อันตรายจากการรับประทาน "ปลานิล" ที่คุณอาจยังไม่ทราบ?!

อ่าน 5,147

ไม่ว่าจะเป็นการทอด ตุ๋นหรือต้มแกง ปลานิลเป็นเมนูอาหารที่ต้องมีบนโต๊ะ ถือเป็นปลายอดนิยมเลยก็ว่าได้ ปลานิลอาศัยอยู่ได้ในน้ำจืดและน้ำกร่อย มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่ทวีปแอฟริกา พบทั่วไปตามหนอง บึง และทะเลสาบในประเทศซูดาน, ยูกันดา และทะเลสาบแทนกันยีกา

นอกจากจะนำมากินแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้แพทย์บราซิลยังใช้หนังปลานิลในการรักษาผู้ป่วยแผลไหม้ได้อีกด้วย มีประโยชน์มากมาย แต่ทว่าสำนักข่าวต่างประเทศออกมารายงานว่า 5 สาเหตุที่ไม่ควรรับประทานปลานิลคือ

1. ทำลายธรรมชาติเพราะจะมีการบริโภคปลานิลมากกว่าปลาชนิดอื่น ทำให้ผู้ผลิตหลายแห่ง และมีเว็บไซต์เกี่ยวกับสุขภาพออกมาแสดงความคิดเห็นว่า : "เมื่อปลาไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง เมื่อปลาออกจากฟาร์มปลา จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รวมทั้งเป็นการทำลายสภาพแวดล้อมระบบนิเวศท้องถิ่น ก่อให้เกิดมลพิษในน้ำทำให้สัตว์ชนิดอื่นๆติดเชื้อโรคไปด้วย"

2. ปริมาณไขมันที่ไม่ดีสูงเกินไปปลานิลกินพืชและสาหร่ายเป็นอาหาร แต่ปลานิลที่เลี้ยงเพื่อจำหน่ายกลับกินข้าวโพด ถั่วเหลืองเป็นอาหาร โดยเจ้าของฟาร์มปลาบอกว่า ปลานิลเป็นปลาที่มีไขมันมาก ตัวอ้วนใหญ่ แต่ไขมันในร่างกายของปลาไม่มีประโยชน์กับร่างกายของมนุษย์มากเท่าไร มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐรายงานว่า "กรดไขมันโอเมก้า 6 ในปลานิลมีมากกว่าเบอร์เกอร์และเบคอน"

3.มีส่วนผสมของสารเคมีโชคร้าย! ที่ส่วนใหญ่ปลานิลที่เราซื้อตามซุปเปอร์มาร์เกต นั้นได้รับการดัดแปลงพันธุกรรมและเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลงและยาปฏิชีวนะ ความจริงของเกษตรกรที่พยายามป้องกันการป่วยและการแพร่กระจายของโรค ปลานิลจึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่อันตรายเมื่อเร็วๆมานี้ได้ตรวจพบสารดีบุกไดบิวทิล ทิน(DBT)ในเนื้อปลา ที่เป็นสารเคมีจากท่อพลาสติกPVC ผู้เชียวชาญต่างประเทศยังกล่าวอีกว่า สารเหล่านี้ก่อให้เกิดโรคอ้วน, โรคภูมิแพ้, หอบหืด, โรคการเผาผลาญและปัญหาอื่น ๆ

4. ปลานิลกินอุจจาระเป็นอาหารเพราะการเพาะเลี้ยงที่มีความหนาแน่สูง ถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่แออัดมาก ทำให้ปลากินอุจจาระกันเอง ที่ผ่านมาการเลี้ยงปลานิลที่ประเทศจีนถูกเปิดโปงว่า ใช้อุจจาระของหมูและห่านเป็นอาหารให้ปลานิล มหาวิทยาลัยจอร์เจียศูนย์ความปลอดภัยด้านอาหาร "ไมเคิลดอยล์" ได้ออกมาเปิดเผยว่า "บริษัทเพาะเลี้ยงปลานิลจำนวนมากในประเทศจีน ใช้อุจจาระแทนอาหารที่มีจุลินทรีย์และมีเชื้อซัลโมเนลลา เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง"

5.อาจเป็นสารก่อมะเร็งปลานิลยังมีสารไดออกซินเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง ซึ่งถ้าหากรับประทานเข้าไปแล้วต้องใช้เวลาถึง 11 ปีเพื่อชะล้างสารตกค้างในร่างกายออกได้หมดอย่างไรก็ตาม ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงการอ้างอิงจากการตรวจพบในเนื้อปลานิลที่เพาะเลี้ยงในต่างประเทศเท่านั้น !



บทความแนะนำ


โปรโมชั่นSaleEndSeasonLilyดูดวงความรักดวงประจำวันดูดวงวันเกิดแค่มองตาก็รู้ใจทำนายนิสัยใจคอสบตาทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก