ทะเลาะอย่างไรไม่ให้แตกร้าว

การขัดแย้งกันในเรื่องความคิด

ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้เสมอ

ยิ่งเมื่อชายหญิงต้องมาใช้ชีวิตคู่ใกล้ชิดสนิทกัน

แต่ในบรรดาปัญหาซึ่งนำความขัดแย้งมานั้น

ประกอบด้วยเรื่องราวเล็กและใหญ่ผสมผสานกัน ที่สำคัญมัก

จบลงได้หากต่างฝ่ายต่างเคารพและรับฟังในความคิดของฝ่ายตรงข้าม

โดยไม่นำเอาอารมณ์เข้ามาผสมเป็นส่วนตัดสิน อารมณ์ที่ว่าข้างต้นคือ

อารมณ์อยากเอาชนะแบบไม่มีเหตุผล

ทำเอาฝ่ายตรงข้ามต้องตอบโต้กลับด้วยความรุนแรงเท่าๆ กัน

กระทั่งไม่สามารถหาจุดบรรจบอันเหมาะสมและลงตัวได้ ถ้าคุณและคนข้างๆ กำลังประสบปัญหาดังกล่าวอยู่ MAXIM มีหนทางประนีประนอมแบบไม่ใจเย็นเกินไป แถมไม่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหน้ามาฝาก

- คัดแยกปัญหาออกจากกัน

ถ้าคุณไม่รู้จักแยกแยะความสำคัญของปัญหา ทุกๆ

เรื่องที่ผ่านเข้ามาก็จะกลายประเด็นให้ถกเถียงกันอย่างหน้าดำคร่ำเคร่ง

คิดง่ายๆ จากพื้นฐานใจเขาใจเราเป็นหลักในการพิจารณา

ก่อนจะถอยออกไปจากจุดปัญหาสักสองสามก้าว

แล้วย้อนมองกลับเข้ามาใหม่ซ้ำอีกครั้ง

เพื่อเพิ่มมุมมองกับปัญหาให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อความเข้าใจและแก้ไข

สิ่งที่ควรระมัดระวังคือ

ปัญหาหลายอย่างอาจจะไม่ได้อยู่ในสายตาของผู้ชายอย่างคุณเลยสักนิด

แต่กลับมีความสำคัญมากกับฝ่ายตรงข้าม

ถึงขนาดมีผลกระทบถึงความรู้สึกภายในอันอ่อนไหวแบบผู้หญิง แน่นอนว่า

คุณอาจจะไม่เข้าในตอนนั้น

ส่งผลให้การเปิดใจรับฟังเพื่อขยายประสบการณ์ชีวิตคู่ใหม่เป็นสิ่งสำคัญและจำ

เป็นมาก

ผลร้ายของการไม่กรองปัญหา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต่างคิด

ว่าเป็นปัญหาเล็กๆ จะลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตคู่

เพราะการคัดกรองปัญหาจะทำให้คุณและหวานใจ

รู้จักจบปัญหาได้อย่างรวดเร็วและไม่ยืดเยื้อ

รวมทั้งไม่มีอุปสรรคในทางเดินรักสั่งสมหรือคั่งค้าง

จนกลายเป็นดินพอกหางหมูที่เพิ่มมากขึ้นจนยากจะขจัดหรือคลี่คลายได้

- อ่านใจ อ่านอารมณ์ให้ออก

คบหาดูใจกันมานาน แต่มันอาจจะเป็นภาพชีวิตคู่ด้านหวานๆ

โดยไม่มีส่วนผสมของปัญหาเข้ามาเป็นปัจจัยให้เกิดความแปรผัน

เพราะปัญหานี่แหละคือชนวนระเบิดกำแพงคั่นกลางระหว่างคุณและหวานใจ

มันจะผลักดันให้เกิดการหันหน้าเข้าหากันเพื่อจัดการกับอุปสรรคตรงหน้าให้

สำเร็จ ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของหญิงชายทั้งสองฝ่าย

แต่ก่อนจะไปถึงความสำเร็จนั้นได้

ต้องผ่านการเปิดใจใช้เหตุผลคุยกันอย่างตรงไปตรงมา

และที่สำคัญคือต้องพูดออกไปอย่างถูกจังหวะ

ด้วยการรู้จักอ่านใจและอ่านอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามให้ขาด ไม่เช่นนั้น

เหตุผลของคุณจะกลายเป็นหมัน ไม่ต่างจากการยิงกระสุนหลุดเป้า

นอกจากทำให้เสียเวลาแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มอารมณ์โกรธขึ้นอีก

ถ้าอ่านใจ อ่านอารมณ์ไม่ออก เหมือน ยิ่งพูดอะไรออกไป

ยิ่งจะไปทำให้เกิดความร้าวฉานมากกว่าเดิม

ก็อย่าเพิ่งล่าถอยออกมาจากสถานการณ์

แต่จงยืนหยัดด้วยความมีสติและหนักแน่นในการใช้เหตุผลพูดจา

เพราะคราวนี้ปัจจัยความผันผวนไม่ได้อยู่ที่ตัวคุณแล้วล่ะ

แต่กลับตกไปอยู่กับฝ่ายตรงข้ามที่อารมณ์ไม่นิ่ง และต้องใช้เวลาเพื่อทำใจ

- เหตุผลสำคัญ แต่ไม่ทั้งหมด

ทฤษฏี หรือจะเท่ากับการปฏิบัติ

เพราะเป็นสิ่งที่คุณต้องนำความรู้หรือข้อมูลทั้งหมด

มาประมวลใช้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์จริง

แน่นอนว่าถึงตรงนี้จะเกิดความกดดันขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

บางคนถึงกับปากสั่นมือสั่นพูดเหตุผลที่จะนำมาลบล้างไม่ได้

เลยกลายเป็นความล้มเหลวอย่างไม่ควรจะเกิดขึ้นและฝังใจอย่างอัตโนมัติ

คุณ จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคดังกล่าวออกมาให้ได้

เพราะยังมีสิ่งกีดขวางที่ยากกว่ารออยู่ข้างหน้า

เมื่อเหตุผลไม่สามารถคลี่คลายปัญหาระหว่างกันได้

ยิ่งถ้าเป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องทัศนคติหรือพูดง่ายๆ คือ

ความชอบหรือไม่ชอบส่วนบุคคล ที่แม้ต่างฝ่ายต่างคบกันมาในระดับหนึ่ง

แต่กลับไม่สามารถตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวได้ทั้งหมด

แก้ปัญหาด้วยการแบไต๋ หรือต่างฝ่ายต่างต้องเปิดใจยอมรับความจริง

จากพื้นฐานความเข้าใจในการคบหาดั้งเดิม

เพราะปัญหาของทัศนคติหรือความชอบนั้นอยู่เหนือเหตุผล

และถ้าได้ลองพิจารณาชั่งน้ำหนักของปัญหาแล้วมันน้อยนิด

คุณและหวานใจก็น่าจะคงจุดร่วมในชีวิตคู่เอาไว้ได้

ขณะเดียวกันก็สงวนจุดต่างให้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล