กฎเหล็กของการเป็นแฟนฟรีแลนซ์ ห้าม... ห้าม.. และห้ามอะไรบ้าง?

นับตั้งแต่กระแส slowlife , hipster, จนกระทั่งกระแสภาพยนตร์ฟรีแลนซ์ฯ ของค่ายGTHที่กำลังจะเข้าฉายในเร็ว ๆ นี้ เรายิ่งเห็นได้ชัดเจนว่าคนรุ่นใหม่สนใจอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์มากเพียงใด แต่ละสายงานก็ล้วนแต่สอนวิชากันให้พรึ่บ ตามไปค้นตามไปดูได้ไม่ยาก แต่ชีวิตของคนที่เป็นแฟนฟรีแลนซ์นี่สิ จะมีใครสอนหรือมีใครเข้าใจบ้าง?

ถ้าคุณกำลังจะเป็นแฟนฟรีแลนซ์ หรือเป็นไปแล้ว มาดูกันว่าแฟนฟรีแลนซ์ห้าม... ห้าม.. และห้ามอะไรบ้าง?

1. ห้ามถามหาเวลาพักผ่อน ถึงแม้งานฟรีแลนซ์จะเป็นงานที่ค่อนข้างมีอิสระในเรื่องเวลา แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นอิสระในด้านการพักผ่อน เพราะยิ่งหยุดเมื่อไหร่ รายได้ก็ยิ่งน้อยเท่านั้น จงภูมิใจเถิดที่มีแฟนขยันทำงาน ไว้เขาสามารถลาหยุดหรือชวนไปทานข้าวได้เมื่อไหร่ค่อยว่ากัน อย่าเพิ่งไปเซ้าซี้ถามหาความแน่นอนอะไรมาก

2. ห้ามคอนโทรลชีวิตเขา อาชีพฟรีแลนซ์หรืออาชีพอิสระ แน่นอนว่าย่อมส่งผลให้ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวมีความอิสระอย่างแยกกันแทบไม่ออกเช่นกัน ถ้าคุณหวังว่าเมื่อไหร่เขาจะทานข้าวตรงเวลา ทำไมงานสำคัญบางเทศกาลถึงไม่กล้าทิ้งงานมาหากัน ทำไม ๆๆๆๆ ... ถามไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเขาก็ไม่สามารถกำหนดความแน่นอนได้ จะพักจะหยุดได้เมื่อไหร่ล้วนแต่ up to งานเท่านั้น ถ้าไม่อยากนอยด์ คุณควรทำหน้าที่แฟนที่ดีด้วยการช่วยดูแลเขาในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาไม่ค่อยมีเวลาจัดการด้วยตัวเอง เช่น จัดอาหารสุขภาพให้ทาน, ทำความสะอาดของใช้ส่วนตัว, ซื้อขนมซื้อน้ำไว้เป็นเสบียงช่วงที่เขาปั่นงาน

3. ห้ามนำเรื่องเล็กน้อยมาเป็นประเด็นทะเลาะกัน ลำพังแค่งานที่แสนจะหนักหนา หาเวลาพักผ่อนแทบไม่ได้ก็ดูดพลังงานมากพอแล้ว พยายามอย่าทำให้เขาต้องเหนื่อยใจด้วยการน้อยใจในเรื่องไม่เป็นเรื่อง และให้กำลังใจเขามาก ๆ จะดีกว่า บางคนเหนื่อยกายยังพอทนไหว แต่เหนื่อยใจคือชีวิตงานพัง สมาธิพัง ไม่มีกำลังใจจะทำงานอีกต่อไปแล้ว

4. ห้ามยุ่งกับอุปกรณ์การทำงานของเขา อย่าทะเล่อทะล่าเผลอไปแตะโน่นจับนี่เล่นโดยอ้างสิทธิ์ความเป็นแฟนกันเด็ดขาด เพราะเครื่องมือที่ต้องใช้ทำมาหากินบางอย่างก็ราคาแพงมาก บางอย่างตามหาแหล่งซื้อได้ยากมาก บางอย่างlimited editionจริง ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่เครื่องมือเขาพัง ก็เท่ากับว่าตัดช่องทางทำมาหากินของเขาด้วยเช่นกัน

5. ห้ามไล่ลูกค้า การไล่ลูกค้าก็เหมือนทำเงินหายวับไปพริบตา เพราะงานฟรีแลนซ์คืองานที่ขายฝีมือเป็นหลัก กว่าฝีมือจะไปต้องตาต้องใจลูกค้าได้นับว่าเป็นพระคุณอย่างสูงมาก อีกทั้งลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นขาจรมากกว่าขาประจำ ไม่ได้หากันง่าย ๆ เหมือนที่บริษัทที่ส่วนใหญ่ล็อคไว้แล้วว่าจะขายของให้กับใคร นอกจากเครื่องมือทำมาหากินที่ห้ามแตะต้อง ลูกค้าก็ห้ามคนเป็นแฟนทำกริยาอาการใด ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน ต่อให้หึงหวงแค่ไหน ขอให้เขาดีลงานให้เรียบร้อยก่อนเถอะนะ

6. ห้ามถามหาของขวัญแพง ๆ กว่าจะได้เงินมาทุกบาททุกสตางค์ต้องใช้แรงกายแรงใจ เสียเหงื่อเสียน้ำตาไปเยอะมาก อีกทั้งรายได้ก็ไม่แน่นอนสักเท่าไหร่ พอได้เงินมาแต่ละครั้งก็ใช่ว่าจะกินเที่ยวอย่างเดียว ยังต้องกระจายความเสี่ยง เช่น เปิดบัญชีกินดอกเบี้ย, ลงทุนในหุ้น, ซื้อประกันสุขภาพ, ต่อยอดธุรกิจในอนาคต ฯลฯ เพราะฉะนั้น จะซื้ออะไร อยากได้อะไรต้องคิดให้ดี เงินทองของฟรีแลนซ์มันไม่ได้มาง่าย ๆ เหมือนเงินเดือนของชาวอ๊อฟฟิศนะเธอ

7. ห้ามบ่นว่าทีเครื่องมือทำไมซื้อมาแพง ซื้อมาอยู่ได้ ความสำคัญของอาชีพอิสระคือการขายฝีมือและแรงงาน ยิ่งพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ฝีมือโดนใจลูกค้าได้มากเท่าไหร่ นั่นก็หมายความว่ามีโอกาสที่จะอัพโปรไฟล์ อัพค่าแรงได้ และขายงานได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น อย่าไปบ่นว่าทีของขวัญแพงล่ะซื้อให้ไม่ได้ ทีอย่างงี้ล่ะทุ่มไม่อั้น มันคนละเรื่องกันนะที่รัก ... นี่มันเรื่องปากท้องที่ต้องหากินกันอีกยาวนะ ถึงตอนนั้นที่มีเงินมากขึ้น เธออยากได้อะไรก็จะได้มากกว่าตอนนี้อีกตั้งเยอะไง

8. ห้ามโลเล สำคัญที่สุดของการเป็นแฟนกันก็คือความเชื่อใจและไว้ใจกัน ยิ่งเป็นแฟนฟรีแลนซ์แล้วยิ่งต้องไฮไลท์หนา ๆ ให้พอกันกับความรัก เพราะชีวิตของฟรีแลนซ์อยู่บนความไม่แน่นอน ช่วงไหนที่งานน้อย เงินไม่ค่อยหมุน อย่าเพิ่งถอดใจทิ้งกันไปก่อนล่ะ อยู่เป็นกำลังใจกันไปนาน ๆ นะเธอ