ด่วน!! ค่าไฟขึ้นแล้วเดือนพฤษภาคมนี้ เช็คด่วนขึ้นเท่าไหร่ ? แถมแนวโน้มขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย

ประเทศไทยเป็นประเทศที่อากาศร้อนอย่างมาก แน่นอนว่าหลายๆคนเปิดพัดลมบ้าง เครื่องปรับอากาศบ้าง เพื่อคลายความร้อน แต่ต่อจากนี้คงต้องคิดหนักกันหน่อย เพราะราคาค่าไฟกำลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มปรับในเดือน พฤษภาคมนี้

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 60 กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ.มีมติให้ปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 60 อีก 12.52 สตางค์/หน่วย ตามต้นทุนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้น ส่งผลให้ค่าเอฟทีจากเดิมที่อยู่ระดับ -37.29 สตางค์/หน่วย งวดใหม่อยู่ที่ -24.77 สตางค์/หน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานจะมีผลทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 3.5079 บาท/หน่วย ซึ่งไม่นับรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

กรรมการ กกพ. ในฐานโฆษก กกพ. ยอมรับว่าค่าเอฟทีมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.2560) จากเดิมอยู่ที่ -37.29 สตางค์ต่อหน่วย แต่เนื่องจากเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า (ก๊าซธรรมชาติ) ปรับตัวสูงขึ้น บวกกับค่าเงินบาทอ่อนค่าไปอยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จึงส่งผลให้การจัดหาเชื้อเพลิงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศมีราคาสูงขึ้น ท้ายที่สุดแลล้วค่าเอฟทีจะเป็นอัตราเท่าไหร่นั้น ก็คงจะต้องรอผลการพิจารณาจากที่ประชุมเป็นข้อสรุปอีกครั้ง

โดยนายวีระพล กล่าวว่า ..

งวดที่ผ่านมา กกพ.กันเงินที่เหลือจากค่าความพร้อมจ่าย (เอพี) จากเอกชนประมาณ 2,200 ล้านบาท เพื่อนำมาดูแลค่าเอฟทีงวดใหม่นี้ สามารถลดค่าไฟได้ประมาณ 3 สตางค์ต่อหน่วย ประกอบกับกรณีการหยุดซ่อมแหล่งก๊าซยาดานา ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 25-28 ก.พ.2559 มีผลให้ก๊าซหยุดจ่าย 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทำให้ ปตท.และ กฟผ. ต้องสำรองน้ำมันดีเซล 14 ล้านลิตร และน้ำมันเตา 100 ล้านลิตร ซึ่งเดิมประเมินว่าหากนำเชื้อเพลิงสำรองมาใช้ทั้งหมดจะกระทบต่อค่าไฟฟ้า 1.30 สตางค์ต่อหน่วย แต่ปรากฏว่าได้นำไปใช้เพียงน้ำมันเตาแค่ 30 ล้านลิตรเท่านั้น ส่งผลให้กระทบค่าไฟเพียง 0.2 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น ซึ่งการพิจารณางวดนี้ยังต้องนำปัจจัยหลักด้านต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นมาประกอบการตัดสินใจด้วย