9 เรื่องจริงที่คนมีแฟนอยากจะบอกสาวโสดให้รู้ไว้!!

อ่าน 10,587

เหมือนจะเป็นเรื่องน่าอิจฉาทันทีที่ได้ยินว่า มีแฟนแล้วหลายคนคงนึกภาพความกระหนุงกระหนิง หวานปานจะกลืนกินของคนสองคนหรือหวานจนไม่มีคนอื่นในสายตาเลยถ้าคิดว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอ ขอให้ทำความเข้าใจเสียใหม่โดยเฉพาะเพื่อนรักนักปรึกษา ที่มักจะเป็นคนโสดที่ทำเหมือนกูรูความรักรู้ดีไปเสียหมดหรือแม้กระทั่งเจ้ากี้เจ้าการยุแหย่สารพัดให้เพื่อนที่กำลังมีแฟนอยู่ไม่ว่าจะช่วงอินเลิฟหรือช่วงมีปัญหาก็ตาม

ฟังไว้บ้างก็ดี สิ่งที่เห็นว่าหวาน มีแฟนจนลืมเพื่อน บางทีไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปก็ได้

1. ความหวานไม่ได้มีแค่ช่วงโปรโมชันเสมอไป

ไม่ใช่ทุกคู่ที่จะหวานกันเฉพาะช่วงที่จีบกัน หลายคู่ก็ยังหวานให้กันต่อเนื่อง เพียงแต่การรู้จักกันมากขึ้น สนิทสนมกันมากขึ้น มันเลยทำให้พอจะรู้ขอบเขตและวิธีการแสดงออกที่หลายหลายขึ้นกว่าแต่ก่อนที่เรื่อยเปื่อย สะเปะสะปะก็เพียงเท่านั้น และบางคู่ก็เลือกที่จะหวานในแบบฉบับของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีของเป็นคู่ จำวันสำคัญได้หรืออยู่ด้วยกันให้ใครมาชมว่าหวานก็โอเคแล้ว

2. ความหวานไม่ได้แปลว่าคู่นั้นได้มีอะไรกันแล้วเสมอไป

ไม่ใช่ทุกคู่ที่รักกันมากขึ้นเพราะ sex และไม่ใช่เรื่องแปลกที่บางคู่จะรักกันอย่างยาวนานหลายปีโดยที่ยังไม่มีอะไรกัน นั่นอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาเห็นความสำคัญของธรรมเนียมบ้านเราอยู่ และมีทัศนคติความรักในอีกแบบหนึ่ง ที่ยุคนี้สมัยนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นก็เท่านั้นเอง

3. คนมีแฟน อยู่กับแฟน ไม่ได้แปลว่าไม่เห็นความสำคัญของเพื่อน

ถ้าเพื่อนน้อยใจเพราะคิดว่าเพื่อนติดแฟน ในมุมกลับกัน คนมีแฟนได้ยินเข้าก็น่าน้อยใจเช่นกันที่เพื่อนสาวโสดมีอะไรแล้วคิดไปเอง ไม่ยอมบอกกันตรง ๆ เพราะความเป็นจริงแล้ว เพื่อนถึงแม้จะมีแฟนก็ไม่ได้หมายความว่าแฟนสำคัญกว่าเพื่อน ทั้งแฟนและเพื่อนก็มีความสำคัญกันคนละอย่าง เพียงแต่บางทีเพื่อนสาวโสดเลือกที่จะกันตัวเองออกไปตามปกติบ้าง กระแนะกระแหนประชดประชันทำเป็นน้อยใจบ้าง เพื่อนกันซะอย่าง มีอะไรก็ควรบอกกันได้เสมอ โดยไม่ต้องเอาสถานะแฟนมาอ้างให้หงุดหงิดใจเปล่า ๆ

4. คนมีแฟน ไม่ชอบให้แซวเรื่องตัวเองกับแฟน

ไม่ได้แปลว่าแตะต้องไม่ได้ สนิทกันแค่ไหนก็ควรจะมีขอบเขตกันบ้าง บางเรื่องมันอาจมีเหตุผลลึก ๆ โดยส่วนตัวที่เจ้าตัวเองก็ขำไม่ออกและไม่ต้องการให้เป็นประเด็นในวงกว้าง สิ่งที่ควรทำเมื่อได้ล้ำเส้นกันไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ควรขอโทษมากกว่าถือเพียงแต่ว่าเป็นเพื่อนกันต้องละลาบละล้วงกันได้ทุกเรื่องไป

5. การรู้อะไรทีหลังที่เป็นเรื่องระหว่างเพื่อนกับแฟน

ไม่ใช่เรื่องที่ควรถือสากัน เพื่อนกันมีอะไรควรบอกกันตามตรงก็จริง แต่สิ่งที่บอกนั้นควรเป็นสิ่งที่อยู่ในระยะที่เจ้าตัวสบายใจแล้วด้วยเช่นกัน จะบอกช้าหรือบอกเร็ว ถ้ามันเป็นความจริง ไม่ได้หักหลังเพื่อนร้ายแรงมาก เพื่อนสาวโสดก็ควรยินที่จะรับฟังได้ทุกเมื่อ มากกว่าการจะมาถืออภิสิทธิ์ความเป็นเพื่อนกันไว้อย่างนั้น

6. ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่ขอให้ฟังในสิ่งที่เพื่อนกำลังระบาย ทุกปัญหาที่คนมีแฟนต้องการจะเล่ามักจะมีอินเนอร์มาเต็ม

ไม่จำเป็นต้องเชื่อในทันที ไม่จำเป็นต้องชี้แนะอะไรมาก เพราะวิธีการของคุณอาจใช้ไม่ได้ในความรักของคนอื่น เพราะแต่ละคนมีประสบการณ์ความรักที่ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นแล้ว สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือการรับฟังและปลอบใจแต่เพียงอย่างเดียว ส่วนเขาจะดีกันหรือหาจุดลงเอยยังไงต่อ ยกให้เป็นเรื่องของคนสองคนเถอะ

7. อย่ามองว่าการตัดสินใจบางอย่างเป็นเรื่องโง่

ถึงเพื่อนกันจะเคยด่ากันเล่นอย่างหยาบคายที่เคยเป็นมา แต่สำหรับเรื่องซีเรียสอย่างเช่นเรื่องความรัก ควรเห็นแก่เพื่อนเสียบ้างว่าสภาพจิตใจตอนนั้นไหวมั้ย? เจออะไรมา? ต้องการอะไรรึเปล่า? ในมุมมองคนนอก ปัญหามันก็ดูง่ายไปหมด หาทางออกได้หมด แต่ถ้าเจอกับตัวบ้าง มันก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ถึงแม้จะดูว่าเป็นเรื่องเล็กก็ตาม

8. อย่าออกตัวแรงแทนเพื่อน เมื่อแฟนของเพื่อนไม่ได้ดั่งใจ

เพื่อนมีสิทธิปกป้องเพื่อนได้ แต่ในเรื่องของคนสองคน เพื่อนก็เป็นคนนอกที่ไม่สามารถรู้ปัญหาได้ดีเท่าพวกเขา การเป็นเพื่อนอาจฟังได้แค่ความจริงข้างเดียว ซึ่งเท็จจริงอย่างไรก็ไม่รู้อีก และไม่ใช่ความจริงทั้งหมดก็เป็นไปได้ ทางที่ดีควรรับฟังอย่างเงียบ ๆ ปลอบใจกันเบา ๆ ก็เพียงพอแล้ว

9. อย่าตัดสินว่าเพื่อนจะมีสเปคตายตัวเสมอไป

สุดท้ายแล้วการรักกันก็เป็นเรื่องของการใช้หัวใจคุยกัน บุคลิกภายนอกจะเป็นหนุ่มเซอร์ หนุ่มหล่อ หนุ่มเนิร์ด หรือหนุ่มไหนมันก็แค่สเปคภายนอกเท่านั้น และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นอย่างที่เพื่อนเคยพูดไว้หรือหมายตาไว้ให้ฟังเสมอไป เวลาเปลี่ยน ใจคนเราก็เปลี่ยน เมื่อก่อนมีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง เดี๋ยวนี้อาจจะมีเงื่อนไขอีกอย่างหนึ่งก็เป็นไปได้



บทความแนะนำ


ข่าวาชญากรรม.ข่าวเด่นอาชญากรรมGrandeArianaเปลี่ยนสายลายพรางสายเหลืองทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก