แอบชอบเพื่อนทำไงดี!! แนะนำ วิธีเปลี่ยนเพื่อนเป็นแฟน แบบเนียนๆ

?ห่างกันแค่เอื้อมมือ แต่มันก็แสนไกล ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป?

เหคุการแอบรักเพื่อนตัวเอง ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงเกิดขึ้นได้เสมอ การที่คนสองคนจะรู้สึกพูดคุยกันถูกคอ ย่อมต้องมีความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นในใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ข้อเท็จจริงที่ว่า ความรู้สึกดีๆ ที่มันเกิดขึ้น วันนึงมันเปลี่ยนแปลงไป จนทำให้อยากจะเปลี่ยนสถานะจากคำว่า ?เพื่อน? กลายเป็น ?แฟน? จะต้องทำยังไง มีหลายกรณี ที่แอบชอบเพื่อน แล้วตัดสินใจบอกออกไป แต่ก็ต้องแลกด้วยการสูญเสียเพื่อนคนนั้นไปตลอดชีวิต ถ้าโชคดี ก็อาจจะได้เขาคนนั้น มาเป็นแฟนได้อย่างที่ใจต้องการ เรื่องของความรู้สึก มันห้ามยาก แล้วจะทำยังไง ให้ความต้องการของเราประสบผลสำเร็จ วันนี้ Lady108 จะลองเอาวิธี เปลี่ยนสถานะ จาก ?เพื่อน? ให้เป็น ?แฟน? มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ

ถามใจตัวเองดูให้ชัวร์ส่วนใหญ่แล้ว ขั้นตอนนี้ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างน้อยการที่คุณรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ และพยายามหาคำตอบให้กับตัวเอง ด้วยการหาอ่านบทความที่เกี่ยวกับการแอบรักเพื่อนแบบนี้ ก็แปลว่าคุณกำลังอยู่ในวังวนของการแอบรักเพื่อนซะแล้ว เมื่อมั่นใจ ว่านี่ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบ ก็ต้องยอมรับสภาพของตัวเองก่อน แล้วดำเนินการตามวิธีต่อไป

ลองสังเกตฝ่ายตรงข้ามการที่เราจะสารภาพรัก กับใครบางคน สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือการสังเกตดูท่าทางของอีกฝ่าย ว่าถ้าเราพูดคำนั้นออกไป แล้วเราจะมีเปอร์เซ็นต์สำเร็จแค่ไหน ถึงแม้จะรู้สึกอยากบอกแทบตาย แต่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะมองเราในฐานะคนรักได้เลย ก็ยังไม่ควรบุ่มบ่ามทำอะไรโดยไม่คิด เพราะแทนที่จะสำเร็จ กลับจะต้องเสียเขาไปอย่างน่าเสียดาย

เปลี่ยนตัวเองให้ดูดีขึ้นถ้าเพื่อนของคุณ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจคุณเลย ก็ต้องมาถามตัวเองก่อน ว่าเป็นเพราะอะไร ถ้าสาเหตุนั้นเป็นเพราะเราดูไม่ดึงดูด ก็ควรจะเปลี่ยนการแต่งตัว ให้ดูดีขึ้นมาบ้าง ถ้าเป็นผู้หญิง ก็ควรจะแต่งตัวให้สมกับเป็นผู้หญิง แต่งหน้าบ้าง ทำอะไรที่อ่อนหวานขึ้น หรือถ้าเป็นผู้ชาย ก็ควรดูแลตัวเอง ทำตัวให้น่ามอง อย่างน้อย ให้ฝ่ายตรงข้าม มองเราว่าเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายคนนึง นอกเหนือจากฐานะเพื่อน เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

ดูว่าเขามีสเปกแบบไหนสเปกสาว หรือสเปกหนุ่มที่ชอบเป็นยังไง ถ้าเป็นเพื่อน ก็น่าจะรู้ได้ไม่ยาก ลองทำตัวให้เข้าข่ายสาว หรือหนุ่มในสเปกของเขาดู แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองจนดูไม่เป็นธรรมชาตินะ ลองพิจารณาดูความชอบของเขา แล้วก็ความเป็นตัวเรา เอามารวมกัน แล้วหาจุดที่ลงตัวที่สุด อย่างน้อยการเปลี่ยนแปลงของเรา ก็น่าจะทำให้เขาสังเกตเห็นได้บ้าง

ทำอะไรที่ดูก้ำกึ่งขั้นตอนนี้ จะเรียกว่ายากก็ยาก ง่ายก็ง่าย เพราะมันก็เหมือนการใช้ชีวิตตามธรรมชาติของเรานั่นแหละ แต่ให้แทรกการกระทำที่พิเศษๆ เอาไว้ด้วย เช่น เมื่อถึงเทศกาลพิเศษ จากที่เคยให้ของขวัญกับเพื่อนทุกๆ คน ตามมารยาท ก็ลองให้ของที่ไม่เหมือนคนอื่นกับเขาดู หรือการใช้คำพูดที่คิดได้สองแง่ ถ้าอีกฝ่ายคิดอะไรกับเราบ้าง เขาอาจจะมีปฏิกริยากับคำพูดของเรา แตกต่างกับคนที่ไม่รู้สึกอะไรเลย

ลองทำทีเป็นจีบเล่นๆเพราะความสนิทสนม ของคุณทั้งสองคน เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าเราจะลองเล่นจีบเพื่อนตัวเองบ้าง ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ให้ฝ่ายตรงข้ามคิดว่าคุณกำลังเล่นอยู่ก็ได้ ไม่ก็อ้างว่าฝึกจีบคนอื่น แล้วรอดูปฏิกริยาของอีกฝ่าย ว่ามีต่อเรายังไง เขินอาย หรือว่าหน้าแดงบ้างมั้ย ถ้ามีก็ถือว่าความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกล

ลองถึงเนื้อถึงตัวกับอีกฝ่ายบ้างจากเดิมที่อีกฝ่าย มองเราในฐานะเพื่อนคนนึง แต่ถ้าเราลองไปสัมผัสกับอีกฝ่ายมากขึ้น มันก็อาจจะทำให้เขาเริ่มคิดอะไรบ้างก็ได้ อาจจะแต่ไหล่ ลูบศีรษะ โอบคอ หรือทำอะไรที่ไม่ดูน่าเกลียดจนเกินไป เอาแค่ให้พอสงสัย ว่าเค้าจะคิดอะไรกับเรารึเปล่านะเป็นพอ ถ้าทำมากไปแทนที่จะทำคะแนน กลับจะโดนต่อยกลับมามากกว่า

ลองทำทีเป็นสนใจคนอื่นถ้าเราลองทำทีว่าไปแอบชอบคนอื่น อีกฝ่ายจะมีท่าทียังไงบ้าง ถ้าเกิดคนที่เราแอบชอบ รู้สึกไม่พอใจ หงุดหงิด ก็หมายความว่าเขามีเปอร์เซ็นต์ ที่จะแอบชอบคุณอยู่เหมือนกัน แค่ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย เราก็อาจจะลองเปิดใจศึกษา หรือมองหาคนอื่นไปพลางๆ ใครจะรู้ คุณอาจจะเปลี่ยนใจ ไม่ชอบเพื่อนคนนั้นเมื่อเจอคนใหม่ที่ถูกใจกว่าก็เป็นได้

ลองหาโอกาสบอกตอนที่สบโอกาสโอกาสที่ว่าคือตอนไหน จะให้บอกไปเลยก็คงยาก เพราะคนเราจะเจอสถานการณ์ที่แตกต่างกันอยู่ทุกวัน แต่เหตุการณ์ทีน่าจะเหมาะสมที่สุด ก็คือตอนที่เพื่อนของเรา อยู่ในช่วงอ่อนแอ เช่น พบเจอกับเรื่องสะเทือนใจ กำลังเศร้า หรือรู้สึกไม่สบายใจ การเข้าไปช่วยปลอบโยน เข้าไปอยู่เคียงข้าง ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม และยังดูไม่น่าเกลียดอีกด้วย ตอนนั้นก็อาจจะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ หรือว่าคำพูด ทั้งนี้ก็ลองดูสถานการณ์ให้ดีด้วย

อย่ารีบร้อนการแอบรักเพื่อน และความฝันที่จะได้คบกับเพื่อนตัวเอง อาจจะไม่สมหวังอย่างที่ตั้งใจในตอนนี้ ใครจะรู้ ว่าถ้าผ่านเรื่องราวอะไรมามากมาย สุดท้ายถ้าความรู้สึกนั้นยังไม่เปลี่ยน ก็มีโอกาสที่คนสองคน จะมารักกันได้ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังมีอยู่ดี เรื่องนี้ มันอยู่ที่พรหมลิขิตรู้จักรักษามิตรภาพดีๆ ของคำว่าเพื่อนเอาไว้ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ความรู้สึกนี้ ก็ยังคงเป็นเรื่องที่สวยงามไม่เปลี่ยนแปลง

ขอบคุณรูปภาพจาก: soompi.com, tumblr.com