ใช้ชีวิตคู่อย่างไรให้คบกันได้ยืนยาว ?

อ่าน 13,395

เคยสงสัยบ้างไหมคะว่าทำไมปัจจุบันนี้เรื่องของการเลิกรา หรือความรักแบบรักๆ เลิกๆ นั้นดูเป็น

เรื่องที่เกิดขึ้นง่ายดายมากเลยทีเดียว แม้แต่กระทั่งดาราหรือเหล่าเซเลปหลายๆ คู่ที่แต่งงานกันไป

แล้วก็ตาม ก็ยังมีข่าวเลิกรากับแฟนหรือคนรักให้เห็นออกบ่อยๆ ซึ่งเหตุผลที่เหล่าดาราหรือเซเลป

ส่วนใหญ่ออกมาให้สัมภาษณ์ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของ "ไลฟ์สไตล์ที่ไม่ตรงกัน" หรือว่าเข้ากันไม่ได้

นั่นเองค่ะ

ความอดทน ?

อันที่จริงแล้วอาจจะไม่ได้เป็นเพราะคำว่าไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันหรือความคิดเห็นไม่ตรงกันทั้งหมด

หรอกค่ะ แต่เป็นเพราะว่าความ "อดทน" ต่างหาก ที่คู่รักสมัยนี้ไม่ค่อยจะมีกัน จนนำไปสู่เหตุผลอื่นๆ

มากมาย ที่ตามมาเป็นเหมือนกับข้อแก้ตัวให้ต่างฝ่ายต่างไม่ต้องรู้สึกผิดกับการที่ตัวเองไม่มีความ

อดทนกัน ซึ่งหากจะให้ย้อนไปไกลกว่าต้นเหตุของการหมดความอดทน หรือการที่คู่รักสมัยนี้มีความ

อดทนต่ำนั่น อาจจะเป็นเพราะว่าในยุคนี้ การที่คนเราจะเจอกัน หรือว่าจะได้คุยทำความรู้จักกันนั้น

ถือว่าเป็นอะไรที่ง่ายมากเนื่องจากเรามีอินเตอร์เน็ต มีโลกของโซเชียลต่างๆ ที่สามารถย่นระยะทาง

และทำให้เราได้พบปะกับคนอื่นตลอดจนได้พูดคุยกันอย่างง่ายดาย ไม่ต้องอดทน ไม่ต้องรอคอย พอ

เจออะไรที่มันยากเข้าหน่อย ก็เลยถอดใจง่ายๆ กันไปยกตัวอย่าง เช่น ยุคสมัยพ่อกับแม่ เมื่อก่อนจะจีบกันก็ต้องเดินทางไกลเพื่อจะนัดพบกันแต่ละครั้ง

หรือบางทีเมื่ออยู่ไกลกันมากๆ ก็ต้องใช้บริการส่งจดหมาย ซึ่งกว่าผู้รับจะได้รับจดหมายแต่ละฉบับก็

ต้องใช้เวลานานหลายวัน ผิดกับสมัยนี้ที่เพียงแค่เรากดคลิกเดียว ข้อความหรือคำพูดต่างๆ ก็จะส่งถึง

ผู้รับทันที หรือหากอยากได้ยินเสียง และอยากเห็นหน้า ก็มีช่องทางอื่นๆ ให้เราได้พบหน้ากันอย่าง

รวดเร็วเช่นการ Video Call หาคนที่เราอยากคุย ดังนั้นการส่งจดหมายจีบกัน จึงเป็น

อะไรที่ดู มีคุณค่า และต้องใช้ความอดทน รวมถึงใช้ความตั้งใจในการรอคอย และเมื่อผู้รับได้อ่าน

จดหมายแล้วยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มเอมใจ และรู้สึกว่าจดหมายที่ถูกส่งมาจากคนรักนั้นดูมีคุณค่า

และเป็นสิ่งที่ต้องเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี

ซึ่งถ้าหากเรามองดูดีๆ ก็จะพบว่าความรักของคนในสมัยก่อนนั้นแตกต่างกับคนในสมัยนี้เป็นอย่าง

มาก เพราะต้องใช้ความอดทนตั้งแต่ที่ยังไม่เริ่มคบเป็นแฟนกันเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเวลาที่พวกเค้าจะ

ทะเลาะกัน หรือคิดอยากจะเลิกกับภาพของความทรงจำ และอุปสรรคต่างๆ ที่คู่รักรุ่นก่อนๆ ได้ฝ่าฟัน

กันมา มันก็จะขึ้นมาย้ำเตือนให้เขาทั้งคู่ได้มีเวลาคิดไตร่ตรอง และคิดถึงความยากลำบากของความ

รักที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และได้มาง่ายๆ เหมือนคนในสมัยนี้ ซึ่งนี่เองอาจทำให้ความอดทน

ของคนทั้งคู่เวลามีปัญหากันหรือมีปากเสียงกัน มีขีดกำจัดที่มากกว่าคนรุ่นใหม่

อีโก้สูงเกินไป ฉันไม่แคร์

"อีโก้สูง" ถือว่าเป็นคำที่สร้างความพังพินาศให้กับคู่รักมานักต่อนักแล้วค่ะ เห็นได้จากคู่รักคนดัง

หลายๆ คู่ที่เพิ่งจะเลิกรากันไป บางคู่หลังจากแต่งงานกันไปความมีอีโก้ของทั้งคู่มีมากขึ้น ถือเป็นอีก

สิ่งหนึ่งที่เป็นส่วนแตกขยายมาจากเรื่องไม่มีความอดทนนั่นแหละค่ะ เพราะในเมื่อฉันไม่อยากอดทน

กับเธอแล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแคร์ หรือเอาเรื่องของเธอมาทำให้ฉันต้องเครียดอีกต่อ ไป ซึ่ง

ไอ้คำว่า "ไม่จำเป็น" ที่จะต้องอดทนกับเธอแล้ว มันก็คือความมีอีโก้สูงอย่างหนึ่ง และด้วยการที่เรา

คิดว่าเราสามารถพบเจอคนใหม่ หรือหาแฟนใหม่ได้อย่างง่ายดาย เพราะโลกในยุคนี้ทำให้เรา

สามารถเจอใครได้ง่ายขึ้น เพียงแค่เล่นแอพพลิเคชั่นแชท หรือไปเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆ ยิ่งทำ

ให้เป็นตัวจุดไฟเผาความอดทนที่จะฟันฝ่าอุปสรรค์ของความรักที่เกิดขึ้นนั่นเองค่ะ ด้วยเหตุนี้เมื่อคน

รุ่นใหม่เริ่มคิดว่าอะไรๆ มันก็เป็นเรื่องง่ายไปหมด แม้แต่การเจอคนรัก มันเลยทำให้ความรักของคน

ในปัจจุบันไม่ยาวนานเท่าที่ควร เมื่อมีปัญหาก็เลือกที่จะตัดปัญหาด้วยการเลือกที่จะไปเจอคนใหม่

โดยที่ไม่สนใจปัญหาที่เกิดขึ้นและร่วมกันหาทางออก

ทำอย่างไรให้รักยืนยาว ?

เป็นคำถามโลกแตก แต่เราแทบไม่ต้องไปหาคำตอบที่ไหนเลย เพราะมันขึ้นอยู่ที่คนสองคน ซึ่งนั่นก็

คือคุณและคู่รักของคุณนั่นเองค่ะ การทำอย่างไรให้คุณและคู่รักนั้นสามารถคบกันได้อย่างยาวนานนั้น

คุณทั้งคู่จะเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุดค่ะ ทีนี้ปัจจัยที่จะคอยช่วยให้ความรักของคุณแต่ละคนนั้นอยู่ได้ยาวนาน ก็

น่าจะ อยู่ที่ ความอดทน การเปิดใจ ปรับความเข้าใจ รวมถึงการลดอีโก้ที่แต่ละคนต่างมี ว่า

สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้มากแค่ไหน หากใครที่คิดว่ายังทำไม่ได้หรือว่าไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดของ

การใช้ชีวิตคู่ให้มากพอ ก็อยากให้ลองคิดถึงความรักในสมัยรุ่นพ่อแม่ของเราดูก็ได้ค่ะ ดูว่าท่านทั้งคู่

นั้นใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาได้อย่างไร และทำยังไงให้รักยืนยาวมาได้ถึงขนาดนี้ บางทีอาจจะทำให้คุณทั้ง

คู่ได้คิด และเริ่มเข้าใจความหมายของการดูแลความรักกันมากขึ้นค่ะ

บทความจาก http://women.sanook.com/56881

ตามหลักพุทธศาสนา .."ฆราวาสธรรม" คือหัวใจสำคัญของความมั่นคงในครอบครัว อันประกอบด้วย

สัจจะ ทมะ ขันติ และ จาคะ1. สัจจะสัจจะ แปลว่า ความจริงใจ ความจริงจัง ตลอดจนความซื่อตรง ต่อกันและกัน = นิสัยรับผิดชอบเมื่อมองในแง่ของความเป็นครอบครัว นิสัยรับผิดชอบของแต่ละคนถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง

เพราะถ้าใครขาดนิสัยรับผิดชอบเมื่อไหร่ความหวาดระแวงต่อกันจะเกิดขึ้นทันทีคนมีสัจจะย่อมแสดงความรับผิดชอบได้ 4 ด้าน คือ1) ด้านหน้าที่และการงาน2) ด้านคำพูด คือ ต้องเป็นผู้ที่พูดอย่าง ก็ทำอย่างนั้น และ ทำอย่างไร ก็ต้องพูดอย่างนั้น3) ด้านการคบคน คือ คบค้าสมาคมกับใครด้วยความจริงใจ4) ด้านศีลธรรมความดี คือ ในเรื่องส่วนตัวถือเอาหลักธรรม เป็นใหญ่ ไม่ยอมทำในสิ่งที่ผิดศีล ผิด

ธรรม ผิดประเพณี และผิดกฏหมายของบ้านเมือง2. ทมะทมะ หมายถึง ความกระตือรือร้นในการเคี่ยวเข็ญ ฝึกตนเอง อย่างไม่มีข้อแม้เงื่อนไข เพื่อให้ตนเอง

มีทั้งความรู้ ความสามารถ และความดีเพิ่มพูนมากขึ้นทุกวันๆ = นิสัยรักการฝึกฝนตัวเองคนที่ขาดทมะ มักจะคิดน้อยใจโชคชะตา น้อยใจพี่น้อง น้อยใจ พ่อแม่ น้อยใจสามี น้อยใจภรรยาว่า

ไม่รัก เลยไปจนกระทั่งน้อยใจลูกว่าไม่รักตนอีกด้วย แล้วก็ก่อปัญหาแตกความสามัคคีในครอบครัว3. ขันติขันติ แปลว่า ความอดทน = นิสัยอดทนถ้าครอบครัวไหนขาดขันติ ก็จะทำให้เกิดปัญหาการเบื่อหน่ายกันเอง ความเบื่อหน่ายกันเอง จะเป็น

ลางแห่งความหายนะของครอบครัวเพราะไม่ช้าจะถึงจุดหนึ่งที่ต่างคนต่างตักเตือนกันไม่ได้ เมื่อ

เตือนกันไม่ได้ก็เลยไม่รู้จะทนไปทำไม การทะเลาะเบาะแว้ง ลงไม้ลงมือกันก็ตามมาการอยูร่วมกันในครอบครัว ควรที่จะเปิดใจอนุญาตให้แต่ละคนในครอบครัวเอ่ยปากตักเตือนตนเอง

ได้แต่เนิ่นๆ ถ้าหากเห็นว่าทำอะไรไม่ถูกไม่ควร ไม่โปร่งใสพอ ก็ให้รีบตักเตือนดีกว่ารอให้ทนไม่ไหว

ก่อนค่อยมาพูดกัน4. จาคะจาคะ คือเสียสละ = นิสัยเป็นผู้เสียสละการขาดการเสียสละ จะทำให้เกิดปัญหาความเห็นแก่ตัว อาจเรียกง่ายๆ ว่า แล้งน้ำใจธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อไรก็ตามที่มีการอยู่ร่วมกันเกินสามคนขึ้นไป จะเริ่มมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก

เมื่อในครอบครัวมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกเสียแล้ว หากได้ข้าวของพิเศษอะไรมา ก็จะคำนึงถึงแต่

ประโยชน์ของพรรคพวกในบ้านของตัวเองก่อน อีกฝ่ายจะเดือดร้อนลำบากอย่างไร ไม่สนใจ ถ้า

สถานการณ์เลวร้ายหนักเข้าๆ แม้พี่น้องคลานตามกันมา มักก็แตกกันเอง เพราะเชื้อแห่งความเห็น

แก่ตัวได้เข้าห่อหุ้มจิตใจจนมืดมิดบทความจาก

http://www.miraclehabit.com/#!/article/ครอบครัว

สุดท้ายขอฝากเพลงนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกๆครอบครัว ให้ผ่านพ้นปัญหาทุกอย่างไปได้ อยู่เป็น

ครอบครัวเดียวกันตลอดไปนะคะ



บทความแนะนำ


หนังสยองขวัญภาพยนตร์ขนหัวลุกซิ่งชนจยยเครื่องประดับเดรสรองเท้าสีดำพาวเวอร์บายชนเสาไฟฟ้าติดใต้ท้องรถทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก