หญิงสาวช่วยชีวิตงูไว้ ผ่านไป 1 ปีมันจึงกลับมาและทำแบบนี้?

นี่เป็นเรื่องที่ผมได้ฟังจากคุณตามาตั้งแต่สมัยที่ผมยังเด็กวันนี้คุณตาก็อายุได้ 90 กว่าปีแล้วคุณตาเล่าให้ฟังว่าสมัยที่คุณตายังเด็กในหมู่บ้านมีหญิงหม้ายอยู่คนหนึ่ง เธอไม่มีลูกแต่เธอจิตใจดีและรักเด็กมากตอนนั้นคุณตาเป็นเด็กซุกซนที่ชาวบ้านต่างไม่ค่อยชอบนักซึ่งก็มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยดุด่าว่าคุณตาเลยแถมยังมักจะให้ขนมมาให้ทานบ่อย ๆ อีกด้วย

เธอเป็นผู้หญิงที่เรียกได้ว่าค่อนข้างโชคร้ายมาตลอดทั้งชีวิตพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเล็กเมื่อโตมาสามีของเธอก็มาป่วยจนเสียชีวิตไปหลังจากแต่งงานได้เพียงไม่กี่ปีคนในหมู่บ้านจึงรู้สึกรังเกียจเธอ เพราะกลัวว่าเธออาจจะนำโชคร้ายมาให้แต่จริง ๆ แล้วเธอเป็นผู้มีจิตใจดีมากเธอไม่เคยฆ่าสัตว์และกินมังสวิรัติมาตลอดทั้งชีวิต มีวันหนึ่งคนในหมู่บ้านบังเอิญจับงูตัวใหญ่ที่พลัดหลงเข้ามาในหมู่บ้านได้พวกเขาจึงวางแผนนำไปประกอบเป็นอาหาร แต่เมื่อเธอไปพบเข้าจึงรีบวิ่งไปขอร้องคนในหมู่บ้านปล่อยมันไป และยังบอกอีกว่า ?งูตัวนี้กว่าจะโตมาได้ขนาดนี้ต้องใช้เวลานานแค่ไหนไม่มีใครรู้ ถ้าวันนี้เราปล่อยมันไปถือเป็นการสะสมบุญวันหนึ่งเราทุกคนจะต้องได้รับผลตอบแทนแน่ ๆ?

นับว่าโชคดีที่คนในหมู่บ้านก็ไม่ได้นิยมบริโภคเนื้องูภายหลังงูตัวนี้จึงถูกนำไปปล่อยในป่า เมื่อหญิงหม้ายได้ยินว่าชาวบ้านได้ปล่อยงูไปแล้วเธอก็ดีใจมากและนำอาหารแห้งในบ้านเธอมาแบ่งปันให้ทุกคน ถึงแม้เธอจะพูดเสมอว่าการปล่อยสัตว์คือการทำทานซึ่งการทำดีก็ย่อมได้รับผลดีแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นสักนิดเมื่อเธอเกิดเดินพลัดตกจากภูเขาจนทำให้ขาได้รับบาดเจ็บและต้องพักฟื้นอยู่แต่ในบ้าน จึงทำให้มีผู้ประสงค์ร้ายรู้แล้วแอบบุกเข้ามาในบ้านเธอเพื่อขโมยของ

ในคืนวันฝนตกหนักขณะที่เธอกำลังนอนบนเตียงโดยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คนร้ายจึงใช้โอกาสนี้บุกเข้าบ้านเธอเขาต้องการขโมยเอาทรัพย์สมบัติที่เธอสะสมไว้ คนร้ายยังใช้ของแข็งฟาดเข้าที่ศีรษะเธออีกด้วย เธอได้ร้องขอชีวิตว่า ?อยากได้อะไรก็เอาไปเลย แต่อย่าทำร้ายฉัน? แต่จู่ ๆ คนร้ายก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้น เธอพบว่ามีงูตัวใหญ่แอบเลื้อยเข้ามาในบ้านเธอและได้กัดที่ขาของโจรจากข้างหลัง พิษของงูทำให้คนร้ายหมดสติไปในวันรุ่งขึ้นชาวบ้านจึงสามารถช่วยกันจับโจรส่งตำรวจได้

หลังจากนั้นเป็นต้นมา คนในหมู่บ้านก็ไม่คิดจะทำร้ายงูอีกเลย แถมบางคนยังเลี้ยงงูไว้เป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วยเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การปิดทองหลังพระ ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นแต่ตามคำสอนของหลักพุทธศาสนาว่าการทำดีย่อมได้ผลดีนั้นเป็นสิ่งที่ควรยึดปฏิบัติเพราะผลของการกระทำนั้นย่อมตามมาอย่างแท้จริงอยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น !

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: Manyum