7 พฤติกรรมไม่ควรทำหลังเลิกรากับคนรัก
ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าตอนที่คนเราอกหักอีกแล้ว
และที่สำคัญพวกเขายังอาจแสดงพฤติกรรมแย่ๆออกมาอีกด้วย
อาการอกหักรักคุดสามารถทำให้หน้าที่การงาน มิตรภาพ
และเป้าหมายของคุณล้มเหลวไม่เป็นท่าได้
ทั้งนี้การปลอบใจจากเพื่อนฝูงและการได้ร้องไห้ระบายออกมาบ้างจะทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น
เอาล่ะนี่คือ 7
พฤติกรรมที่คุณไม่ควรทำหากต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์เลวร้ายที่จะตามมา1. ยังเป็นเพื่อนกันต่อไป
คุณสามารถเป็นเพื่อนกับคนรักเก่าได้ไหม?
แน่นอนว่าบางคนทำได้ แต่หลังจากที่อกหักมาหมาดๆน้ำตายังไม่ทันแห้ง
คุณต้องอยู่ให้ห่างจากเขาเลย หากคุณมองว่าเขาต้องการผูกมิตรกับคุณ
เชื่อเถอะว่าเดี๋ยวคุณก็ต้องหาเรื่องดราม่าอีก
อันที่จริงก็เหมือนกับการสะกิดแผลเปิดทุกครั้งที่เริ่มจะตกสะเก็ด
จากนั้นเมื่อความเศร้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธก็มีแนวโน้มว่าคุณจะทำหรือพูดบางสิ่งที่คุณจะต้องเสียใจในภายหลัง
ลองทิ้งระยะห่างจากคนรักเก่าจนกว่าคุณจะหายดีจากอาการอกหัก2. เข้าไปส่องตามสื่อโซเชียลต่างๆ
อย่าทำเด็ดขาดเชียว!
มิเช่นนั้นวันดีๆของคุณจะกลายเป็นวันที่คุณได้เห็นภาพเขาเคียงคู่กับคนรักใหม่ก่อนที่คุณจะพร้อมเสียอีก
ที่สำคัญมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณด้วย
การเข้าไปส่องตามสื่อโซเชียลของคนรักเก่าก็ไม่ต่างจากการทรมานตัวเอง
คุณอาจจะตัดใจได้เร็วแต่ไม่คุ้มค่าหรอกในระยะยาว
ทางที่ดีควรปลีกตัวจากคนรักเก่าทุกทาง จะซ่อนหรือลบไปเลยก็ได้ถ้าจำเป็น3. ส่งข้อความไปหาตอนดึกๆ
สมองที่กำลังท่วมท้นไปด้วยความทุกข์บวกกับอาการง่วงนอนอาจทำให้คุณเชื่อว่าการส่งข้อความไปหาคนรักเก่าตอนตีสามน่าจะเป็นความคิดที่ดีไม่ว่าจะเป็นการสารภาพความในใจ
การขอโทษ โวยวาย หรือแม้แต่การใคร่ครวญขอให้เขาอภัยให้คุณ
เชื่อสิว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีหรอก
คุณควรเขียนความรู้สึกของตัวเองลงไปในสมุดแทน จากนั้นก็รอสัก 3
วันแล้วคุณจะรู้ว่าคนรักเก่าไม่มีสิทธิเข้าไปอยู่ในใจของคุณอีกต่อไปแล้ว4. ประชดชีวิต
บางครั้งคุณก็จำเป็นต้องรับประทานไอศกรีมสักถ้วยและร้องไห้
หรือเครื่องดื่มแรงๆสักสองแก้ว
หรือหิ้วหนุ่มมาสานสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดที่ห้องของคุณ
ขอบอกว่าทำไปเถอะแม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับความรู้สึกของคุณก็ตาม
แต่ถ้ามันมากเกินไปก็ได้เวลาเรียกเพื่อนของคุณแล้วล่ะหรือไม่ก็ปรึกษามืออาชีพเถอะ5. ปิดกั้นตัวเอง
การอยู่ตามลำพังเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขแต่ก็มีขอบเขตเช่นกัน
คุณต้องไปทำงานหรือไปโรงเรียน ต้องไปเยี่ยมพ่อแม่และใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ
คุณจะมาสร้างกำแพงปิดกั้นตัวเองอย่างถาวรได้อย่างไร
หากคุณไม่มีแรงที่จะเข้าสังคมก็ขอให้เพื่อนแวะมาหาสิ
หางานอดิเรกใหม่ๆที่ต้องออกนอกบ้าน
หรือทำอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้คุณต้องจมปลักอยู่กับตัวเอง6. ทำตัวโรคจิต
อย่าลืมว่านี่คือชีวิตจริงไม่ใช่ภาพยนตร์รักสอดแทรกอารมณ์ขัน
การไม่เคารพขอบเขตของอีกฝ่ายเพื่อหว่านล้อมให้เขากลับมาหาคุณไม่ใช่เรื่องรักหวานซึ้งแต่เป็นอาชญากรรมอย่างหนึ่งเชียวนะ
หากคนรักเก่าไม่อยากเจอหน้าคุณ นั่นก็หมายความว่าอย่าส่งข้อความ อย่าโทรไป
และอย่าโน้มน้าวอะไรทั้งนั้น
ฉันจะบอกว่าหากคุณต้องการโน้มน้าวแต่อีกฝ่ายไม่ต้องการ
งั้นคุณก็ต้องให้พื้นที่แก่เขา7. สร้างดราม่า
คุณไม่มีสิทธิไม่เคารพขอบเขตของอีกฝ่าย
ขณะเดียวกันคุณก็ต้องสร้างขอบเขตของตัวเองขึ้นมาด้วย
ขอบเขตเหล่านั้นรวมไปถึงการร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจ!
คุณไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่าเหตุผลของคุณในการบอกเลิกนั้นถูกต้อง
คุณไม่จำเป็นต้องตอบสนองต่อการกล่าวโทษใดๆทั้งสิ้น คุณไม่จำเป็นต้องทะเลาะ
คุณไม่จำเป็นต้องฟาดงวงฟาดงาบนสื่อโซเชียลและไม่จำเป็นต้องพูดจาดูถูกใคร
ที่สำคัญไม่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกของคนรักเก่าด้วยBlogger : Teresa Newsome
Source : bustle.com