เรื่องเล่าของตุ๊ดคนนึงที่อยากแต่งงาน...

อ่าน 9,005

#ฉันเป็นตุ๊ดคนนึงที่อยากแต่งงาน เมื่อฉันโตขึ้น ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชายทั่วไป ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิง เวลาผ่านไป จนเราเข้าใจตัวเองมากขึ้น ว่าเราชอบเเละไม่ชอบอะไร แล้วเราก็ดำเนินชีวิตแบบที่เราชอบมาโดยตลอด จนช่วงเวลานึงของชีวิต ได้เจอกับคนที่เราคิดว่าคนนี้อะ โอเครที่สุดแล้วแหละ ทำไมเราอยากอยู่กับเค้าไปนานๆ ทำไมเราไม่เคยต้องการอะไรจากเค้านอกจากการที่อยู่ด้วยกันแบบนี้

จนวันนึงความคิดที่จะแต่งงานก็โผล่ขึ้นมาในหัว เราอยากแต่งงานมาก อยากใส่ชุดสีขาวเดินที่ชายหาด เลยถามเเฟนว่า เตงอยากเเต่งงานมั้ย เค้าบอกว่าก็อยากนะ แต่ยังหาคนที่ใช่ไม่ได้ เวลาผ่านไปช่วงนึง เค้าถามเราว่า แต่งงานกันมั้ย นาทีนั้นเป็นอะไรที่ไม่คิดว่านั่นคือเรื่องจริง นี่กุฝันป่าววะ ดีใจ ดีใจแบบบอกไม่ถูก และที่สำคัญคือตอนที่เค้าถามเรานั้น เเม่เค้าก็อยู่ด้วย แม่เค้ายังพูดถึงเรื่องจัดงานว่าจะช่วยเรื่องอาหารวันงาน เราดีใจมาก และรีบโทรไปบอกแม่ของเราว่า แม่ กอล์ฟขอแต่งงาน

คำแรกที่แม่พุดออกมาคือ มึงจะเอาจริงๆเหรอ แล้วมึงคิดว่าสังคมเค้าจะรับได้ไหม เราเลยถามแม่ว่า ถ้าสังคมรับไม่ได้ แล้วแม่รับลูกได้รึเปล่า แม่เบี่ยงประเด็นแล้วตอบว่า งั้นแล้วแต่มึง ถ้ามึงคิดว่ามึงเลือกแล้วก็ตามใจ ตอนนั้นคือน้ำตาจะไหลอะ เราเริ่มบอกเพื่อนว่า เรากำลังจะได้แต่งงานนะ หลายคนดีใจด้วย หลายคนเป็นห่วงว่ามันไวไปรึเปล่า หลายคนไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องจริง รู้สึกประหลาดใจ เพราะคิดว่าผู้ชายกับผู้ชายจะแต่งงานกันได้ไง เราไม่ฟังคำพูดใครเลย เพราะเรามีเป้าหมายอยู่ในใจ เราคิดว่าตอนนั้นเราสองคนโอเคร โอเครมากด้วย เราจะทำในสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข โดยที่ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

แล้วเราสองคนก็หาเวลาว่าง ไปดูฤกษ์ดีๆ จองพรีเวดดิ้ง ตามหาการ์ดสวยๆ ตามหาของชำร่วย ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติเหมือนการแต่งงานของผู้หญิงและผู้ชายทั่วไป เกือบๆครึ่งทางแล้ว จนมาวันนึงที่เราสองคนทะเลาะกันหนักมาก เลยได้ฉุกคิดอีกครั้งว่า มันไวไปรึเปล่าสำหรับตอนนั้น(อายุ18) แต่แฟนอายุ26 แล้วเราเพิ่งรู้อยู่ด้วยกันไม่นาน (ประมาณ5เดือน) คงยังไม่รู้จักนิสัยกันมากพอ จริงๆแล้วการแต่งงานสำคัญกับชีวิตคู่มากแค่ไหน แต่งงานทำให้เรารักกันมากขึ้นหรือน้อยลงรึเปล่า คิดไปคิดมา ถ้ามองข้ามเรื่องประเพณี มันเป็นแค่การจัดฉากในสังคมเท่านั้น เพราะความรักจริงๆอยู่ที่คนสองคน เลยตัดสินใจที่จะหยุดทุกอย่างไปก่อน จุดจบของความรักไม่ได้อยู่ที่การแต่งงานเลยด้วยซ้ำ

หลังจากการหยุดความคิดเรื่องแต่งงานไป เราก็ยังอยู่ด้วยกันปกติ แต่เราเเค่เปลี่ยนจุดหมายในตอนนั้น จากแต่งงาน เป็นช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว เราอยู่ด้วยกันได้อีก2ปี ก็มีเหตุให้ต้องแยกทางกัน แต่เรายังเป็นเพื่อนกัน คุยกัน เป็นห่วงกันเสมอ สุดท้ายเวลาจะบอกเราเองว่าความรักจริงๆแล้วมันคืออะไร มันไม่ได้ดูยาก แต่มันต้องใช้เวลา ไม่เสียใจนะที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเหมือนที่หวังเอาไว้ แต่ละคนมีเวลาของตัวเอง ถ้าทำเต็มที่แล้วก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ #เป็นกำลังใจให้กับคนที่มีความรักทุกคู่นร๊า #รูปเซ็ตนี้ถ่ายเมื่อวันที่20เมษายน2555 #ตอนหน้าออริจิ #ชอบก็แชร์ได้นะฮับ



บทความแนะนำ


เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์โปรโมชั่นพระราชาพระอาจารย์ชยสาโรขัดเกลาUniversalStudioประเทศญี่ปุ่นปกป้องโลกการข้ามมิติFantasticFourทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก