"แฟนบ้างาน" รับมือได้กับ 6 วิธีตามนี้ !

ปฏิเสธไม่ได้ว่าจังหวะชีวิตที่เร่งรีบถูกควบคุมด้วยการแข่งขัน โดยเฉพาะเรื่องงาน ถ้าก้าวพลาดแม้แต่นิดเดียวก็มีผลต่อปากท้องด้วยเช่นกัน หลายคนจึงพยายามหาความก้าวหน้าในตำแหน่งการงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับบรรดาผู้ชายทั้งหลายที่ต้องการสร้างความเป็นผู้นำที่สมบูรณ์พร้อมพอที่จะดูแลครอบครัวได้ จนบางทีแล้วผู้หญิงต้องมานั่งงอน น้อยใจ แอบบ่นที่ไม่มีเวลาส่วนตัวให้มากพอเสียเลย

หากคุณเป็นผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่เช่นเดียวกับแฟนคุณ อย่าอ้างว่ามันเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่จะต้องน้อยใจเป็นแม่แสนงอนที่ต้องการความเอาใจใส่ตลอดเวลา ถ้าคุณรักเขาจริง จงเชื่อใจและมั่นใจในตัวเขาให้มาก เพราะหากมองในมุมกลับกันแล้วคุณเป็นฝ่ายที่เครียดกับการสร้างอนาคต คุณคงอกแตกตายแน่ที่เรื่องส่วนตัวก็ทำเอารู้สึกเหนื่อยหน่ายไม่แพ้ไปกว่างาน

1. เข้าใจองค์ประกอบของชีวิตให้มาก คุณต้องเข้าใจว่าในความเป็นจริงของชีวิตไม่ได้มีเพียงแค่คุณและเขาแค่สองคน ยังต้องมีหน้าที่การงาน มีการสร้างฐานะและครอบครัวซึ่งเป็นภาระของทั้งคุณและเขา ฉะนั้นแล้ว อย่าจุกจิกกับเขาเกินเหตุ จงใช้เวลาร่วมกันเท่าที่เขาพอจะมีให้ได้อย่างสะดวกใจ แล้วความสัมพันธ์ของคุณจะราบรื่นด้วยความเข้าใจกันดี

2. จงอดทน จงเชื่อมั่นในความคิดและการตัดสินใจของเขาที่มีต่ออาชีพของเขา บางทีแล้วเขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่ตำแหน่งที่ใหญ่โต แต่เพราะตำแหน่งที่ใหญ่โตมันหมายถึงครอบครัวที่มั่นคงขึ้น หมายถึงศักยภาพที่จะดูแลคุณได้ดีขึ้นเขาจึงจำเป็นต้องทุ่มเทอย่างมาก จงอดทนหากคุณไม่ได้เจอกันบ่อย ไม่หวานชื่นน่าอิจฉาอย่างคู่อื่น อย่าคิดเล็กคิดน้อยจนขัดขวางหรือบั่นทอนกำลังใจเขา เพราะคุณนั่นแหละที่เป็นแรงบันดาลใจของเขาอย่างมากที่มีผลต่อความสำเร็จและชีวิตของเขาด้วย

3. พูดคุยกันอย่างเปิดอก ถ้าคุณรู้สึกว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้มันทำให้คุณรู้สึกอึดอัดกว่าที่เคย จงเปิดอกคุยกันอย่างจริงใจและตรงไปตรงมา บอกเขาให้รู้ว่าคุณต้องการอะไร และในขณะเดียวกันก็รับฟังความต้องการของเขาด้วยเช่นกัน การอดทนเพียงอย่างเดียวแล้วกระฟัดกระเฟียดแต่อ้อม ๆ เขาไม่มีวันรู้หรอกว่าคุณต้องการอะไรกันแน่ และอาจทำให้คุณไม่ถูกใจเท่ากับการสื่อสารกันโดยตรง

4. เข้าใจเขาให้มากขึ้น เพศชายมีสัญชาตญาณผู้ล่าอยู่ในตัว เขาไม่ต้องการให้ใครมาควบคุมเขา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ปรนเปรอคุณเสียเลย หากเขารู้สึกว่าได้รับความพึงพอใจและคุณมีเหตุผลพอเสียอย่าง มีหรือที่เขาจะไม่เห็นค่าคุณเสียเลย ฉะนั้นแล้ว อย่าเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการเขามาก จงเข้าใจจังหวะชีวิตของเขาให้ได้ว่าในเวลาใดเขาทำอะไรอยู่ อย่าเข้าไปควบคุมเขาเหมือนกับว่าเขาเป็นเด็กอมมือที่ไม่รู้ว่าเวลาไหนควรไม่ควร 5. ยอมรับให้มากขึ้น คุณพร้อมที่จะยอมรับความทุ่มเทในหน้าที่การงานของเขาหรือไม่ ? ทรมานแค่ไหนจากความบ้างานของเขา ? ถ้าคุณเข้าใจและอดทนได้ คุณก็อย่าปริปากเหน็บแนมเขาเด็ดขาด มันก็เหมือนกับที่เขาตามใจคุณทั้งที่เขาเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างนั่นแหละ ถึงตาคุณแล้ว คุณก็ต้องยอมรับให้ได้ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเขา และจะทำให้เขาและคุณมีความสมบูรณ์มากขึ้น

6. มองหาจุดสมดุลร่วมกัน คนบ้างานเขาอาจจะถูกครอบงำด้วยงานมากไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโลกของเขาและลมหายใจจะเป็นแต่งาน งาน และงาน ตลอดเวลา เขาก็ต้องการใครสักคนมารับฟังปัญหา ให้กำลังใจ ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ ดึงเขาออกจากความเครียดและความกดดันบ้าง อย่าคิดจะปล่อยเขาให้จมกับงานให้สาสมกับที่ให้เวลาคุณน้อยมาก เขายังต้องการคุณเป็นฝ่ายสนับสนุนและส่งเสริมอยู่ข้างหลังเสมอ การโอบกอดเขา ถามไถ่ทุกข์สุข เป็นเพื่อนคู่คิด จะช่วยเติมสมดุลชีวิตเขาไม่ให้รู้สึกว่างานกำลังครอบงำเขาเกินไป และคนรักก็ยังไม่จากไปเพราะงาน

อย่างไรก็ดี เดี๋ยวนี้ผู้หญิงหลายคนก็ผันตัวเป็น working woman ที่เก่งทั้งนอกบ้านและในบ้าน ฉะนั้นแล้ว การร่วมสร้างอนาคตจึงเป็นสิ่งที่ควรทำร่วมกันทั้งสองฝ่าย และควรเข้าใจกัน สื่อสารกันอยู่สม่ำเสมอด้วย เพราะอย่างไรแล้ว ชีวิตคู่ ก็คือชีวิตของคนสองคน และคนสองคนก็มีสิทธิมีเสียงเท่ากันในการตัดสินใจร่วมกัน