3 ความกลัวที่เป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์
คุณหรือคนใกล้ตัวเคยกลัวอะไรบางอย่างจนต้องกันตัวเองไปจากความสัมพันธ์อันดีหรือไม่ ? มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปเหมือนกับแค่ทะเลาะกัน งอนกัน เดี๋ยวก็ดีกัน แต่มันจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวคุณมีความกลัว 3 ข้อต่อไปนี้
1. กลัวการไว้ใจคนอื่น (Pistanthrophobia) :
ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ใครง่าย ๆ เพราะเคยมีประสบการณ์โดนหักหลังมาก่อน จนต้องแสดงออกบางอย่างที่เป็นไปในทางระแวง เช่น การโทรเช็คตลอดว่าเขาหรือเธอคนนั้นทำอะไร อยู่ที่ไหน, การจับประเด็นแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยมาถกเถียงกัน บางคนถึงกับฉวยโอกาสจากความสงสาร ความเชื่อใจของคนอื่นเรียกร้องผลประโยชน์เพื่อตัวเอง จึงไม่แปลกที่คนที่มีอาการเช่นนี้จะถูกจัดประเภทให้กลายเป็นคนไม่น่าคบ ไม่ว่าถูกจัดประเภทโดยตัวเองหรือคนอื่นก็ตาม
2. กลัวการตกหลุมรัก (Philophobia) :
เป็นผลมาจากการอกหักในอดีต และไม่รู้ว่าใครจะให้รักแท้กับตัวเขาหรือเธอบ้าง อาการนี้ส่งผลให้กลัวการถูกปฏิเสธด้วย เพราะคนที่เป็นอาการนี้เคยเจ็บปวดจากอดีตหรือรู้สึกว่าไม่เคยได้รับความรักดี ๆ เท่าที่ควร จึงตัดสินใจที่จะไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาเมื่อมีความสัมพันธ์กับใครอีกต่อไป บ่อยครั้งความคาดหวังก็นำไปสู่จุดที่เลวร้ายจนพวกเขาเลิกหวัง เลิกพยายามเพื่ออะไรหรือเพื่อใครอีก
3. กลัวการผูกมัด (Commitmentphobia) :
กลัวที่จะสานต่อบางสิ่งให้ก้าวต่อไป พอใจในความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่นี้จนไม่อยากจะพัฒนาให้ไกลกว่านี้ แล้วจัดวางความสัมพันธ์ที่ตัวเองปรารถนาไว้ในใจ (เช่น ในฐานะแฟน ในฐานะสามี ในฐานะภรรยา) ความวิตกกังวลเป็นปัญหาใหญ่มากถึงขนาดที่เป็นคนไม่มีเหตุผลในความสัมพันธ์ จนดูแล้วคนประเภทนี้อาจจะโกหก, หลอกลวง หรือทำร้ายความรู้สึกคนอื่น ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็แค่เป็นวิธีหาทางออกของพวกเขาก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ สำหรับทางออกของปัญหาเหล่านี้ คุณต้องพยายามมองให้ออกและพยายามเข้าใจถึงอะไรก็ตาม ที่จะเป็นการขัดขวางกันพบผู้คน หรืออาจจะส่งผลต่อความสัมพันธ์อันดีให้สั่นคลอนลงแล้วควบคุมมันให้ได้ ต้องกล้าที่จะเริ่มรัก, เชื่อใจ,และกล้าที่จะผูกพันด้วยตัวเองเพื่อความรู้สึกที่ดีขึ้น กล้าที่จะเปิดโอกาสให้กับคนอื่น แล้วคุณก็จะได้พบเจอคนดี ๆ ที่กล้าเข้ามาแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ ให้คุณกล้าแบ่งเบาความทุกข์ของคุณ ชีวิตไม่ได้เจอแต่คนแย่ ๆ เรื่องแย่ ๆ เข้ามาตลอดไปแน่นอน
แต่สำหรับคนที่รู้สึกว่ามันแย่เกินกว่าจะบรรเทาความกลัวด้วยตัวเอง คุณลองมองหาจิตแพทย์, โค้ชฝึกพลังจิต, คนในครอบครัว, หรือเพื่อนสนิทที่พร้อมจะให้พลังด้านบวกกับคุณ เพื่อความสุขของชีวิตคุณมากกว่านี้
