วิธีอกหักแบบดูดี มีสติ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ซะที

ความรักในโลกของความเป็นจริงก็ไม่ต่างกับเกมกีฬาอย่างหนึ่ง ไม่มีใครสมหวังได้ตลอดไป และเมื่อเกิดความล้มเหลวขึ้นในที่สุด สิ่งที่ต้องยอมรับให้ได้ก็คือการที่ต่างคนต่างจบเกมด้วยความเคารพกัน แล้วแยกย้ายกันไปมีชีวิตใหม่อย่างสวยงาม

แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างนั้น เพราะมนุษย์เราเมื่อมีรักก็ต้องมีคาดหวัง และเมื่อผิดหวังก็ต้องรู้สึกเจ็บ และเสียใจเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตาม jeebme ขอให้ทุกคนรักอย่างมีสติ ประคับประคองตัวเองให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปได้ด้วยดี

แล้วจะทำได้อย่างไรบ้าง ? jeebme รู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากลำบาก แต่ถ้าไม่ลองทำดูสักตั้ง เราก็จะไม่ขยับไปไหนเลย และอาจแย่กว่าเดิมอีก จริงมั้ย ?

1. จำกัดเวลาเศร้าให้สั้นที่สุด ระบายอารมณ์ทุกอย่าง เคลียร์ทุกสิ่งที่ค้างคาใจให้หมดภายในเวลาสั้น ๆ แล้วสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ดึงตัวเองจมลงอีก หรือกลับไปมีอารมณ์แย่ ๆ แบบเดิมอีก เช่น สัญญากับตัวเองว่าจะร้องไห้ให้หมดภายใน 1 วัน เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะกลับมาดูแลตัวเองเหมือนเดิม

2. กันตัวเองออกจากพื้นที่ social media อย่าพยายามหาดูโพสต์เก่าๆที่เคยมีร่วมกันกับแฟนเก่า และอย่าโพสต์อะไรด้วยอารมณ์เด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เรื่องทุกอย่างที่ดูเหมือนจะจบยิ่งบานปลายไปกันใหญ่ อีกทั้งตัวเราก็จะไม่ต่างอะไรกับเด็กที่เรียกร้องความสนใจ เอาแต่พร่ำเพ้อ หาแก่นสารไม่ได้ เป็นขยะรกหน้าฟีดส์ที่คนดูแยกไม่ออกว่าโพสต์ไหนคืออารมณ์แย่จริง โพสต์ไหนแค่พูดลอย ๆ ควรเก็บตัวเองให้ห่างจาก social media ให้มากที่สุด ถ้าต้องการจะติดต่อใครตอนฉุกเฉินให้โทรไปจะดีกว่า

3. ถ้าไม่ไหว อย่าอายที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อน เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะดิ่งสู่ความรู้สึกที่แย่กว่านี้ อย่าเกรงใจที่จะโทรหาเพื่อนสักคนที่ไว้ใจที่สุดเพื่อให้เขาพาไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่การขังตัวเองเพียงลำพังอยู่ในที่มืด ๆ ทึบ ๆ บรรยากาศเศร้า ๆ ไว้รู้สึกดีขึ้นเมื่อไหร่ ค่อยปลีกตัวมาอยู่คนเดียวเหมือนเดิม

4. อย่าทำร้ายตัวเองซ้ำ ๆ ด้วยสิ่งเดิม ๆ เมื่อทุกอย่างมันจบลง คุณได้ระบาย ได้ปลดปล่อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเดินหน้าไปพบเจอกับสิ่งใหม่อย่างจริงจังเสียที หยุดวนเวียนแต่การคิดถึงเรื่องเก่า ตั้งคำถามกับสิ่งที่ผ่านพ้นไป จบก็คือจบ มีโอกาสได้ขึ้นมาพบแสงสว่างแล้ว อย่าดึงตัวเองลงสู่ความทุกข์อีก

5. หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะกระตุ้นความเศร้า ถ้าหัวใจยังไม่แข็งแรงดี อย่าเพิ่งฟังเพลงเศร้า ดูหนังดราม่า หรือสื่ออะไรก็ตามที่จะทำให้รู้สึกเครียด กดดัน คิดถึงเรื่องอดีต พยายามพาตัวเองไปยุ่งกับงาน อยู่กับเรื่องสนุก ๆ ให้พลังของความสุขชาร์จเข้าร่างกายเต็มที่ ปกติดีเมื่อไหร่ค่อยปรับโหมดเข้าสู่ภาวะปกติ

6. เข้าสู่ภาวะปกติดีเมื่อไหร่ ต้องเข้มแข็งให้มากเมื่อเจออะไรที่เป็นสิ่งยั่วยุ เป็นธรรมดาของโลกที่มีสุขก็ต้องมีเศร้า เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความทุกข์ได้ตลอดไป เมื่อใจเราเป็นปกติดีแล้วต้องมาเจอกับความทุกข์ในรูปแบบต่าง ๆ ควรตั้งสติให้มาก ปลง พิจารณาให้ดีว่านี่คือสัจธรรมชีวิต ใช่จะมีแต่เราที่ทุกข์ และใช่ว่าความสุขจะไม่มี ใครๆเขาก็เป็นกันทั้งนั้น สำคัญแค่เราจะอยู่อย่าง ?มีสติ? แค่ไหน

7. ฟังเสียงเชียร์ แต่อย่าฝังใจกับเสียยุ เลือกระบายหรือปรึกษาใคร นอกจากระวังตัวเองไม่ให้พูดในสิ่งที่ไม่ดีแล้ว ก็ควรฟังหูไว้หูในสิ่งที่คนอื่นให้คำแนะนำหรือปรึกษาด้วยเช่นกัน เพราะในสภาพที่เราอ่อนแอ เราก็มักแยกไม่ออกว่าคนใดเข้ามาด้วยความหวังดี คนใดเข้ามาเพียงเพราะอยากจะสะใจ และเพื่อนที่ให้กำลังใจก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป ยิ่งเป็นพวกยุให้รำตำให้รั่ว ชี้นำให้เห็นหมดว่าคนที่เพิ่งเลิกรากันไปชั่วเพียงใดก็ควรรับฟังไว้เฉย ๆ ก็เท่านั้น อย่าไปฝังใจจนกลายเป็นความเกลียดชัง เคียดแค้น เพราะจิตใจเราที่มีความพยาบาทคนอื่นจะผูกเราไม่ให้ไปไหน ไม่พบเจอกับสิ่งใหม่สิ่งดีเสียที ... ถ้าเลิกแล้วต่อกัน ก็ควรจบอย่างสวยงามที่สุด

8. ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น หมดเวลาที่จะพิรี้พิไรปล่อยเนื้อปล่อยตัวโทรม ถึงเวลาที่จะกลับมาเป็นคนเดิมหรือคนใหม่ที่ดูดีขึ้นเสียทีด้วยการฮึดขึ้นมาทำอะไรในสิ่งที่เพิ่มมูลค่าตัวเอง เช่น แต่งตัวให้ดีขึ้น ขยันทำงานมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นความโทรมจากช่วงอกหักจริง ๆ ไม่ใช่เพื่อต้องการจะไปเยาะเย้ยแฟนเก่าให้รู้สึกเสียดาย เพราะการดูแลตัวเองด้วยจิตใจที่รักตัวเองอย่างบริสุทธิ์ใจ ถึงต่อไปจะไม่มีใครเข้ามา เราก็จะยังดูดีเสมอตราบนานเท่านาน

9. ไม่ปิดกั้นตัวเองจากความรัก อย่าเอาเรื่องในอดีตมาปิดกั้นอนาคต ปล่อยตัวเองให้สบาย ๆ ใช้ชีวิตตามปกติธรรมดาเรื่อย ๆ บางทีคนที่เข้ามาอาจจะดีกว่าคนในอดีตก็ได้ หรือถ้าเขาไม่ดี ก็อย่าเพิ่งเหมารวมว่าเป็นเพราะสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การนำมาเปรียบเทียบกันไม่ทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นแต่อย่างใด ? Let it be ปล่อยไปตามหัวใจ ตามสบายจะดีกว่า

รักตัวเองให้มาก ๆ ไม่ว่าคุณจะกำลังรักหรือเลิกกับใคร เพราะสุดท้ายแล้วชีวิตของเราก็เป็นของเราไปอีกนาน และคนที่เฝ้ามองเราเสมอก็ยังมีอีกตั้งหลายคน ทั้งพ่อแม่ เพื่อน สัตว์เลี้ยง ความรักไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นที่สถานะเดียวกับคนเดียวเสมอไป : )

บทความดีดีจาก:http://www.jeeb.me/499?share