ถ้าอยากจะเลิก แค่ทำ 6 ข้อง่าย ๆ แต่ถ้าอยากจะรักต่อไปก็อย่าทำ

เมื่อเริ่มความสัมพันธ์แบบใกล้ชิด คู่รักมือใหม่หลายคนมักจะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะทำคะแนนเป็นผู้ให้ที่ดีที่สุดและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะซื้อความรักที่ลึกซึ้ง ได้รับรักตอบกลับมา และรู้สึกว่ามีตัวตน มีชีวิตชีวาอย่างมากในการอยู่บนโลกใบนี้ ในวัยแรกรุ่นหรือวัยเรียน การให้อะไรแบบสุดพลัง ความรักที่พลุ่งพล่านตามฮอร์โมน อะไร ๆ ก็ดูสดใส ไม่รู้สึกเสียดายและไม่คิดเผื่อใจที่จะให้ เพราะยังมีพลังเหลือเฟือที่จะสร้างใหม่หรือหาใหม่ได้เสมอ แต่เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะมากพอที่จะรับผิดชอบอะไรหลายอย่าง ความรักมันก็เป็นเรื่องยากขึ้นตามธรรมดา หลายคู่รักในวัยผู้ใหญ่มักจะมุ่งหวังไปที่การสร้างอนาคต สร้างความมั่นคง มากกว่าการหาเวลาเอาใจกันให้มากอย่างวัยรุ่น จึงไม่แปลกนักที่ในวัยผู้ใหญ่จะง่ายต่อการเลิกรากันไป หรือไม่ก็ถึงเวลาอันสมควรที่จะเป็นทองแผ่นเดียวกันเสียเลย เพราะทางเลือกในวัยผู้ใหญ่ไม่มีมากเท่ากับวัยรุ่น มีแต่เรื่องต้องตัดสินใจ มีแต่ภาระให้คิดมากกว่าที่เคยเป็น

แล้วอะไรที่จะเป็นหลักประกันว่าคู่รักที่คบกันมานาน หรือคู่รักที่เพิ่งบ่มเพาะรักกันได้ที่ในวัยผู้ใหญ่จะเป็นรักที่มั่นคงตลอดไป ? เป็นเรื่องโชคร้ายที่เราไม่สามารถหาคำตอบได้ถ้าจะโฟกัสที่ ?ความมั่นคงแน่นอน? เพราะชีวิตคนเรามันไม่มีความแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะรักในวัยใดก็ตาม เราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนสองคนในนาทีต่อไป ชั่วโมงต่อไป หรือวันต่อไป ไม่ว่าใครก็คาดเดาอนาคตไม่ได้ทั้งนั้น แต่สิ่งที่พอจะทำได้คือการรู้ว่าปัจจุบันมีความเป็นอยู่อย่างไร และจะรักษาสิ่งดี ๆ ที่อยู่นี้ให้นานได้อย่างไร

ถ้าคุณไม่อยากเสียคนรักไปโดยง่าย ไม่อยากเปลี่ยนคนรักให้เป็นศัตรูกัน นี่คือเหตุผล 6 ข้อที่คุณควรรู้ไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงและปรับตัวเข้าหากันอย่างเหมาะสม

1. ขาดการติดต่อสื่อสารกัน ?ต้นเหตุของความเสียใจ ก็คือความจริงที่สองเราไม่พูดกัน ...? เนื้อเพลง ๆ หนึ่งอธิบายได้ดีเกี่ยวกับการขาดการสื่อสารกัน อย่าลืมว่าการตกลงเป็นคู่รักกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟนกันหรือคู่สมรส ก็เท่ากับว่าหลายเรื่องนั้นเราเก็บไว้คนเดียวไม่ได้ หลายสถานการณ์ต้องแชร์กันเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาเสมอ อย่าเกรงใจที่จะพูดอธิบายอะไรออกไป และที่สำคัญ อย่าลืมรับฟังกันให้มากกว่าการพูดกัน มันไม่มีประโยชน์แน่หากมีคนพูดแต่ไม่มีคนฟัง และคุณจะต้องเสียใจมากกว่าเดิมแน่นอน ถ้าเก็บปัญหาไว้กับตัวเพราะมัวแต่กลัวอีกฝ่ายเสียใจ

2. ขัดใจกัน ด้วยภาระหน้าที่ของความเป็นผู้ใหญ่ หรือด้วยความเป็นตัวของตัวเองก็ตาม หลายคนมักคิดว่าไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องตามใจคนรัก เพราะคิดว่าคนรักจะรักที่ตัวตนอย่างไม่ปริปากบ่นสักนิด ถ้าคุณคิดเช่นนั้น คุณโฟกัสความสำคัญของการเป็นคนรักที่ดีผิด ! การเป็นคนรักที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีเวลา เงินทอง หรือตามใจอีกฝ่ายให้มากพอ แต่มันหมายความว่า ?คุณเคยหรือเปล่าที่จะใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ?? บางเรื่องมันอาจดูเล็กน้อย เป็นเรื่องงี่เง่า คุณจงทำเท่าที่พอจะทำได้เถอะ การเสียสละเวลาหรือความเป็นส่วนตัวเล็กน้อยทำเพื่อคนอื่นบ้าง มันก็ยังดีกว่าคุณไม่มีโอกาสได้ทำแล้วต้องเสียเขาหรือเธอไปตลอดกาล จริงหรือไม่ ?

3. ใช้อำนาจข่มกัน อย่างที่กล่าวไปในข้อ 1 ว่าการใช้ชีวิตคู่ก็คือการแชร์หลายเรื่องต่อกัน ฉะนั้นแล้ว เสียสละต่อกัน ลดทิฐิกันบ้างก็ควรเป็นสิ่งที่ทำอย่างยิ่ง ไม่ว่าภูมิหลังเดิมจะคุณจะเป็นคนเก่งแค่ไหน มีพื้นเพดีขนาดไหน อย่าใช้มาเป็นข้ออ้างในการเรียกร้องสิ่งที่ต้องการจากอีกฝ่ายในทำนอง ?ก็ฉันเป็น ... ฉันจึงสมควรได้? แต่จงทำเหมือนว่าเราทั้งสองต่างมีค่าเท่ากัน พร้อมจะสร้างทุกสิ่งร่วมกัน ไม่ทำให้ใครรู้สึกว่าด้อยน้อยค่ากว่ากันเลย

4. ไม่เชื่อใจกัน ความหึงหวงกันไม่เคยทำให้ความสัมพันธ์ใดดีขึ้น ตรงกันข้าม กลับทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกเสียเกียรติ (คนหนึ่งเสียเกียรติที่ต้องระแวง ส่วนอีกคนเสียเกียรติที่ถูกรุกรานพื้นที่และเวลามากไป) ถ้ายังจับมือกันแน่นพอ กอดยังอุ่นพอ จงให้เกียรติกันและกัน จงไว้ใจและเชื่อใจในความรักที่ร่วมกันสร้าง เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มระแวง เช็คให้ดีว่าตัวคุณหรือตัวเขาที่บกพร่อง หรือความสัมพันธ์ของคุณและเขามีอะไรที่ขาดหายหรือเกินไป

5. จมอยู่กับเรื่องเดิม ๆ ซ้ำซาก สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คู่รักหลายคู่ตัดสินใจเลิกรากันก็คือการวนเวียนอยู่กับปัญหาเดิม ๆ ไม่จบสิ้น ไม่มีการพัฒนาใด ๆ เกิดขึ้น เมื่อใดก็ตามที่เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้น หรือยังค้างคาใจกับปัญหาเดิม คุณมีทางเลือกเพียง 2 ทาง ระหว่าง 1)เคลียร์ให้จบ ไม่พูดถึงหรือนึกถึงอีก เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ให้เดินหน้าต่อไป และ 2) ตัดสินใจเลิกกัน ให้อิสระแก่กัน เพื่อต่างฝ่ายต่างมีชีวิตที่ดีกว่าการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแต่ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย

6. คิดถึงกันน้อยลง แต่ละคนย่อมมีภาระหน้าที่ของชีวิตแตกต่างกันไป และคงเป็นไปไม่ได้ถ้าเรารักใครแล้ว เมื่อชีวิตยุ่งเหยิงแค่ไหนจะไม่มีเสี้ยวนาทีที่คิดถึงคนที่คอยเป็นกำลังใจดี ๆ ให้เลย สักไม่กี่นาทีที่ได้โทรไปหาอีกคน ไม่กี่ชั่วโมงที่ได้ทานข้าวร่วมกัน ไม่กี่วันที่ได้ไปพักผ่อนด้วยกัน มันคงไม่ทำให้ธุรกิจหรือชีวิตด้านอื่นของคุณพังลงไปหรอก ตรงกันข้าม คุณอาจได้ชาร์จพลังเพิ่มขึ้นมามากด้วยซ้ำไป

และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกำลังโกรธเคืองกัน ไม่เข้าใจกันในบางอย่าง อย่าลืมมองย้อนกลับไปในวันที่ยังรักกัน ผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน มีช่วงเวลาที่แสนหวานต่อกัน คิดให้ดีระหว่างอารมณ์ชั่ววูบที่กำลังเกิดขึ้น คุณกำลังสับสนอะไรรึเปล่า ?