ล่าคำตอบ ทำไมหญิงไทยอยากเป็น "เมียฝรั่ง"?

อ่าน 3,472

ผู้หญิง โครงหน้าเหลี่ยม ตาโต ผิวค่อนข้างดำ ตัวเล็กแกร็น คงไม่ใช่สเปกของผู้ชายไทยทั่วๆ ไป แต่นี่เป็นพิมพ์นิยมของ ชายตาน้ำข้าว ฝรั่งผิวขาว ที่มักบอกว่า นี่แหละ!! บิวตี้ฟูล นางฟ้าของผม แท้ที่จริงแล้วคงไม่ใช่รูปร่างหน้าตาของหญิงอีสานเพียงอย่างเดียวที่เตะ ตา ตรึงใจ ฝรั่ง เพราะ ร้อยทั้งร้อย มักบอกว่าสาวอีสาน ซื่อสัตย์ อดทน ขยัน ช่างเอาอกเอาใจ

ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา กระแสการมีแฟนเป็นฝรั่ง บูมอย่างมาก ไม่ได้มีอีสานอย่างเดียว แต่มีทั่วทุกภาคในประเทศไทย ทั้งเหนือ กลาง ใต้ ออก ตก แต่ภาพลักษณ์ของผู้หญิงอีสานดูจะติดตา และโดดเด่นมากกว่าภาคอื่นๆ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมขณะนี้ ทำให้มีผู้สนใจใคร่รู้ ทั้งนักวิชาการ สื่อมวลชนจำนวนมาก ดร.รัตนา บุญมัธยะ อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ลงไปเจาะลึก ศึกษา สัมภาษณ์ ความรู้สึก นึกคิด ทัศนคติ ต่างๆ ของผู้หญิงกลุ่มเล็กๆ ในหมู่บ้านทางภาคอีสานแห่งหนึ่ง รวมทั้งสามีฝรั่ง และบรรดาญาติพี่น้อง บุคคลแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เพื่อตีแผ่ โดยนำเสนอผ่านผลงานวิจัย เรื่อง เมียฝรั่ง...ความสัมพันธ์ของผู้หญิงไทยกับผู้ชายต่างชาติ” ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ดร.รัตนา กล่าวว่า ถึงแม้คำว่า เมียฝรั่ง จะเป็นคำไทยที่ใช้กันโดยทั่วไป แต่ด้วยประวัติศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับคำว่า เมียเช่า ในช่วงสงครามเวียดนามซึ่งสะท้อนถึงการดูถูกดูแคลน ดังนั้น ในงานวิจัยนี้จึงขอให้คำว่า ภรรยาฝรั่ง ซึ่งเป็นการให้เกียรติผู้หญิง ฝรั่งขุมทรัพย์มีชีวิตสำหรับการศึกษาประสบการณ์ของผู้หญิงอีสานที่เลือกแต่งงานกับฝรั่ง และอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดการต่อรอง และเงื่อนไข ในเพศวิถี การแต่งกาย รสนิยมทางเพศ ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงทางวัฒนธรรมนั้น มีต้นสายปลายเหตุที่สืบเนื่องมากจาก สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของอีสานนั้น ยังคงประสบปัญหาความยากจน หนี้สินรุงรัง ปากกัดตีนถีบ เลี้ยงปากเลี้ยงท้องด้วยการทำนาทำไร่ ที่สืบต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้วงจรความจนวนเวียน จนซ้ำจนซาก ดังนั้น อาชีพเกษตรกรรมจึงไม่ใช่คำตอบ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคนเหล่านี้ต้องพบพานความผิวหวัง ความล้มเหลว ถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่เสมอ พวกเขาไม่เคยมีหลักประกันในการทำอาชีพเลย จนกระทั่ง กลุ่มคนหนุ่ม-สาวอีสานรุ่นแรก มุ่งหน้าทำงานในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ อย่าง พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ซึ่งคนอายุช่วง 60 ปี ล้วนเคยเป็นคนขับแท็กซี่ในเมืองกรุง หรือผู้หญิงก็จะมีอาชีพเป็นพนักงานรักษาความสะอาดมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งโดยรวมการอพยพข้ามถิ่นเป็นการออกไปเพื่อประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ดีกว่าการทำนาอยู่บ้าน แล้วจึงส่งเงินมาให้พ่อแม่จับจ่ายใช้สอยเพื่อแสดงความกตัญญู ส่วนใหญ่การดิ้นร้นเพื่อหนีรอดความอดอยาก มักไข่วคว้าโอกาส ช่องทางทำมาหากิน แต่ด้วยความรู้น้อยนิด บางคนจบเพียง ป.4 หรืออย่างมากก็ ป.6 ทำให้โอกาสในการหางานที่ดี ได้เงินเดือนสูง และสบายนั้น ไม่มี เมื่อจับพลัดจับผลูได้มีสามีเป็นฝรั่ง ก็กลายเป็นวิธีทางหนึ่งที่จะทำให้ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จุดเริ่มของฝันหวานความฝันของคนทุกคน ไม่เฉพาะผู้หญิงกลุ่มนี้ ก็คงอยากมีบ้านช่อง สะดวกสบาย มีบ้านตึกใหญ่โต เหมือนในกรุงเทพฯ เรียกว่ามีชีวิตที่ดีขึ้นทางวัตถุ ดร.รัตนา เล่าประสบการณ์ชีวิตของ นาง(นามสมมติ) หญิงชาวอีสานวัย 59 ปี ซึ่งแต่งงานกับชายชาวสวิส ตั้งแต่อายุ 22 ปี ว่า เดิมครอบครัวของนางมีฐานะยากจน มีที่นำกินเพียง 5 ไร่ มีพี่น้องรวมกัน 9 คน เรียนจบการศึกษาเพียงชั้น ป.4 และอพยพไปทำงานอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ จนได้พบกับสามีคนแรก ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง และมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ต่อมาได้หย่าร้างกัน โดยนางเป็นคนเลี้ยงลูกสาว 2 คน ชีวิตช่วงนี้ของนางยากลำบากอย่างยิ่ง จนเพื่อนของเธอแนะนำให้ไปทำงานที่พัทยา จนได้พบกับชายชาวสวิสเซอร์แลนด์ และผูกสมัครรักใคร่ ถึงขั้นทดลองอยู่กินกัน 3 เดือน ในสวิสเซอร์แลนด์ จากนั้นจึงกลับมารับลูกสาวไปอยู่ด้วย และส่งเสียจนเรียนจบการศึกษาระดับสูงทั้ง 2 คน ส่วนนางก็มีกิจการเปิดร้านอาหารไทยที่สวิสฯ มีฐานะดีขึ้นทันตา จากนั้นเธอก็ได้กลับมารับญาติๆ ไปอยู่ด้วยหวังจะช่วยให้ผู้หญิงเหล่านี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเหมือนเธอ อยู่กับผัวไทยก็บ่ได้อีหยั่ง ทำนาทำไร่ อดๆ อยากๆนางกลับมาและพาทั้งสาวและไม่สาวไปช่วยดูแลร้านอาหารของเธอเอง และสร้างโอกาสให้ญาติๆ หรือเพื่อนของเธอได้พบเพื่อนสามีที่เป็นชาวสวิส โดยคัดกรองแล้วว่าดี มีฐานะใช้ได้ จนสาวๆส่วนใหญ่ในหมู่บ้านได้คู่ครองเป็นชาวสวิส เกือบทั้งหมด ดร.รัตนา บอกว่า การบอกต่อ การแนะนำ ให้กันทำให้ขณะนี้ในหมู่บ้านมีผู้หญิงในในช่วงอายุ 20-59 ปีจำนวน 330 คน มีสามีเป็นฝรั่ง 84 คน ชาติที่เป็นที่นิยมสูงสุดร้อยละ 96 เป็นชาวสวิส นอกนั้น เป็นชาวเยอรมัน ร้อยละ 2 อีกร้อยละ 1 เป็นชาวอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่ชายฝรั่งจะมีฐานะค่อนข้างดีประกอบอาชีพหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร แพทย์ นายธนาคาร นักดับเพลิง บุรุษไปรษณีย์ ช่างไฟฟ้า ตำรวจ ช่างเทคนิค ไปจนถึงกรรมกร อย่างไรก็ตามชายเหล่านี้จะมีอายุเฉลี่ยแล้วสูงกว่าฝ่ายหญิงประมาณ 10-18 ปี และผ่านการหย่าร้างมาแล้ว เมื่อฝ่ายชายเหงา ว้าเหว่ อยากมีคนดูแล และต้องการความซื่อสัตย์ ในขณะผู้หญิงอีสานขาดเงินทอง ความสะดวกสบาย ความขาดของทั้งสองกลับกลายมาเป็นส่วนเติมเต็ม เมื่อผู้ชายมีเงินทองสามารถช่วยเหลือชีวิตของสาวอีสานให้ดีขึ้นได้ และชายต่างชาติได้พบคู่ชีวิตที่ทั้งน่ารัก เอาใจเก่ง ขณะที่หญิงฝรั่งมักจะชอบเรียกร้องสิทธิสตรี อย่างชายชาวสวิสคนหนึ่ง เล่าว่า เขาเคยขอให้ภรรยาเก่าชาวฝรั่งเศสชงกาแฟให้ เธอกลับตอบว่า มือคุณผิดปกติอะไร ทำไมไม่ชงเอง แต่เขากลับแปลกใจมากเมื่อครั้งแรกที่เห็นหญิงไทย “ตื่นเช้ามาก็บีบยาสีฟันใส่แปลงให้” หญิงไทยเอาอกเอาใจ ใส่ใจเขาทุกอย่าง โดยที่เขาไม่ได้ขอร้อง ดร.รัตนายังได้นำข้อมูลผลจากการสำรวจของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเมื่อปี 2547 กรณีการพบรักกันของหญิงไทยกับชายต่างชาติ พบว่า ร้อยละ 54 มักพบกันในสถานที่ทำงาน เช่น สถานบริการต่างๆ อย่างพัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ร้อยละ 20 พบกันผ่านเครือญาติ ร้อยละ 26 พบกันจากการเดินทาง ท่องเที่ยว และร้อยละ 1-2 เป็นการใช้บริการผ่านทางบริษัทจัดหาคู่ ซึ่งตอนนี้ถือว่ากำลังมีเพิ่มขึ้นโดยส่วนใหญ่ผู้ใช้บริการจะต้องจ่ายค่านายหน้าประมาณ 70,000-150,000 บาท ซึ่งการหาคู่แบบนี้มีความเสี่ยงมาก ถ้าโชคดีก็ได้แฟนดี โชคร้ายก็เจอผู้ชายเลวๆ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่า ไม่ใช่ว่าผู้ชายต่างชาติจะเป็นคนดีทุกคน อย่างไรก็ตามกรณีที่ตนศึกษาในหมู่บ้านแห่งนี้มักมีผลลัพธ์ในเชิงบวกมากกว่า เนื่องจากการคบหา รักใคร่มีการกลั่นกรองแล้วชั้นหนึ่ง โดยเครือญาติ ดังนั้นกรณีศึกษาทั้ง 84 ราย พบเพียง 1 รายเท่านั้นที่มีปัญหาการหย่าร้าง เนื่องจากฝ่ายชายเป็นคนเจ้าชู้ เมาแล้วทำร้ายร่างกาย ซึ่งผู้หญิงคนนี้เมื่อหย่าแล้วก็ยังคงประกอบอาชีพในต่างประเทศมีเงินส่งให้พ่อแม่ซึ่งถึงจะไม่มากและก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ชีวิตฉันดั่ง ซินเดอเรลลา ...จะมีใครที่ไหนเห็นค่า ผู้หญิงหน้าตาไม่สะสวย ตัวดำๆ ผิวกร้านแดด การศึกษาต่ำ แถมกระเตงลูกติด เป็นม่าย ร้อยทั้งร้อยไม่มีผู้ชายไทยดีๆ จะมาสนใจหรอก... แต่สำหรับผู้ชายฝรั่งเขาไม่ถือ ไม่ว่าพวกเธอจะเป็นม่ายลูกติด ฐานะยากจนแสนจน ไม่เหลือความบริสุทธิ์ผุดผ่องไว้ พวกเขาไม่ได้มองจุดนี้แต่ให้ความสำคัญกับจิตใจ ความซื่อสัตย์และเข้ากันได้มากกว่า เพื่อมาเป็นคู่ชีวิต สิ่งเหล่านี้คล้ายปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นในชีวิต นางเคยพูดว่า การแต่งงานกับฝรั่งทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับ ซินเดอเรลลา สามีของเธอให้เธอทุกอย่าง ไม่ว่าจะเงินทอง ความรัก หรือแม้แต่เรื่องเพศสัมพันธ์ กับสามีคนไทยคนก่อนการมีเพศสัมพันธ์เป็นไปโดยที่ฝ่ายชายไม่เคยถามถึงความพร้อมของภรรยา ชอบแบบไหน อย่างไร ไม่เคยได้พูดคุย อาจเป็นเพราะสภาพสังคมและวัฒนธรรม เธอจึงมักไม่มีความสุขนัก แต่เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับสามีฝรั่ง เขาจะถามก่อนเสมอว่า คุณพร้อมไหม มีใจไหม ทำให้พวกเธอรู้สึกว่าร่างกายของผู้หญิงไม่ใช่ ว่าอยากจะทำอะไรเมื่อไรก็ได้ ต้องมีความเคารพในร่างกายและจิตใจของอีกคนด้วย” ส่วนชีวิตที่อยู่ในต่างประเทศ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ทั้งอากาศ ผู้คน ชีวิต ความเป็นอยู่ อาจทำให้เกิดความเครียดบ้าง แต่นั้นก็เป็นเรื่องที่จะต้องเรียนรู้และปรับตัว ดร.รัตนา บอกว่า การใช้ชีวิตช่วง 3 เดือน แรก กว่า ร้อยละ 90 2 สามี ภรรยา แทบไม่ได้พูดคุยกันเลย หญิงคนหนึ่ง เล่าว่า เธอใช้วิธีการสื่อสารโดยการวาดรูป และชี้ไปยังสิ่งที่ต้องการ ช่วงนั้นอึดอัดมาก เพราะธรรมชาติคนอีสานเป็นคนขี้เล่น ช่างพูดช่างคุย ต้องทนอยู่ในอพาร์ตเมนต์แคบๆ หันไปทางไหนก็เห็นแต่กำแพงหนาสี่เหลี่ยมที่ไม่เหมือนที่บ้าน ภาษาวัฒนธรรมก็ไม่เข้าใจ ทรมานมาก จนสาวๆ หลายคนอยากกลับบ้าน แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงเวลา 3 เดือนนี้มาได้และสามีส่งไปเรียนภาษาจนพวกเธอพูดได้คล่อง แม้จะอ่านและเขียนไม่ได้ ก็สามารถช่วยให้พวกเธอเอาตัวรอดได้ จากนั้นพวกเธอก็จะคิดหาช่องทางทำธุรกิจ อย่างเปิดร้านอาหารไทย ร้านขายของชำ ถึงแม้ว่าผู้หญิงกลุ่มนี้จะมีสามีฝรั่ง หรืออพยพไปอยู่ต่างประเทศแต่พวกเธอก็ไม่เคยลืมพ่อแม่ หรือบ้านเกิดเมืองนอน หรือแม้แต่วัฒนธรรมอีสานเลย โดยส่วนมากจะกลับมาสร้างบ้านหลังใหญ่ให้พ่อแม่พี่น้อง หญิงสาวคนหนึ่งเล่าว่า ในสวิสเซอร์แลนด์ถึงขนาดมีชุมชนอีสานอยู่ที่นั่น ได้ไปทำบุญในวัดไทย ทำกิจกรรมร่วมกับคนไทยที่นั่น ดร.รัตยาบอกอีกว่า บทบาทของชาย-หญิงที่นี่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คือ ผู้หญิงจะเป็นหัวเรียวหัวแรงหลักในการหาเงินหาทอง เข้าครอบครัว เป็นเสาหลัก ที่คนในครอบครัว ชุมชนให้การยกย่อง มีความรู้สึกเกรงอกเกรงใจ ส่วนผู้ชายเองก็ยอมรับและไม่ได้ดูถูกดูแคลนผู้หญิงเพราะเห็นว่าช่วยทำประโยชน์ให้กับครอบครัวไม่ได้คิดถึงศักดิ์มากนัก บางครอบครัว สามีหย่าให้เพื่อให้ภรรยาแต่งานกับฝรั่งเพื่อให้ลูกมีชีวิตที่สุขสบายขึ้น ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ถึงขนาดมีบางบ้านเปรยว่า อยากมีลูกสาวมากกว่าลูกชายเลยทีเดียว โตขึ้นหนูอยากเป็น เมียฝรั่งเมื่อถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กหญิงตัวกระเปี๊ยกเหล่านี้พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า อยากแต่งงานกับฝรั่ง นี่เป็นเรื่องน่ากลัวมากเด็กมีค่านิยมผิด ให้ความสำคัญทางวัตถุ การมีเงินใช้เยอะๆ มีบ้านหลังใหญ่โต เป็นที่ตั้ง ทั้งๆ ที่ ชีวิตที่เลือกแต่งงานกับฝรั่งอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ ความสะดวกสบายที่ได้รับ ประกอบกับแบบอย่างการใช้ชีวิต ของ พี่ ป้า น้า อา ทำให้เด็ก อยากที่จะเป็นเมียฝรั่งมากขึ้น ซึ่งผู้ใหญ่ พ่อแม่ คนแก่เฒ่าไม่ได้สนับสนุน แต่ก็ไม่ขัดขวาง มีบ้างที่เป็นห่วง รู้สึกไม่สบายใจกับภาพลักษณ์ที่บุคคลภายนอกมอง บางคนอาจมองว่าการที่มีสามีฝรั่งเพราะทำงานไม่ดี เป็นพวกขายตัวค้าประเวณี เป็นผู้หญิงไม่ดี เหมือนเป็นเมียเช่า ซึ่งไม่ใช่ ทำให้รู้สึกเสียใจมาก ทั้งๆ ที่ผู้หญิงเหล่านี้เป็นคนกตัญญู รู้จักทดแทนคุณ ไม่ลืมพ่อแม่พี่น้อง แต่อีกใจก็ดีใจที่ลูกหลานมีความมั่นคงในชีวิต และหากมีทางเลือกอื่นก็พร้อมที่จะลูกหลานได้เลือกทางเดินชีวิตเอง ขณะที่ พันโททันตแพทย์หญิง อังศิกา กุศลาสัย วัย 53 ปี หนึ่งในบรรดาสาวไทยที่มีสามีเป็นชาวเยอรมัน แสดงความเห็นว่า การศึกษาไม่ว่าสูงต่ำเห็นเป็นเรื่องดีกันไปหมด อย่าเพิ่งฝันหวานว่าจะมีชีวิตดั่งซินเดอเรลลาทุกคน พวกผู้ชายซาดิสต์ นิสัยไม่ดี ที่สร้างความทุกข์ใจก็มีมาก ดังนั้นจะต้องมีสติ อย่าแต่งงานเพราะหวังชีวิตหรูหรา มีเงินทอง มันไม่เป็นสูตรสำเร็จว่าจะมีชีวิตที่ดีเสมอไป ผู้ใหญ่ควรหันมาคิดแก้ไขปรากฏการณ์นี้ได้แล้ว ขณะที่จ๋า นิพิธิดา ชำนาญกุล วัย 20 ปี นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า มีเพื่อนหลายคนที่มีแฟนเป็นฝรั่ง เคยถามว่าทำไมถึงชอบฝรั่ง พวกเพื่อนบอกว่า ฝรั่งเทคแคร์ดี มีเงินให้จับจ่ายใช้สอย โดยที่ส่วนมากรู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต เป็นเพื่อนกันก่อน จากนั้นจึงพัฒนาความสัมพันธ์ บางครั้งเขาก็บินมาเที่ยวเมืองไทย บางครั้งเราก็บินไปเที่ยวบ้านเขา ซึ่งผู้ชายต่างชาติส่วนมากก็เป็นคนรุ่นเดียวกันไม่ได้แก่ชราหรือเคยแต่งงาน มีลูกติด เป็นการชอบพอแบบหนุ่มสาวทั่วไป เพียงแต่ไม่มีปัญหาทางการสื่อสาร เพราะส่วนมากทุกคนใช้ภาษาอังกฤษได้ดีอยู่แล้ว ดร.รัตนา ทิ้งท้ายไว้ว่า เด็กยังมองการเป็นเมียฝรั่งอย่างผิวเผิน ไม่เข้าใจในหน้าที่ และบทบาท การใช้ชีวิตอยู่ต่างถิ่น เด็กสัมผัสได้เพียงวัตถุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน เสื้อผ้า แก้ว แหวน เงิน ทอง ซึ่งการศึกษาเป็นการเตรียมการที่ดี ที่จะช่วยให้เขามีทางเลือกมากขึ้น เขาไม่จำเป็นจะต้องเดินตามรอยพี่ ป้า น้า อา เสียทั้งหมด..ที่สำคัญคงต้องแก้ที่ปัญหาความยากจนซึ่งเป็นต้นตอในการดิ้นรน เป็น “เมียฝรั่ง”

ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์



บทความแนะนำ


ศิวัฒน์ผู้เรียนเรียนพิเศษติวเตอร์บ้านเอมี่ข่าวบันเทิงหนังแอ็คชั่นอนาสตาเซียซูเปอร์แมนกลิ่นประทุมเอมี่ทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก