แฉกลโกง!! "เงินหายจากบัญชีไปเกือบล้าน" หลังทิ้งสลิป ATM ภัยอันตรายที่หลายคนไม่รู้!!?

อ่าน 5,754

หนุ่มงง!? "เงินหายจากบัญชีไปเกือบล้าน" หลังทิ้งสลิป ATM ภัยอันตรายที่หลายคนไม่รู้!!?

แฉกลโกง ขโมยเงินในบัญชีธนาคาร จากสลิป ATM ตำรวจสามารถทลายแก๊งฉกเงินออนไลน์ จากจุดเริ่มต้นที่มิจฉาชีพแอบนำสลิปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม มาปลอมข้อมูล ก่อนไปสมัครธุรกรรมออนไลน์ได้เงินเกือบล้านบาททีมเจาะประเด็นลงพื้นที่เปิดใจผู้ต้องหา แฉเล่ห์เหลี่ยมกลโกงเจ้าทุกข์โอดครวญ ใครจะรับผิดชอบ เงินที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรง

และต้องขอย้ำ ว่าภาพธนาคารต่าง ๆ ที่ใช้ประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น! แต่ทีมงานต้องจำลองภาพขึ้นมา เพื่อเป็นวิทยาทานกับผู้ชมจุดประกายให้ธนาคารหามาตรการสกัดกั้นหลังแกะรอยมานานกว่า 4 เดือนที่สุดตำรวจภูธรภาค 7 สามารถกระชากหน้ากาก นายนที ศิระวรวิทย์ และนายธนดล ขจรศักดิ์ชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ ใช้เอกสารราชการปลอม และความผิดฐานฉ้อโกง

พฤติการณ์แนวใหม่ เริ่มสุ่มหาเหยื่อ เลือกดูสลิปจากตู้เอทีเอ็มรายใดมีเงินเหลือในบัญชีมาก คือ เป้าหมาย นำข้อมูลจากสลิปไปค้นหาเจ้าของบัญชีพอได้ชื่อ-นามสกุล ก็อ้างว่าเป็นตำรวจ ไปขอคัดข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เลข 13 หลักจากอำเภอ นำมาปลอมแปลงทำบัตรราชการ แต่ใส่รูปหน้าคนร้ายเข้าไป และบัตรข้าราชการนี่เอง ที่สร้างความน่าเชื่อถือ กลายเป็นใบเบิกทางให้แก๊งคนร้าย นำไปเปิดบัญชีธนาคาร โดยใช้ชื่อ - นามสกุลของเป้าหมายที่ตกเป็นเหยื่อ เปิดบัญชีธนาคารเดียวกัน แต่ต่างสาขา

หนึ่งในผู้ต้องหารับสารภาพ การแกะรอยจากสลิปที่ถูกทิ้งตามตู้เอทีเอ็ม กลายเป็นช่องโอกาส เรื่องง่ายๆที่ไม่มีใครทันระวังตัว หลายคนเบิก-ถอนเงินเสร็จ ก็ทิ้งสลิปเอทีเอ็มไว้ตามถังขยะ โดยไม่ฉีกหรือทำลายก่อนทิ้ง

นที ผู้ต้องหายอมรับน้ำตาว่า หลงผิด หาเงินด้วยวิธีการผิดฏหมายเพราะเห็นว่า ง่าย ๆ พอได้ข้อมูลนำไปปลอมแปลงเอกสาร บัตรข้าราชการ แล้วนำไปเปิดบัญชีซ้อนได้แล้ว ก็จะทำบัตรเอทีเอ็ม และขอเปิดใช้บริการอีแบงค์กิ้งเพื่อเชื่อมบัญชีสุดท้ายจะโอนเงินทั้งหมดจากบัญชีของเหยื่อ เข้าบัญชีของตัวเองที่เปิดใหม่ ซึ่งเป็นชื่อ-นามสกุลของเหยื่อ แต่ต่างสาขา รับทำมาแล้ว 4 ครั้งได้เงินไปกว่า 8 แสนบาท

ผู้ต้องหาชี้ บัตรข้าราชการที่ปลอมเป็นตำรวจ นำไปขอเปิดบัญชีใหม่สร้างความน่าเชื่อถือ ทางธนาคารจะไม่ตรวจสอบมากนัก เพราะเห็นว่าเป็นข้าราชการที่สำคัญ หลังจากนั้นข้อมูลเดิมของเจ้าของบัญชี ก็จะถูกเปลี่ยนใหม่หมด คนร้ายจะเปลี่ยนพาสเวิร์ด เบอร์โทรศัพท์ ให้ติดต่อถึงตน เจ้าของบัญชีตัวจริงจึงไม่รู้ตัว เงินถูกดูดหายไปจากบัญชี

นายไชยเดช หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดใจว่า ตนถูกวายร้ายฉกเงินไปเกือบ 6 แสนบาท ช่วงเดือนพฤษภาคมจะไปถอนเงินที่ธนาคาร แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่า มีการโอนเงินออกจากบัญชี ผ่านระบบอีแบงค์กิ้ง เมื่อวันที่ 30 เมษายน 4 ครั้งและ 1 พฤษภาคม 2 ครั้ง แทบไม่มีเงินเหลือติดบัญชี

ผ่านมา 4 เดือน กลับไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า ธนาคารจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้อย่างไร ตนเสียความรู้สึกมาก เงินจากน้ำพักน้ำแรงอุตส่าห์เก็บออม ฝากไว้กับธนาคาร ที่คิดว่าจะปลอดภัยที่สุด กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ผู้เสียหายยังฝากไปยังธนาคารทุกแห่ง ให้เพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชีธนาคาร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ถือเป็นกรณีตัวอย่าง หลังจากนี้จะมั่นใจได้อย่างไรว่า ธนาคารจะดูแลเงินของลูกค้าเป็นอย่างดี หลังเกิดเหตุ สมาคมธนาคารไทยเรียกหารือ ปิดกั้นช่องโอกาสของมิจฉาชีพ ยอมรับ มาตรการตรวจสอบของธนาคารบางสาขา อาจหละหลวม

สมาคมธนาคารไทย ระบุ กลโกงดังกล่าวถือเป็นรูปแบบใหม่ที่แก๊งมิจฉาชีพ ดูฐานข้อมูลลูกค้า จากสลิปเอทีเอ็ม และเลือกปลอมแปลงเอกสารจากการใช้บัตรประจำตัวข้าราชการลูกค้า ในการขอเปิดบัญชี เพราะที่ผ่านมาพบเพียงการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งทางธนาคารหาแนวทางป้องกันปัญหาได้สมเร็จ

ปัญหาที่เกิดขึ้นล่าสุดสมาคมธนาคารไทย จะต้องมีการปรึกษาหลายส่วนงาน โดยเฉพาะการนำบัตรประจำตัวข้าราชการ ในการทำธุรกรรมจะสามารถใช้ดำเนินการต่อได้หรือไม่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด แนวทางการแก้ปัญหาจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกของลูกค้า

ข้อมูลและภาพจาก อุบลวันนี้, เจาะประเด็น



บทความแนะนำ


ภาพยนตร์SQFTแอพเทคโนโลยีรักอย่าบ่นมิวสิกวิดีโอแอบขี้บ่นคืนนั้นทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก