พฤติกรรมที่น่ารังเกียจในฐานะ "แฟนเก่า"

ขึ้นชื่อว่าของเก่า ถ้าไม่ใช่ของที่มีประโยชน์อย่างสินค้ามือสองหรือของสะสมแนววินเทจ ใคร ๆ ก็ไม่อยากรับ ไม่อยากได้กันทั้งนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็น ?แฟนเก่า? ก็เช่นกัน เลิกกันไปแล้วส่วนมากก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวอะไรกันอีกแล้ว

เป็นธรรมดาสำหรับทุกคู่ที่เลิกกันจะมีบ้างที่คิดถึงกัน คิดถึงวันวาน ยิ่งเลิกกันใหม่ ๆ แผลสด ๆ ยิ่งยากที่จะทำใจ อย่างไรก็ตามแต่ มันไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใดหากต้องการจะคุยกันเหมือนเดิม แต่อยู่ใน ?ฐานะใหม่? เป็นเพื่อน เป็นพี่น้องก็ว่ากันไป แต่ถ้ายังจะยื้อให้มาเป็นคนรักกันเหมือนเดิมให้ได้ด้วยพฤติกรรมต่อไปนี้ อย่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดคุณจะโดนสาปส่งไม่เป็นชิ้นดีกว่าตอนที่เลิกกันเสียอีก

พฤติกรรมที่น่ารังเกียจในฐานะ ?แฟนเก่า?

1.ทวงของที่เคยให้ไว้แบบทวงบุญคุณ ไม่ใช่เรื่องผิดถ้าจะต้องทวงของที่มันมีความสำคัญมากสำหรับการดำรงชีวิตต่อไป เช่น ทวงเงินที่เคยยืม, ทวงเครื่องมือทำมาหากินที่เคยซื้อไว้ร่วมกัน แต่ถ้าจะทวงเพราะเพียงแค่ไม่ต้องการให้มันตกในน้ำมือของอดีตแฟนล่ะก็ อย่าเลย... ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของอีกฝ่ายเถอะว่าจะเอายังไงต่อ ถ้ามันไม่ได้มีค่าอะไรมากก็ปล่อย ๆ ไปเถอะ

2. ติดตามไปถึงที่พัก ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนจะเคยเข้านอกออกในที่พักของคนรักได้สะดวกในแบบที่ว่าจะมีกุญแจห้อง มีคีย์การ์ด รู้ทางหนีทีไล่ได้หมด แต่เมื่อเลิกกันแล้วก็เท่ากับว่า ต่างคนต่างเริ่มต้นใหม่ กลับไปใช้ชีวิตตัวคนเดียวกันใหม่ ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใดที่จะต้องเกี่ยวข้องกันอีก การอ้างว่าเป็นคนเคยรักกันไม่ช่วยให้ข้อหาบุกรุกสถานที่เบาลงได้หรอก

3. ติดตามไปถึงที่ทำงาน ถ้าหวังว่าจะได้คืนดีกันหรือตกลงกันบางอย่างได้ลงตัวเพราะมีสายตานับสิบคู่ช่วยกดดันสถานการณ์ คุณคิดผิดเป็นอย่างมาก การสร้างความอับอายและทำให้เรื่องส่วนตัวมากระทบการงานโดยใช่เหตุนี่แหละ เขาจะยิ่งเกลียดคุณหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำไป

4. ขอคุยด้วยทั้งที่แยกกันไปมีใหม่แล้ว ไม่ว่าจะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีใหม่ หรือมีใหม่กันทั้งคู่ ไม่ว่าจะคุยกันต่อหน้าหรือลับหลังคนใหม่ ถ้าไม่ใช่เรื่องงานหรือภาระผูกพันเรื่องลูกที่มีด้วยกัน ก็ไม่มีเหตุอันใดจะต้องคุยกันอีกเด็ดขาด ความรักที่จบไปแล้วก็คือจบ และการที่มีใหม่นั่นก็หมายความว่าหมดอายุของความรักเก่าแล้ว เหลือแต่คุณเท่านั้นแหละที่จะต้องอยู่กับความจริงให้ได้ซะที ... ยิ่งยื้อกันไว้ ยิ่งเป็นการไม่ให้เกียรติกันทุกฝ่ายแม้กระทั่งชีวิตตัวคุณเอง

5. ทำร้ายร่างกาย ทำลายข้าวของ นิสัยแพ้แล้วพาลทำลายได้แม้กระทั่งคนเคยรักและสิ่งดี ๆ ที่มีให้กัน ไม่เพียงแต่เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจที่สุด แต่ยังเป็นพฤติกรรมที่น่ากลัวที่สุดอีกด้วย ต่อให้อดีตแฟนคุณเป็นฝ่ายผิดแค่ไหน หรือคุณรู้สึกน้อยใจที่ต้องแพ้ ก็ไม่สมควรที่จะต้องทำร้ายกันแต่อย่างใด คดีทำร้ายร่างกายไม่สามารถยอมความกันได้ ที่สำคัญคือมันไม่ใช่ ?เรื่องของผัวเมีย? เพราะคุณเลิกกันแล้ว

6. ฆ่าหรือทำร้ายสัตว์เลี้ยงที่เคยซื้อร่วมกัน บาปและน่าเกลียดน่ากลัวพอกันกับการทำร้ายแฟนเก่า ในเมื่อเลิกกันแล้วก็ไม่ควรจะพิพากษาชีวิตที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ให้ถึงกับบาดเจ็บหรือตายขนาดนั้น ถึงมันจะเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ แต่ขึ้นชื่อว่า ?ชีวิต? มันย่อมยิ่งใหญ่เกินกว่าจะฆ่าแกงอย่างเลือดเย็นได้ง่ายดาย ถ้าคุณยังมีหัวใจ ยังมีความเป็นคน จงเมตตามันต่อไปเถอะ

ถึงแม้ความรักจะเจ็บปวดที่สุดตอนเลิกกัน ก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่สวยงามเลย ...ถึงแม้ว่าจะต้องเลิกรากันไป ก็ใช่ว่าชีวิตคุณจะต้องดับลงเพียงแค่ไม่ได้คบกันในฐานะแฟนอีก... มีพบก็ต้องมีจาก เป็นธรรมดาของโลกอยู่แล้ว ถ้าคุณยอมรับความจริงได้ รู้จักเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างมีสติ ความสุขก็พร้อมจะวิ่งเข้าหาคุณเสมอ