เหงื่อคุณออกเยอะมากเกินไป ใช่หรือไม่? มาดูสาเหตุที่แท้จริงกัน!

เหงื่อออก คือการตอบสนองปกติของระบบภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อเมื่ออุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้น เพื่อพยายามที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส แต่คุณต้องตรวจสอบเบื้องหลังอาการเหงื่อออกมากเกินไป เพราะนั่นอาจเป็นปัญหาเรื้อรังที่ซ่อนอยู่ก็เป็นได้ ปัญหาต่อมไทรอยด์

เหงื่อออกอย่างต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณของต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนที่ควบคุมความเร็วที่ร่างกายใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรอง เมื่อต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดเหงื่อออกอย่างต่อเนื่อง ต่อมไทรอยด์เป็นพิษทำให้เกิดการสูญเสียน้ำหนักและหัวใจเต้นเร็ว

ยารักษาโรค

เหงื่อออกอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากยาแก้ซึมเศร้า เพราะพวกมันเพิ่มระดับของฮอร์โมนความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เหงื่อออกมากเกินไป ยาในการควบคุมความดันโลหิต ยาสำหรับโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่ที่ประกอบด้วยซูโดเอฟีดรีน ยาเม็ดธาตุเหล็ก และยาปฏิชีวนะ สามารถเป็นสาเหตุของอาการนี้ได้ทั้งสิ้น

ปัญหาฮอร์โมน

ผู้ชายที่มีเหงื่อออกตอนกลางคืนมีแนวโน้มที่จะมีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ เมื่อระดับของฮอร์โมนเพศชายลดลง ศูนย์กลางหรือไฮโปทาลามัสจะควบคุมการทำงานมากมาย ประกอบไปด้วย อุณหภูมิของร่างกาย และการรับส่งสัญญาณที่ผิดพลาดเนื่องจากร่างกายร้อนเกินไป และรวมถึงเหงื่อ ซึ่งเป็นวิธีการระบายความร้อนของร่างกาย

คุณยุ่งเกินไปและลืมกินอาหาร

เหงื่อออกเป็นสัญญาณของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ น้ำตาลในเลือดลดลง เมื่อคุณไม่ทานอาหาร คุณจะขาดน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นตัวปล่อยอะดีนารีน เพราะร่างกายจะเข้าสู่โหมดการอยู่รอดและเริ่มเหงื่อออก

หัวใจวาย

เหงื่อออกและเวียนศีรษะอาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการหัวใจวาย ในขั้นต้นคุณอาจจะรู้สึกเจ็บหน้าอก หรือมีอาการที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากการออกกำลังกายหนัก อาการประกอบอื่นๆเช่น หอบ เจ็บหน้าอกรุนแรงซึ่งแพร่กระจายไปยังขากรรไกร แขนและด้านหลัง การขับเหงื่อจากอาการประเภทนี้เกิดจากการลดลงของความคมชัดในการเต้นของชีพจร และความดันโลหิต เหงื่อออกอาจเกิดจากการเกิดขึ้นของโรคหลอดเลือดสมองส่วนหน้า หรือไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน

ภาวะหลั่งเหงื่อมาก

คนส่วนใหญ่ผลิตเหงื่อหนึ่งลิตรต่อวัน อาจมากขึ้นก็ต่อเมื่ออาการร้อนหรือระหว่างการออกกำลังกาย หากคุณเหงื่อออกเมื่ออุณหภูมิต่ำ บางทีคุณอาจจะต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะหลั่งเหงื่อมาก คนที่มีปัญหากับการผลิตเหงื่อมากเกิน อาจมีเหงื่อออกได้มากกว่าปกติถึงสิบครั้ง

อ้างอิง...naturalhealthcareforyou.com