คบกันมาตั้งนาน แต่ทำไมถึงถูกแฟนบอกเลิก? ถ้าไม่รู้เหตุผล อาจเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้!!

คนที่กำลังกลุ้มใจ คิดไม่ตกว่าทำไมความรักของเรา กับแฟน ถึงได้เดินมาถึงทางตันแบบนี้ ความรักที่เคยมีให้กันในวันแรกๆ ที่คบกัน ทำไมมาวันนี้ ถึงได้ดูเปลี่ยนไปได้มากมายขนาดนี้ และเมื่อวันหนึ่ง ที่อีกฝ่ายเอ่ยปากบอกเลิก โดยเฉพาะการเลิกกันโดยที่ไม่มีการบอกเหตุผล หรือเหตุผลที่เขาคนนั้นบอกออกมา มันช่างดูไม่สมเหตุผลเอาซะเลย ไอ้ประเภทคำพูดที่ว่า ?เธอดีเกินไป? หรือว่า ?มันยังไม่ใช่? ก็เป็นแค่คำพูดที่ฟังดูดีเท่านั้น ก็อาจจะมีบ้างในบางกรณี ที่ความรู้สึกแบบนั้น อาจมีอยู่จริง แต่แน่ใจได้เลยว่าถ้าจะให้พูดทุกอย่างออกมา ก็คงไม่ได้มีแค่นี้เป็นแน่ แล้วสาเหตุที่แท้จริงมันคืออะไรกันนะ?

Lady108 ได้รวบรวมสาเหตุใหญ่ๆ ที่เป็นสาเหตุให้คนส่วนใหญ่โดนบอกเลิกมาฝากกัน ส่วนจะตรงกับตัวเราแค่ไหน เรื่องนี้คนที่ให้คำตอบได้ดีที่สุด ก็คือตัวเราเองนี่ล่ะ

เหตุผลสุดฮิต ของการถูกบอกเลิก

มีนิสัยบางอย่างที่อีกฝ่ายรับไม่ได้

ลองคิดทบทวนดูให้ดี ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา แฟนของคุณเลยบ่น และต่อว่าเรื่องอะไรซ้ำๆ บ่อยๆ รึเปล่า หรือแม้กระทั่งความเคยชินเล็กๆ น้อยๆ และทัศนคติที่ดูตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เรื่องพวกนี้ เมื่อตอนที่คบกันใหม่ๆ อาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าเริ่มคบกันนานเข้า ก็เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน และนำไปสู่ความแตกแยกในที่สุด

เอาแต่ใจตัวเอง

ช่วงแรกๆ ผู้หญิงมักจะถูกเอาใจ จนกลายเป็นความเคยชิน และติดเป็นนิสัย จนลืมคิดไปว่า ทำให้อีกฝ่ายเหนื่อยหน่ายขนาดไหน ถ้ารู้จักลดนิสัยเอาแต่ใจได้ ทุกอย่างอาจจะดีขึ้นมาก็ได้

ไม่ให้ความสำคัญ ไม่ใส่ใจเขา

คนที่คบกันไปซักระยะ แล้วต้องคุยกันทุกวัน ก็จะต้องซึบซับและรับรู้เรื่องราวของอีกฝ่ายมากขึ้นเป็นธรรมดา แต่ถ้าเรื่องราวที่เขาเล่ามานั้น ไม่ใช่เรื่องที่คุณสนใจ ทำให้คุณอาจลืมตัวไม่ตั้งใจฟังที่เขาพูด เหมือนกับว่าที่เขาพูดมาทั้งหมด คุณไม่ได้ยิน และไม่ได้ฟังอยู่เลย ประมาณว่า ฉันก็ทำอะไรของฉันไป ส่วนเขาก็พูดไป เป็นแบบนี้บ่อยๆ ความรักก็จืดจางได้เช่นกัน

ไม่รักษาหน้าแฟนของคุณ ทำให้อีกฝ่ายเสียหน้า

เมื่อไหร่ที่สาวๆ อยู่กับกลุ่มเพื่อนสาว ก็มักจะติดนิสัยเม้าท์แตก พูดคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย และอีกหนึ่งหัวข้อสุดฮิต ก็คือเรื่องของคนข้างกาย แล้วแต่ละเรื่องที่ยกขึ้นมาพูด ก็เป็นเรื่องที่อีกฝ่ายไม่อยากจะพูดถึงทั้งนั้น เรากับเพื่อนอาจจะรู้สึกสนุก แต่อีกคนอาจจะไม่รู้สึกแบบนั้นด้วยก็ได้

ชอบจับผิด ไม่เชื่อใจ

สิ่งหนึ่งที่คนคบกันไม่ควรทำ ก็คือนิสัยชอบจับผิดแบบนี้ การคอยเช็คโทรศัพท์ ใบเสร็จในกระเป๋าสตางค์ และอะไรอื่นๆ ที่ดูมากเกินไป จนเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว มีแต่จะทำให้อีกฝ่ายอึดอัด แล้วก็เป็นสาเหตุของความเบื่อหน่ายนั่นเอง

ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

เมื่อไหร่ที่ทะเลาะกัน ก็เอาไปบอกให้คนอื่นรับรู้ด้วย ทั้งคนในครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ หรือว่าเพื่อนๆ ทำให้ทุกอย่างดูวุ่นวาย กลายเป็นว่า มีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของคุณ เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด แทนที่จะทำให้ทุกอย่างจบลง ด้วยการเคลียร์กันแบบส่วนตัว กลับไปป่าวประกาศจนเรื่องบานปลาย ก็ทำให้อีกฝ่ายเหนื่อยใจได้เช่นเดียวกัน

ติดแฟนเกินไป

คนรักกันก็ต้องอยากทำอะไรร่วมกันเป็นธรรมดา แต่ถ้ามันเกินลิมิต จนกลายเป็น ?เยอะ? เกินไป ความหวานที่ว่า อาจจะกลายเป็นยาขมไปเลยก็ได้ การเว้นระยะห่างให้กับความสัมพันธ์ของคนสองคน อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยรักษาความรักของคนสองคน ให้ยืนยาวขึ้นก็ได้

ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า

ผู้ชายส่วนใหญ่ มักจะมีความหยิ่งทะนงในตัว และมีความคิดอยู่เสมอว่า การเป็นผู้ชายนั้น ต้องเป็นที่พึ่ง และคอยดูแลคนที่เรารักได้ แต่เมื่อไหร่ที่ความภาคภูมิใจนั้นมันหายไป เพราะตัวคุณเก่งเกินไป เข็มแข็งเกินไป จนโดดเด่น เกินหน้าเกินตาผู้ชายอย่างเขา ทำให้ความมั่นใจที่มีอยู่ในตัวหายไป และเป็นเหตุให้เขารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า สิ่งนี้เอง ที่ทำให้เขาเลือกที่จะเดินออกไปจากชีวิตคุณ

พึ่งพาเขามากเกินไป

ข้อนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม กับข้อก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ถ้าผู้หญิงทำตัวอ่อนแอ ปวกเปียกอยู่ตลอดเวลา สำหรับผู้ชายแล้ว คุณอาจจะกลายเป็นตัวภาระ และต้องคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถทำสิ่งที่อยากทำได้เลย เป็นแบบนี้บ่อยๆ เข้า ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเบื่อหน่าย และขอบอกเลิกในที่สุด

ไม่ให้เกียรติ พูดจาแดกดัน

ไม่ว่าจะต่อหน้า หรือว่าลับหลัง คุณก็ควรรู้จักให้เกียรติกันและกันอยู่เสมอ หรือแม้กระทั่งอยู่ต่อหน้ากัน การพูดจากันดีๆ ด้วยเหตุผล ก็เป็นสิ่งที่ช่วยประคับประคองความรักของทั้งสองคน ในยืนยาวได้ แต่ถ้าติดนิสัยพูดจาประชดประชัน เสียดสี ต่อว่า ไม่ว่าจะเรื่องใดเป็นประจำ แน่นอนว่าเป็นใครก็ทนไม่ได้

ขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ มาพูดอยู่ตลอดเวลา

เรื่องเก่าๆ ที่ว่า อาจจะเป็นความสัมพันธ์ครั้งเก่า กับแฟนเก่า หรือว่าเรื่องราวที่เคยทำผิดพลาดมาก่อนในอดีต ที่เขาอยากจะลืม แต่ถ้าคุณชอบขุดคุ้ยมันขึ้นมาพูดอยู่บ่อยๆ ทำให้อีกฝ่ายระอา ไม่แน่ว่าจากที่ไม่มีอะไรจริงๆ กลับกลายเป็นว่าไปยุให้เขาทำเรื่องที่คุณไม่ชอบไปเลยก็ได้ และสุดท้ายก็จบที่การบอกเลิก

เข้ากับครอบครัว หรือว่าเพื่อนของเขาไม่ได้

ถ้าคุณต้องคบกับใครซักคน คุณก็ควรจะต้องทำความรู้จัก กับครอบครัว เพื่อนๆ และสังคมที่เขาอยู่ให้ได้ การพยายามดึงเขาออกมาจากสังคมที่เขาเคยอยู่ เพื่อตัวเองจะได้สบายใจ เหมือนกับเป็นการบีบบังคับ ให้เขาต้องเลือก ระหว่างคุณ กับครอบครัว และเพื่อน แล้วถ้าสิ่งที่เขาเลือกคือสิ่งที่ผูกพันธ์กับเขามานานกว่า อย่างครอบครัวหรือเพื่อนๆ คุณก็ต้องกลายเป็นอดีตของเขา อย่างช่วยไม่ได้

เขาเจอคนที่ดีกว่า

คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เมื่อมีคนใหม่ที่ถูกใจกว่าเดินเข้ามาในชีวิต เขาก็แค่เลือกที่จะเดินจากไป คุณเองก็ควรจะลองมองหาใคร ที่ดีกว่าเขาคนนั้นเช่นเดียวกัน

ถึงจุดอิ่มตัว

คนที่คบกันมานานๆ ความรู้สึกอาจเปลี่ยนแปลงไป ความรู้สึกรัก ได้เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นความผูกพันธ์แบบเพื่อน ถ้าคนสองคนรู้สึกแบบนี้ด้วยกันทั้งคู่ ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้ามีแค่ฝ่ายเดียวที่รู้สึกแบบนี้ ก็อาจเป็นปัญหาได้เช่นกัน

เมื่อคิดถึงอนาคตแล้ว ความรักของเรามันเป็นไปไม่ได้

สำหรับคนที่ต้องอยู่ห่างไกลกัน หรือว่ามีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความรักเพียงอย่างเดียวอาจไม่แข็งแกร่งพอ โดยเฉพาะเมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดว่าความสัมพันธ์ในครั้งนี้ มันเป็นไปไม่ได้ ก็เริ่มส่อแววการเลิกราแล้ว ไม่ว่าจะช่วยฐานะ ระยะทาง หรือความแตกต่างของครอบครัว ก็เป็นสาเหตุได้ทั้งนั้น

เหตุผลเหล่านี้ คือสาเหตุหลักๆ ที่คนต้องเลิกรากันไป ความรักของคุณ อาจตรงกับข้อหนึ่งข้อใด หรือไม่มีข้อไหนตรงเลย แต่อย่างน้อยการที่คุณได้อ่าน และพยายามทำความเข้าใจอีกฝ่าย ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการเรียนรู้ และเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เวลาสามารถช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ และ Lady108 หวังว่าทุกคนที่เพิ่งเลิอกรากับแฟน จะสามารถผ่านช่วงเวลาของความทรมาณเหล่านี้ไปได้โดยเร็ว ส่วนคนที่ยังคบกับแฟนอยู่ ก็หวังว่าสาเหตุเหล่านี้ จะทำให้คุณฉุกคิด และปรับปรุงตัว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปนะคะ

ขอบคุณรูปภาพจาก: beyondhallyu.com