จุกเลย! เพจดัง "ชาวญี่ปุ่น" วาดภาพเสียดสี "สังคมไทย" ดูแล้วเจ็บจริง เพราะสังคมมีแบบนี้อยู่เยอะ!

เฟซบุ๊ก Onan Hiroshi และเพจ Onan Hiroshi ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กและเพจโดยคนญี่ปุ่น เขียนภาพล้อเลียนสังคมไทย โดยใช้ประสบการณ์ที่ตนเองอาศัยอยู่ในเมืองไทยมาหลอมรวมเป็นประเด็นต่างๆ ล่าสุดได้โพสต์ภาพเกี่ยวกับดราม่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และกล่าวรวมไปถึงดราม่าทั่วไปที่พบเห็นกันได้ในทุกวันนี้ แต่ละภาพบอกได้เลยว่าเถียงกันไม่ออกเลยทีเดียว เพราะสื่อถึงความจริงได้เจ็บแสบมาก

ความแตกต่างระหว่างฆาตกรหน้าตาดี กับฆาตกรหน้าตาธรรมดา กระแสสังคมที่ถาโถมใส่จึงแตกต่างกัน

เราอวดกันนักหนาว่านี่สิของไทย คนไทย สิ่งที่คนไทยมีแต่ต่างชาติไม่มี แต่ลืมศึกษารายละเอียดให้ลึกไปว่า ของบางอย่าง ไม่ใช่ฝีมือคนไทยล้วนๆ หรอก มีดีทุกวันนี้ได้ ส่วนนึงก็เพราะชาวต่างชาติเป็นเบื้องหลังในการสนับสนุนทั้งนั้น

พระกำลังเกรี้ยวกราด ทำร้ายร่างกายคนขับแท็กซี่ ตำรวจเลือกจับแท็กซี่ เพราะแท็กซี่ทำผิดกฎที่คนขับพึงจะเป็น

น้ำท่วม ขยะเกลื่อน ด่าผู้ว่าฯ กทม. ง่ายกว่าที่จะช่วยกันเก็บขยะ ช่วยกันป้องกันปัญหานี้

ถ้าจะขายของให้ดีเป็นเทน้ำเทท่า ฝีมือไม่ต้องแล้วยุคนี้ โชว์อึ๋ม โชว์ซิกแพ็ค แป๊บเดียวลูกค้าตรึม

ความแตกต่างระหว่างเทศกาล THAI FESTIVAL ที่จัดโดยคนไทยในประเทศญี่ปุ่น และ LAOS FESTIVAL ที่จัดโดยคนลาวในประเทศญี่ปุ่น

ทำงานหนักให้เหนื่อยตาย ได้ค่าแรงก็น้อย สู้เป็นมิจฉาชีพสบายๆ ได้ตังค์เยอะจะดีกว่าไหม?

เมืองไทยเราปลอดภัยสุดๆ เลย เกิดปัญหาอะไรขึ้นสั่งปิดอย่างเดียว เราถนัดวัวหายแล้วล้อมคอก มากกว่าจะป้องกันเหตุเอาไว้แต่เนิ่นๆ

ความเป็นอยู่ของคนพิการระหว่างไทยกับญี่ปุ่นต่างกันนัก ถ้าเป็นที่ไทย

ออกจากบ้านทำใจได้เลยว่าต้องเจอกับทางขรุขระ กำลังจะขึ้นบันได

ก็ค่อยยังชั่วหน่อยที่เจอคนไทยมีน้ำใจช่วยอำนวยความสะดวกให้

แต่ถ้าขึ้นไปอยู่บนรถเมล์หรือรถไฟฟ้า ทำใจดีๆ ไว้นะ อาจจะเจอคนที่ตีมึน

ทำเป็นเล่นมือถือ ไม่สนใจ ไม่อยากเสียสละที่นั่งให้

ผิดกับทางญี่ปุ่นที่มีสวัสดิการให้คนพิการอย่างดีตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว

จำได้ไหม? กฎหมายเมื่อช่วงสงกรานต์ ห้ามประชาชนทั่วไปนั่งท้ายรถกระบะ ไม่งั้นเจอโทษทางกฎหมาย แต่ตำรวจไทยทำได้สบายมาก

นี่แค่ 10 ตัวอย่างภาพเสียดสีที่เจ็บจี๊ด แทงใจดำคนไทยหลายคน ยังมีอีกมากในเฟซบุ๊ก Onan Hiroshi และเพจ Onan Hiroshi โปรดใช้วิจารณญาณในการชม แต่ละประเด็นมีหลายมุมมอง หลายข้อคิดแฝงอยู่เสมอ

ขอบคุณที่มาของภาพจาก : เฟซบุ๊ก Onan Hiroshi, เพจ Onan Hiroshi