ผู้หญิงร้ายกว่าที่คิด! รวมตัวอย่างคดีดังที่มาจาก "ฝีมือผู้หญิง" ต้มตุ๋น-ทำร้ายร่างกาย-ฆ่า!!(มีคลิป)

กลายเป็นเรื่องโด่งดังชั่วข้ามคืนเมื่อเกิดคดี "แก๊งสวยฆ่าหั่นศพ" ซึ่งสิ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษไม่เพียงแต่เรื่องคดีที่อาจเกี่ยวพันกับสิ่งผิดกฎหมายข้ามชาติ แต่นั่นคือผู้ก่อเหตุฆ่าคนตายเป็นหญิงสาวหน้าตาดีซะด้วย!

ซึ่งหากย้อนไปเมื่ออดีตก็มีคดีที่เกิดจากฝีมือผู้หญิงนับไม่ถ้วน และนี่คือตัวอย่างคดีดังที่เป็นที่กล่าวขวัญกันมากในสังคมไทยในอดีต เพราะผู้ก่อเหตุเป็น "ผู้หญิง" ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ลงคอ

แม่ชม้อย-นางชม้อย ทิพย์โส

เจ้าแม่แชร์ผู้โด่งดังเมื่อปี 2528 ก่อเหตุต้มตุ๋มหลอกลวงให้ประชาชนลงทุนในแชร์น้ำมัน โดยหลอกกันทั่วประเทศ จำนวนหลายหมื่นคน และวงเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 10,000,000,000 บาท เมื่อรัฐบาลในขณะนั้นได้ติดตามสืบสวนการกระทำของนางชม้อย ทิพย์โส ก็ไม่ปรากฏว่าได้มีการนำเงินไปลงทุนค้าน้ำมันแต่อย่างใด จึงทำการสอบสวน ดำเนินคดี ผลสุดท้ายของการตัดสินคดีคือ จำคุกอยู่ในเรือนจำเพียง 7 ปี 11 เดือน 5 วัน เพราะได้รับการลดลงโทษ 2 ครั้ง และพ้นโทษเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2536 (คลิกที่นี่ เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

นางจุรี จันทร์งาม

เมื่อเวลา 23.30น. วันที่ 13 ธ.ค. 50 ได้มีมือปืนบุกฆ่าโหดเภสัชกรสาว พร้อมผู้ช่วยแพทย์ดับสยอง 2 ศพ ที่คลินิกเวชกรรม นายแพทย์รังสรรค์ ตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลควนเนียง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ริ้วแพร โชติการ อายุ 28 ปี เป็นเภสัชกร ประจำโรงพยาบาลควนเนียง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่บริเวณหน้าอก หน้าท้อง และที่บริเวณชายโครงด้านขวาทะลุซ้ายแห่งละ 1 นัด นายอาดิษฐ์ ประทีปทัศน์ อายุ 33 ปี เป็นผู้ช่วยแพทย์ของรังสรรค์ คลินิก

โดยขณะนั้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุการฆาตกรรมนั้นอาจมาจากปมขัดแย้งในเรื่องการแต่งงานของ น.ส.ริ้วแพร กับนายวิกรม จันทร์งาม ซึ่งเป็นพนักงานธนาคาร ที่มีกำหนดวันแต่งงานในวันที่ 29 ธ.ค. 50 โดยงานเลี้ยงจัดขึ้นที่โรงแรมไดอิชิหาดใหญ่ ซึ่งเจ้าภาพได้แจกการ์ดแต่งงานไปเรียบร้อยแล้ว และทราบว่าผู้ใหญ่ของนายวิกรม กีดกันมาโดยตลอด โดยไม่ยอมให้ทั้งสองแต่งงานกัน

ซึ่งในภายหลังก็มีการสืบทราบว่า เบื้องหลังทั้งหมดมาจาก "นางจุรี จันทร์งาม" ได้จ้างวานฆ่า น.ส.ริ้วแพร เหตุไม่พอใจที่ลูกชายจะแต่งงานกับ น.ส.ริ้วแพร ซึ่งมีฐานะยากจน เมื่อนางจุรี ไหวตัวทัน กลัวตำรวจจะสืบสาวมาถึงตัวจึงทำการ "แกล้งตาย" นั่นก็คือให้ลูกสาวมายื่นใบมรณะบัตรที่ศาล เพื่อให้ศาลจำหน่ายคดี ไม่สืบต่อไป แต่นายประโมท พุทธสุภะ ซึ่งเป็นพนักงานอัยการในขณะนั้นพบพิรุธจึงทำการรื้อคดีมาใหม่ ทำให้มารดาของ น.ส.ริ้วแพรได้รับความเป็นธรรมอย่างที่ควรจะเป็น และสุดท้ายแล้ว นางจุรี จันทร์งาม ถูกตัดสินให้จำคุกเมื่อปี 2558 พร้อมด้วย น.ส.รัศมี จันทร์งาม ผู้เป็นลูกสาว และนายสมโภชน์ นวลพรหม ผู้ใหญ่บ้านที่ให้ความช่วยเหลือจัดฉากแกล้งตาย

น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต

แม้จะไม่มีการฆ่ากันตายอย่างคดีตัวอย่างด้านบน แต่ที่ทำเอาหลายคนอึ้งและสงสัยไปตามๆ กันก็คือ เธอสะกดจิตให้ นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาชื่อดัง โอนทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ เงินสด ไปเป็นของเธอได้จริง หรือหมอประกิตเผ่าให้เธอด้วยความเสน่หาของหมอเอง ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ หมอประกิตเผ่ามีอาการป่วยหนักถึงกับต้องเข้ารับการรักษาที่ รพ.ศรีธัญญา จากเหตุการณ์นี้กันเลยทีเดียว

จิตรลดาตันติวณิชยสุข

ย้อนไปเมื่อปี 2548 น.ส.จิตรลดา ตันติวณิชยสุข หรือเป็ด หญิงชาว จ.นครปฐม ก่อเหตุพกอาวุธมีดยาว 6 นิ้ว 2 เล่ม และขนาด 8 นิ้ว อีก 1 เล่ม ไปที่ ร.ร.เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ สถานศึกษาชื่อดังย่านสาทร กทม. แล้วใช้มีดแทงนักเรียนหญิงรวม 4 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส บางรายถูกแทงทะลุปอด

ต่อมาศาลอาญาจึงพิพากษาให้จำคุก น.ส.จิตรลดาเป็นเวลา 8 ปี ในความผิดฐานพยายามฆ่า แต่เพราะให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 4 ปี เมื่อส่งตัวให้จิตแพทย์ทดสอบสภาพจิตใจ พบว่า น.ส.จิตรลดา มีอาการทางประสาทเรื้อรังมานานมากกว่า 10 ปี ขาดการรักษาอย่างต่อเนื่อง ศาลจึงเห็นว่าหลังจากจำเลยรับโทษจำคุกครบ 4 ปีแล้ว ให้ส่งตัวไปบำบัดอาการป่วยที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ให้หายเป็นปกติ ซึ่งปัจจุบัน น.ส.จิตรลดามีอาการดีขึ้นเป็นปกติและถูกปล่อยตัวออกจากสถาบัน กลับมาพักฟื้นที่บ้านพักแล้วเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา

ซึ่งจากเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ ทำให้สังคมไทยตื่นตัวในประเด็นโรคจิตเภทเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทางกรมสุขภาพจิต เคยให้ข้อมูลว่า ไม่ใช่ว่าเมื่อผู้ต้องหาเป็นโรคจิตแล้วจะไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย แต่เป็นเรื่องที่หากศาลพิจารณาว่าป่วยมากก็จะให้เข้ารับการรักษา โดยที่การรักษายังอยู่ภายใต้ขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ

พรชนก ไชยะปะ

การหายตัวไปของนายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น คือจุดเริ่มต้นของคดีสะเทือนขวัญนี้ในปี 2557 ก่อนจะมีการสืบสาวราวเรื่องว่า ผู้สูญหายมีความสนิทสนมกับนางพรชนก ไชยะปะ หญิงชาวไทย และให้การสารภาพว่าได้ร่วมมือกับสามี คือ นายสมชาย แก้วบางยาง สังหารโหดนายโยชิโนริ ด้วยการลวงให้มาที่บ้าน ก่อนที่นายสมชายได้แอบเข้าไปในห้องแล้วใช้หมอนอุดเข้าที่บริเวณใบหน้าของนายโยชิโนริ จนขาดอากาศหายใจ จากนั้นใช้มีดทำครัวยาว 14 นิ้ว ชำแหละศพที่ชั้น 2 ของบ้าน แล้วนำชิ้นส่วนอวัยวะใส่ถุงดำและกระสอบจำนวน 5 ใบ นำใส่รถไปทิ้งไว้บริเวณใต้สะพานคลองนางทิ้มเพื่ออำพรางคดี อีกทั้งยังมีการลักทรัพย์ผู้ตายอีกหลายรายการ

ในคดีนี้ล่าสุดศาลอุทธรณ์ พิพากษาเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 60 ยืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกนางพรชนก 20 ปี ส่วนนายสมชายจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งยังต้องติดตามว่า จะมีการยื่นฎีกาหรือไม่

อย่างไรก็ตามยังมีรายงานว่า นางพรชนก เคยพัวพันกับชายญี่ปุ่นหลายราย และมีบางรายเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ซึ่งเมื่อมีการรื้อคดีแล้วพบว่านางพรชนกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายด้วยเช่นกัน

หมอนิ่ม พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ

อีกหนึ่งคดีช็อคความรู้สึกคนไทยกับการตายของ เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักยิงปืนทีมชาติไทย ถูกคนร้ายขับมอเตอร์ไซค์ ประกบยิงเสียชีวิตคารถปอร์เช่ ในพื้นที่สุขาภิบาล 3 เขตมีนบุรี

จากนั้นได้ทำสืบสวนหลายต่อหลายปม มีตัวละครมากมายมาเกี่ยวพัน จนมาทราบว่าผู้จ้างวานฆ่าคือ พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภรรยาของเอ็กซ์ นั่นเอง ซึ่งล่าสุดวันที่ 19 ธ.ค.2559 ศาลมีนบุรี พิพากษา ประหารชีวิตแพทย์หญิงนิธิวดี ฐานเป็นผู้จ้างวานฆ่า เช่นเดียวกับทนายอี๊ด ผู้ร่วมขบวนการ ขณะที่มือปืนและคนขี่ จยย. ให้จำคุกตลอดชีวิต ด้านมารดาของหมอนิ่มที่ช่วงแรกออกมายอมรับผิดแทนลูกสาวถูกศาลยกฟ้อง

เมื่อไล่เรียงสาเหตุพบว่าเกิดจากปมปัญหายาเสพติด การทำร้ายร่างกายและทรัพย์สินระหว่างเอ็กซ์กับภรรยา จนบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งในครอบครัว และเป็นชนวนเหตุแห่งความสูญเสีย ที่จะเป็นอุทาหรณ์ให้ได้ตระหนักถึงภัยจากคนใกล้ตัว

ขอบคุณข่าวจาก :สํานักข่าวไทย TNAMCOT,DuangAestheticII,morning-news.bectero.com, kapook.com