ฉันกำลังจะเสียคนที่ดีที่สุดในชีวิตไป เพราะความงี่เง่าและชอบประชดประชันของตัวเอง

อ่าน 1,538

เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2558 เราได้มีโอกาสไปฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่งเป็นเวลา 4 เดือน ด้วยความที่เราเป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ดีมาก เราก็จะรู้จักคนในบริษัทค่อนข้างเยอะ เวลาเจอใครเราก็จะทักทายทุกคน ด้วยตำแหน่งงานที่เราไปทำ เราจะไม่ค่อยได้อยู่ที่บริษัทสักเท่าไหร่วันแรกที่เราได้เข้าไปฝึกงาน หน่วยงานของเราไม่มีที่ให้เรานั่งทำงาน พี่เค้าเลยไปขอพี่อีกแผนกนึง บอกว่าขอให้เรานั่งทำงานตรงนี้ โอเคเราก็นั่งทำงานเงียบๆ สักพักมีพี่คนนึงยื่นชอคโกแลตมาให้ (ขอเรียกว่าพี่ดีนะคะ) เราก็คิดในใจ พี่ดีมีน้ำใจจัง ทั้งๆที่ยังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ จนเวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือน...

มีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องทำงานที่บริษัททุกวันเพราะเป็นโปรเจคพิเศษ มีอยู่วันนึงเราเดินผ่านโต๊ะพี่ดีแล้วก็ถามว่า "วันนี้ไม่มีขนมให้น้องกินหรอ" พี่ดีก็หยิบลูกอมคูก้ารสนมเปรี้ยวมาให้เรา เราก็บอกว่า พูดเล่นให้จริงหรอ เราก็ไปเอาของพี่ดีมาหมดเลย อิอิ ด้วยความที่เราเริ่มอยากรู้จักกับพี่ดี เราเลยสืบหาข้อมูลของพี่ดี ชื่อจริง นามสกุล วันเกิด จนเราไปเจอ facebook ของพี่ดี เรากดเพิ่มเพื่อนไป แล้วก็ได้แต่รอๆ จนกระทั่งพี่เค้ารับแอด ตอนนั้นเราตื่นเต้นมาก อยากคุยด้วยแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็เลยไปโพสในเฟสพี่ดีว่า "ฮัลโลเทสสส. 555" พี่ดีก็เม้นกลับมา และก็จบแค่นั้นไม่ได้คุยอะไรกันต่อ

จนมาวันนึงเราก็ตัดสินใจทักไปถามพี่เค้าว่า "หายไปไหนไม่เห็นอยู่ที่โต๊ะเลย" และตอนนั้นเราก็เดินตลาดนัดตอนกลางวันอยู่เลยถามพี่เค้าว่า "อยากกินขนมมั๊ย" นี่ก็คงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราคิดว่าเรากำลังจีบพี่ดีอยู่ และแล้วเราก็ซื้อทอฟฟี่เค้กไปให้นาง กรี๊ดดด เราบอกนางว่าอยู่ในตู้เย็นนะ แต่แล้วสิ่งที่นางตอบกลับมาคือ "เอาเลยๆ 555" แปลว่าไรคะ? แง เสียใจสุดๆ แต่แล้วพี่เค้าก็ซื้อป๊อกกี้มา 2 กล่อง แล้วบอกว่าเอาไปแบ่งกันกินนะ (หมายถึงเรากับพี่ในแผนกเรา) ซึ่งพี่ในแผนกเราไม่ได้ยิน เราก็โอ้ยยย สรุปพี่จะให้ใครคะ เราก็เลยบอกว่า ถ้าไม่มีใครกินงั้นเสร็จหนูนะ นั่นไง! ห่วงแต่เรื่องของกิน 555

เราสองคนก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น คุยโน่นนี่นั่นในแชทเฟส เราก็ถามเค้าไปตรงๆนะ ว่าพี่มีแฟนยัง? เค้าก็บอกไม่เคยมี แล้วรออะไรละคะ เดินหน้าจีบต่อไปสิคะ ก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนมาวันนึง พี่เค้าชวนเราไปดูหนัง เราก็โอเค ไปก็ไป พอถึงวันนั้นเราก็ดูหนังกัน กินข้าวด้วยกัน ความรู้สึกตอนนั้นบอกเลย ผู้ชายคนนี้อบอุ่นมากๆ หลังจากวันนั้นเราก็พัฒนาความสัมพันธ์มาเรื่อยๆ จนเราทำทุกอย่างเหมือนเป็นแฟนกัน เวลาใครถามเราสองคนเราก็จะตอบกันไปว่าเป็นแฟนกัน แต่ยังไม่มีใครได้ขอใครเป็นแฟนหรอก พี่ดีบอกเราว่ายังไม่ได้ฤกษ์ ไว้ค่อยขอนะ รอก่อน

สำหรับเรา พี่ดีเป็นคนจริงใจ นิสัยดี รักครอบครัวมากๆ เป็นคนที่มีแต่ให้ ให้มากจริงๆ ไม่เคยขออะไรจากเราเลย ตามใจเรา ให้เกียรติเราเสมอ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ มีหน้าที่การงานดี ขี้อ้อนสุดๆ ความโรแมนติกไม่มีเลย 555 ถึงแม้จะใจร้อนก็เหอะ นางก็ยังเป็นคนที่น่ารักสุดๆ เวลาอยู่ด้วยแล้วมีความสุขที่สุด ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากๆ ที่ได้มาเจอกับผู้ชายคนนี้

เวลาผ่านมาเนิ่นนานเราได้ทำอะไรด้วยกันเยอะมากๆ เจอหน้ากันเกือบทุกวัน กินข้าวเย็นด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ชีวิตตอนนั้นเรามีความสุขมากๆ พี่ดีเป็นคนตรงๆ ชอบก็บอกชอบไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ พี่ดีดูแลเราดีทุกอย่างจริงๆ ทั้งเป็นห่วง คอยเอาใจใส่อยู่ตลอด ยอมรับเลยว่าเราเป็นคู่รักที่หวานมากๆค่ะ แต่คนอยู่ด้วยกันมันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้างแหละเนอะ แต่เราก็ผ่านมาได้ด้วยดีค่ะ เรารักพี่ดีมากๆ เราไม่รู้ว่าในชีวิตเราจะได้เจอคนที่ดีแบบนี้อีกไหม เราบอกกับตัวเองว่า เราจะไม่มีทางปล่อยมือผู้ชายคนนี้เด็ดขาด แต่แล้วก็ถึงเวลาที่เราจะต้องไปจากบริษัทนี้ เพราะฝึกงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้เจอกันน้อยลงค่ะ

ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่เราก็ยังคุยกันทุกวัน เจอกันบ้างอาทิตย์ละครั้ง 2 อาทิตย์ครั้ง แล้วแต่ ยิ่งเราอยู่ไกลกันเราก็เริ่มระแวง+จู้จี้ค่ะ ก็จะคอยถามอยู่ไหนทำอะไร และด้วยความที่เราเป็นคนขี้หึงมากๆ อารมณ์นี่ร้อนสุดๆค่ะ ในหลายๆครั้งเราก็จะเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เวลาพี่ดีพูดอะไรเราก็จะไม่เชื่อฟัง เราดื้อมากๆ เราทะเลาะกันแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงจุดนึง เราคิดว่าทุกครั้งที่ทะเลาะกันเราผิดเต็มๆ เราไม่เชื่อใจเค้า เราไม่เข้าใจเค้า เราไม่ฟังเค้า เราเถียงเค้าตลอด และที่สำคัญเลยคือเราชอบพูดประชด-ดันเค้า จนเค้าระเบิดออกมาทีเดียวเลยค่ะ

เค้าบอกกับเราว่าเค้าเคยรักเรามาก แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เค้าบอกอีกว่าเค้ามี 2 ทางเลือกให้เรา คือ 1.ขอเวลาให้เค้าได้อยู่คนเดียว 1 อาทิตย์แล้วมาคุยกัน เค้าอยากรู้ว่า เค้ายังรักเราอยู่รึป่าวถ้าไม่ก็คือจบ 2.จบตั้งแต่ตอนนี้เลย ความรู้สึกในตอนนี้มันพังไปหมด เราจะปล่อยไว้แบบนี้ได้ยังไงเราเลยตัดสินใจไปง้อค่ะ เรานั่งรถจากบ้านไปหาเค้าใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง (อยู่แค่ในกรุงเทพเท่านั้น) เรานั่งรถเมล์ไป รถติดมากค่ะ เพราะอาจจะเป็นช่วงเวลาเลิกงานด้วย พอเราลงรถเมล์คันแรก เรารอรถเมล์สายต่อไปนานมาก เราเลยตัดสินใจ เดินไป 3 ป้ายรถเมล์เพราะจะได้มีทางเลือกมากขึ้น พอเราเกือบจะเดินถึงป้ายที่ 3 ปรากฏว่า...

รถเมล์มาพอดีค่ะ เราวิ่งสุดพลังเพื่อไปขึ้นรถให้ทัน เหนื่อยแค่ไหนไม่หวั่น เมนส์มาวันแรกด้วย ปวดท้องแค่ไหนคุณผู้หญิงคงรู้ดี ทรมานก็ทรมาน แต่เพื่อคนที่เรารักยอมค่ะ และแล้วก็วิ่งไปถึงป้ายสักที แต่ ไม่ทันค่ะ! ตอนนั้นน้ำตาเราไหลออกมาแบบไม่แคร์สายตาใครเลย เราทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่นั่งรอคันใหม่ รอไปสักพัก อีกคันก็มาค่ะ เราก็รีบขึ้นรถไป จนไปถึงตลาดแห่งหนึ่ง เราแวะซื้อพวงมาลัยมา 1 พวง เพื่อที่จะไปขอโทษพี่ดีค่ะ เราเดินต่อไปถึงคอนโดพี่ดี เราเดินไปดูว่ารถมอเตอร์ไซค์เค้าอยู่มั๊ย สรุปว่าไม่อยู่ค่ะ สงสัยยังทำงานอยู่ที่บริษัทแน่ๆ เราก็เลยตัดสินใจรอๆๆๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววที่จะกลับมาค่ะ

เราเลยตัดสินใจไปดูที่บริษัทว่าเค้าจะอยู่มั๊ย เราก็นั่งวินไปเพราะกลัวไม่ทัน กลัวว่าจะสวนทางกันด้วย พอเราถึงที่บริษัท สรุปเราเจอรถเค้าค่ะ ใจเราเต้นแรงมาก เรารีบไปหาพี่ดีที่โต๊ะทำงาน พอมาถึงเราเห็นหน้าเค้าเราดีใจมากเลยค่ะ ดีใจที่เค้าอยู่ตรงนี้ เพราะเราโทรหาเค้าทั้งหมด 45 สาย เค้าไม่รับเลยค่ะ ไลน์ไปหาก็ไม่อ่านเลย เราเดินไปหาเค้าเราบอกว่าเค้าว่าเราขอโทษ เรารู้ตัวว่าเราผิด ขอให้เค้าออกมาคุยกับเราแปปนึงค่ะ แต่เค้าก็ไล่เรากลับบ้าน เพราะตอนนั้นก็มืดแล้ว เค้าใจแข็งมากค่ะ เค้าไม่สนใจเราเลย เราอยู่ข้างๆตรงนั้น เหมือนเราไม่มีตัวตนใดๆเลยค่ะ เราชาไปทั้งตัว แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ จะยอมได้ไงละคะ

จนถึงจุดที่เราคิดว่าเค้าคงรำคาญ เค้าเลยเก็บของแล้วออกมาคุยกับเราค่ะ แต่คุยได้ไม่กี่คำหรอกค่ะ เค้าก็บอกว่าเค้าต้องกลับแล้ว จำทางเลือกที่เค้าเคยบอกได้มั๊ย รอ 1 อาทิตย์ หรือจะเลิกตอนนี้เลย เราได้แต่ร้องไห้ละก็ขอโทษเค้าในสิ่งที่เราได้ทำพลาดไป เค้าบอกเราว่าเราไปหาเค้าวันนี้ไม่มีประโยชน์หรอก กลับบ้านไปเถอะ เรากอดเค้า เราพูดทุกอย่างในสิ่งที่เรารู้สึก โดยไม่รู้ว่าเค้าจะฟังหรือไม่ก็ตาม แต่แล้วเค้าก็บอกให้เรากลับบ้านค่ะ เราก็โอเคกลับก็ได้ นี่คือแปลว่าเรายอมรับเงื่อนไขที่ 1 เราเสียใจมากค่ะ แต่ทำอะไรไม่ได้แล้ว เราเลยกลับบ้าน

เราไม่รู้ว่าเราควรจะทำยังไงต่อไป? เราแค่อยากคุยกับเค้าดีๆ อยากคุยกันด้วยเหตุผล แต่เหมือนเค้ายังไม่พร้อมจะคุยกับเราในตอนนี้ค่ะ เรารักเค้ามากๆ มากจนไม่รู้ว่ามันมากเกินไปรึป่าว



บทความแนะนำ


ข่าวบันเทิงวันนี้รวรีย์น้องเธอเทคโนโลยีความเครียดโรคภูมิแพ้ต่อมลูกหมากน้องรีน่าGoogle+PhotosGoogleทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก