12 เหตุผลที่เราไม่ควรให้โอกาสเขาเป็นครั้งที่สาม
จริงๆแค่โอกาสครั้งที่สองหลายคนก็เลือกที่จะหยุดไว้แล้ว
แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังเชื่อว่าเขาจะกลับมาหาเรา
เปลี่ยนแปลงตัวเองและเชื่อว่าความสัมพันธ์มันอาจดีขึ้น
แต่สุดท้ายไม่ว่าจะให้กี่โอกาสมันก็พังอีกเหมือนเดิม
ครั้งนี้เราขอแนะนำว่าพอเถอะ
ถ้าเขารักและแคร์เราจริงเขาคงไม่ปล่อยให้มันพังไปตั้งแต่ครั้งก่อนหรอกจริงมั้ยเขาไม่เคยเปลี่ยน และอย่าหวังว่าเขาจะเปลี่ยน
คนเราเปลี่ยนยากนะ
ให้โอกาสเขากี่ครั้ง ก็สัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำได้เหมือนที่พูด กลายเป็นว่าพอยกโทษให้
คืนดีกันก็กลับมาอีหรอบเดิมอีก
แล้วคิดเหรอว่าถ้าเราให้โอกาสเขาครั้งนี้เขาจะเปลี่ยนไปจริงๆ
เรามองว่าใจความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าครั้งต่อไปจะดีขึ้นหรือเปล่าไม่รู้
แต่ที่รู้แน่ๆ คือเราต้องคาดหวังกับเขาอีกกี่ครั้ง เพราะสุดท้ายถ้าทำไม่ได้
ก็เป็นเราที่เจ็บเองตลอด แค่คิดก็เฮิร์ทแล้วเขาจะกลับไปทำให้เราเจ็บแบบเดิมอีก
ไม่มีอะไรที่การันตีได้เลยว่าเขาจะไม่ทำผิดอีก
คู่ที่รักๆ เลิกๆ จะมีปัญหาเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจกัน
ถึงจะกลับมาคบกันได้
แต่ถ้าอีกฝ่ายเคยทำผิดก็คงไม่มีใครจะเชื่อใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
และบางทีถ้าเราให้โอกาสเขาในครั้งนี้
ถึงแม้ว่าความผิดครั้งใหม่จะเบากว่าครั้งก่อน
แต่ฟางที่มันบางก็ย่อมขาดง่ายเป็นธรรมดาเขาทิ้งโอกาสที่เคยให้ไปอย่างไม่ใยดี
เขามีโอกาสมากมายที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ทำให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้นตลอดเวลาที่เรายังคบกัน
แต่เขาไม่เคยทำเลยสักครั้ง แถมยังทิ้งโอกาสที่ให้ไปอย่างไม่ใยดี
เอาโอกาสนั้นไปนอกใจ เอามาหลอกเรา ถ้าเขายังรักและอยากให้เรากลับมาจริงๆ
เขาคงไม่ทิ้งโอกาสนั้นไปหรอกจริงมั้ยฉันดูไร้ค่า และเป็นของตาย
เวลาอยู่กับเขาฉันเหมือนคนไร้ค่า
เขามองฉันเป็นเหมือนของตายที่กลับมาหาได้เสมอ
ยิ่งบางคู่ที่ฝ่ายชายมองฝ่ายหญิงเป็นเหมือนคนใช้ ทำงานบ้านให้เท่านั้น
แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมองเราได้เต็มตา
มองเราด้วยความรักเหมือนที่เคยมอง ถ้าเขาเป็นอย่างนั้นเดินออกมาเถอะ
โอกาสครั้งที่สามก็ไม่มีความหมายเราสมควรได้เจอคนที่ดีกว่านี้
พอมาลองคิดดูแล้ว
อดีตกับคนๆ นี้มันไม่มีอะไรที่พัฒนาหรือดีขึ้นเลย มีแต่จะแย่ลง
บางคนถึงกับถูกทำร้าย โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีก
แล้วทำไมเราถึงต้องให้โอกาสครั้งที่สามกับคนนี้อีกล่ะ
ทั้งที่เรามีโอกาสจะได้เจอคนใหม่ที่ดีกว่า
เก็บโอกาสพวกนี้ไว้ให้คนที่เขาสมควรได้รับมันเถอะอยู่กับเขาแล้วชีวิตมันไม่ดีขึ้น
ลองย้อนกลับไปคิดถึงช่วงเวลาที่เราคบกัน
ตอนนั้นเราขอบตาดำเพราะนั่งรอเขากลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ
ใบหน้ามีแต่ความหมองหม่นไม่สดใสจนเพื่อนหลายคนทัก
การออกมาอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่เราจะได้เยียวยาตัวเอง
และทำให้ชีวิตมันดีขึ้น ความรักมันควรทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นไม่ใช่หรอทะเลาะกัน เลิกกันด้วยเหตุผลเดิมๆ
ถ้าไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
เดินออกมาเถอะ การที่เราทะเลาะกัน เลิกกันด้วยเหตุผลเดิมๆ
มันอาจเป็นสัญญาณที่กำลังบอกว่ามีบางอย่างในตัวเราสองคนที่มันไปด้วยกันไม่รอดแล้วล่ะไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ด้วยกันแล้ว
บางคนหมดรักไปแล้ว
แต่ที่ยังลังเลว่าจะให้โอกาสเขาอีกครั้งดีมั้ย จะเพราะสงสาร
หรือเสียดายอดีตที่มันสวยงามก็ตาม แต่ขอเถอะอย่าลืมว่าความรักมันสำคัญ
ถ้าเราไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ด้วยกัน มองอนาคตที่มีเขาอยู่ในชีวิตไม่ออก
ปล่อยมันไปตั้งแต่ตอนนี้อาจจะดีที่สุดเขาชอบลงมือ
เรื่องการทำร้ายร่างกายเป็นเรื่องนึงที่เราไม่ควรยอมและถอยออกมาให้เร็วที่สุด
ผู้ชายบางคนอาจบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ พลั้งมือไปหน่อย
ยิ่งบางคนมีนิสัยที่ชอบลงไม่ลงมือเวลาโกรธด้วยแล้ว ยิ่งต้องถอยออกมา
อย่าให้โอกาสเขาทำร้ายร่างกายเราอีกเลย แค่ทำร้ายจิตใจมันก็มากพอแล้ว
เก็บโอกาสครั้งนี้ไว้รักตัวเองดีกว่าถ้าคนรอบข้างบอกว่าไม่เวิร์ค
เวลาที่เรารักใครสักคนเรามักจะตาบอด
มองไม่เห็นข้อเสียของอีกฝ่ายหรอก
แต่คนอื่นที่เขาสังเกตอยู่นี่แหละที่จะเห็น
และถ้าเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อย่าเลย ลองฟังเขาไว้บ้างก็จะดี
นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเขากับเราไม่เหมาะสมกันเขานอกใจเราไปหาเพื่อนของเรา
แย่ยิ่งกว่าการถูกเขาหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าซะอีก
เพราะเราถูกหลอกทั้งคนที่เราไว้ใจและคนที่เรารัก
ถ้าเขานอกใจเราไปมีสัมพันธ์ลับกับเพื่อนเรา
นั่นหมายความว่าเขาไม่มีความเคารพในตัวคุณแล้ว ถอยออกมาดีกว่า
ยังมีคนใหม่ที่ดีกว่าและไม่คิดหักหลังเราอีกเยอะความเชื่อใจและความศรัทธาในตัวเขามันหายไปแล้ว
ลองชั่งใจถามตัวเองดูก่อนว่า
เราจะยังเชื่อใจผู้ชายคนนี้ได้อีกมั้ย เรายังมีศรัทธาในตัวเขาอยู่มั้ย
ถ้าคำตอบคือ ไม่ โอกาสครั้งที่สามที่เขาขอมันอาจจะเกิดเหตุการณ์เดิมๆ
และเราเองที่จะไม่มีความสุข
เพราะใจความสำคัญของความรักมันคือการที่เรายังมีความเชื่อมั่น
ยังศรัทธาในตัวอีกฝ่ายไม่ใช่เหรอ