ อาจต้องการทดสอบทัศนคติ ความอดทน ความใส่ใจ ถ้าคุณจีบใครสักคนเพียงแค่สองสามวัน หรือแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็ถอดใจแล้ว ฝ่ายที่คุณไปจีบก็คงรู้สึกว่าคุณเป็นคนขาดความอดทน หรือ "ไม่มีอะไรแตกต่าง" จากหนุ่มสาวในยุคโซเชียลคนอื่นๆ ที่เขาเคยทำความรู้จักมาก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่เลยก็ได้...