เลิกงมงาย แล้วหันมาเข้าใจอารมณ์ "อกหัก" แบบวิทยาศาสตร์กันเถอะ

อ่าน 8,042

คนส่วนใหญ่ยาม อกหัก

ก็มักจะดำดิ่งอยู่กับอารมณ์เศร้า ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาเนอะไม่ว่ากัน

พอสตรองแล้วก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่

แต่ก็มีหลายคนที่ทิ้งตัวยาวกับความเศร้าจนฉุดไม่ขึ้น

รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นโรคซึมเศร้า ไม่เป็นอันเรียนหรือเสียการเสียงาน

หรือที่ร้ายกว่านั้นคือ สูญเสียความอยากมีชีวิตบนโลกใบนี้ต่อไป

ถ้าการนั่งฟังเพลงอกหัก ดื่มเหล้าเมามาย ยืนร้องไห้กลางสายฝน หรือเปิดฝักบัวอาบน้ำทั้งเสื้อผ้านั้นไม่สามารถช่วยเธอได้

ลองมาฟังคำอธิบายสภาวะอกหักแบบวิทยาศาสตร์ดูไหม

มาเข้าใจธรรมชาติของตัวเรากับอาการอกหัก เผื่ออะไรที่เคยยากมันจะง่ายขึ้น

  • หงุดหงิดผิดหวัง

นักวิทยาศาสตร์บอกว่าอาการอกหักในช่วงแรกนั้นเรียกว่าช่วงต่อต้าน

(ยังรับไม่ได้ ปรับใจไม่ทัน) ซึ่งเต็มไปด้วยความผิดหวัง หงุดหงิดใจ

ไม่พอใจ อันเป็นผลมาจากสมองส่วนที่ควบคุมความรู้ความเข้าใจต่าง ๆ

ทำงานผิดปกติไปนั่นเอง ในช่วงนี้ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนโดพามีน และ นอร์อิปิเนฟริน

ในระดับสูงมาก เจ้าฮอร์โมนตัวนี้ปกติจะทำให้เรารู้สึกดีมีความสุข

แต่ในยามอกหักผิดหวังพวกมันกลับทำให้เรารู้สึกแย่มากกว่าปกติหลายเท่าเลยทีเดียว

(สุขมาก?ก็?ทุกข์มาก) อาการที่เกิดขึ้นคือ หมดเรี่ยวแรง

เพ้อถึงแต่ความหลัง นอนไม่หลับกระสับกระส่าย

  • เจ็บแค้นเคืองโกรธ

ความโกรธเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ

ตราบใดที่เรายังควบคุมตัวเองได้อยู่

แต่ความโกรธในช่วงอกหักนี้เป็นอะไรที่ควบคุมยากกว่าปกติ

ซึ่งเป็นผลมาจากสมองในส่วน Amygdala

ที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องความทรงจำ การตัดสินใจ และการตอบสนองต่ออารมณ์

และในยามโกรธระดับฮอร์โมนเซโรโทนินจะลดลงฮวบฮาบ

ซึ่งมีผลต่อการควบคุมอารมณ์ความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเจ็บปวด

ความต้องการทางเพศ บลาบลาบลาระดับเซโรโทนินที่ไม่สมดุลทำให้เกิดความเครียด

คิดหมกมุ่น และนำไปสู่การทำอะไรแบบขาดความยับยั้งชั่งใจ หุนหันพลันแล่น

(อย่างเช่น ไปทำร้ายร่างกายคนอื่น หรือตัวเอง)

และยังส่งผลไปถึงระบบการย่อยอาหาร อาจเกิดอาการอาหารไม่ย่อย

หรือคลื่นไส้อาเจียน อีกด้วย

  • สิ้นหวังเดียวดาย

ความรู้สึกสิ้นหวังเดียวดายเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับคนอกหักเป็นปกติ

เพราะระดับฮอร์โมนโดพามีน เซโรโทนีน และนอร์อิปิเนฟรินที่ไม่ปกตินี่เอง

อาการที่เกิดคือรู้สึกหดหู่ หมดอาลัยตายอยาก หมดสภาพ

จากการสำรวจชิ้นหนึ่งพบว่า 3 ใน 4

ของคนอกหักที่เกิดอาการสิ้นหวังเดียวดายนี้มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย

เจ้าระดับความสิ้นหวังหดหู่นี้ยังแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลอีกด้วย

มีงานวิจัยรายงานว่าผู้ชายเมื่อสิ้นหวังมักจะหันไปพึ่งแอลกอฮอล์หรือยาเสพติด

ในขณะที่ผู้หญิงมีแน้วโน้มที่จะมีอาการร้องไห้ฟูมฟาย

คร่ำครวญหวลไห้ไม่หยุด หรือไม่ก็ตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลยจ้า

วิธีรับมือกับอารมณ์ยามอกหัก :

  1. กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมาให้มากที่สุด

    ด้วยการพาตัวเองไปอยู่กับบุคคลหรือเรื่องราวอะไรก็ได้ที่ทำให้เรายิ้มหรือหัวเราะออกมา

    หาหนังตลก เดี่ยวไมโครโฟน หรือเปิดคลิปฮาๆ ตามแต่ความชอบส่วนตัว

    บังคับให้ร่างกายได้ยิ้มได้หัวเราะวันละนิดวันละหน่อยก็ยังดี

  2. อย่าจมอยู่กับห้องมืด

    ๆ ทั้งวัน

    ให้ออกไปรับแสงสว่างภายนอกด้วยจะช่วยกระตุ้นต่อมไพเนียลในสมองที่จะเป็นตัวหลั่งสารเซโรโทนินออกมาในตอนกลางวัน

    ทำให้ร่างกายทำงานปกติ ไม่ง่วงเหงาหาวนอนในตอนกลางวัน

    ส่วนตอนกลางคืนก็จะได้รู้สึกง่วงตามปกติ

  3. ระบายมันออกมา

    เช่น หาสมุดบันทึกสักเล่มมาเขียนเล่าความรู้สึก ดูอย่าง เทเลอร์ สวิฟท์ สิ

    นางอกหักทีไรแต่งเพลงออกมาขายได้ขายดีทุกที (พลิกวิกฤติเป็นโอกาส!)

    หรือคุยกับเพื่อนสนิทที่เราไว้ใจได้

    การพูดหรือเขียนออกมาจะช่วยให้เราได้เรียบเรียงสติ มองเห็นจุดปัญหา

    ซึ่งนำไปสู่การค่อย ๆ ยอมรับมัน ดีกว่ามโนฟุ้งซ่านอยู่ในความคิดคนเดียว

    (เดี๋ยวเพื่อนอกหักเราก็สลับมาเป็นผู้ฟังบ้างเนอะ)

  4. ปรนเปรอตัวเอง

    ด้วยการทำสิ่งที่เรามีความสุข เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมา

    เช่น กินอาหารอร่อยๆ ไปนวดหน้านวดตัว ทำให้ตัวเองรู้สึกดี

    แม้สักนิดสักหน่อย ถึงใครเขาจะไม่รักเราแต่เราต้องรักตัวเองค่ะซิส!

  5. ไปสมัครเรียนทำอะไรสักอย่างที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เช่น เรียนทำขนมปัง ขี่ม้า เล่นดนตรี เรียนแต่งหน้า

    อะไรก็ว่าไป ถึงจะเรียนไปเศร้าไปก็เถอะ

    แต่เราจะไม่จมอยู่กับความเศร้าตลอดเวลา และการได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ

    จะช่วยเพิ่มความรู้สึกนับถือตัวเอง เมื่อเรารู้สึกว่าตัวเองมีค่า

    เราก็จะค่อย ๆ ลืมคนที่เค้าไม่เห็นคุณค่าของเราไปเอง!

ไม่เร็วก็ช้า ร่างกายจะค่อย ๆ

ปรับสมดุลตัวเองได้ในที่สุด

เมื่อถึงเวลานั้นอาการเฮิร์ททั้งหลายก็จะค่อยๆหายไป

จนไปถึงจุดที่เราทำใจยอมรับความเป็นจริงได้ในที่สุด

แม้อาจจะมีร่องรอยเหลือไว้ให้เจ็บจี๊ดเวลาไปสะกิดแผลอยู่บ้างก็เถอะ

Credit: everydayfeminism.com



บทความแนะนำ


YoutubeMiserablesโปรเจคต์ใหม่Lesออสการ์พรีเมียมไอศกรีมBaskin-Robbinsเทคโนโลยีทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก