ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ในเมื่อความดีเอาชนะความรักไม่ได้ . . . .

อ่าน 5,575

สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Pantip ทุกท่าน โดยปกติแล้วผมสิงตัวเองอยู่ใน บลูแพลนเน็ต วันนี้ขอย้ายหมวดสักวันละกัน >//<

ผมไม่เคยเชื่อเลยนะครับว่าความดีทำไมเอาชนะความรักไม่ได้ จนกระทั้งวันนี้ความคิดผมก็เปลียนไป . . . . .

ก่อนหน้านี้ผมคบกับผู้หญิงคนนึงมาเป็นเวลา 6 ปีเศษ (แหมมยังไม่ทันจะเข้า อาถรรพ์เลข 7 เลย) ตลอดเวลาที่เราคบกันมันดีมาก ผมคิดว่าคู่ของผมก็คงจะเหมือนคนอื่นๆทั่วไป มีสุขมีทุกข์ปะปนกันไปมันคงไม่มีคู่ไหนที่จะราบรื่นไปซะทุกอย่าง แต่ไม่ว่าจะพบเจออะไรก็ตามที ผมก็ไม่เคยที่จะละเลยในการดูแลเอาใจใส่ ผมไม่รู้นะครับว่าคู่อื่นๆเค้าดูแลกันอย่างไร แต่ในสิ่งที่ผมทำให้ผมคิดว่าผมทำดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้แล้ว อย่างเช่น เรื่องง่ายๆ ก็การไปรับไปส่งทุกวันไม่ขาดไม่ว่าผมจะมีงานเยอะหรือป่วยผมก็ไป ผมทำไปโดยไม่เคยคิดว่ามันเป็นหน้าทีแต่สิ่งที่ทำไปเพราะเกิดจากความเป็นห่วงไม่อยากให้เหนื่อย กลับถึงบ้านดึก เพราะที่ทำงานกับบ้านของเขาอยู่ไกลกันพอสมควร บ้านอยู่ฝั่งธนทำงานอยู่แถวอโศก หรือถ้ามีสิ่งไหนที่ผมทำแล้วรู้สึกว่าเขาไม่ชอบผมก็จะเลิกทำทันทีโดยไม่เคยมีข้อแม้ เว้นแต่ว่ามันเป็นนิสัยของผมจริงๆจะค่อยๆปรับ เคยมีอยู่วันหนึ่งครับ ผมติดดูบอลมันเป็นวันที่บอลไทยแข่งซึ่งวันนั้นผมก็บอกเขาแล้วว่าวันนี้ออกเร็วหน่อยนะอยากกลับไปดูบอลให้ทัน พอผมไปถึงที่ทำงานของเขาโดยปกติผมจะโทรไปบอกว่า "เออถึงแล้วนะรอตรงนี้นะ ตรงนั้นนะ" ซึ่งผมก็โทรไปบอกตามปกติ แต่ที่มันไม่ปกติก็คือผมโทรไปหาเขาอีกหลังจากผ่านไปเกือบ ชั่วโมง เพื่อที่เร่งให้เขาลงมาเพระาบอลจะเตะแล้ว หลังจากโทรไปหาสิ่งที่ผมรับรู้ได้ก็คือ รู้สึกได้ว่าเขาไม่พอใจกับการที่โทรไปเร่ง ซึ่งโดยปกติผมก็ไม่เคยโทรไปเร่งเลย นั้งรออยู่ข้างล่างเป็นชั่วโมงๆก็รอไม่เคยโทรไปเร่งเลย แต่วันนั้นเป็นวันที่ผมอยากกลับไปดูบอลจริงๆ ก็เลยขอโทรไปเร่งสักหน่อย >//< พอเรารับรู้ได้ถึงว่าเขาไม่พอใจกับการที่เราโทรไปเร่ง วันหลังจากวันนั้นไม่ว่าผมจะเร่งรีบหรือมีธุระด่วนอะไรขนาดไหนผมก็ไม่เคยโทรไปเป็นครั้งที่สองเลยพอไปถึงก็โทรไปแค่บอกเฉยๆว่า ถึงแล้วนะรอตรงนั้น แค่นั้นตลอด . . . . . .

ผมไม่รู้นะครับว่าสิ่งที่ผมทำคู่อื่นๆเขาทำกันแบบนี้ไหม เขาดูแลกันอย่างไร แต่สิ่งที่ผมทำให้เขาทั้งหมดผมคิดว่าผมดูแลเขาดีเท่าที่ผมจะทำได้แล้ว รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเราก็เก็บ เคยมีรุ่นพี่ผมอยู่คนหนึ่งเคยถามผมว่า "มึงไม่เหนื่อยบ้างหรอไงทำให้ทุกอย่างขนาดนี้ กูยังไม่ดูแลแฟนกูขนาดนี้เลย" ผมก็ตอบไปว่า "เหนื่อยกายอ่ะใช่ แต่ไม่เคยเหนื่อยใจเลย ก็ Happy ดีนะ"

จนกระทั้งวันนึง วันที่ผมคิดว่าผมพร้อมแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการผ่านอนุมัติของยายของเขา ผมเคยโดนยายของเขาไล่แบบไม่ต้อนรับเลยล่ะ แต่ผมก็พิสูจน์ตัวเองจนตอนนี้ เมื่อใดเจอยายก็จะถามผมอยู่เสมอว่าเป็นอย่างไร กินข้าวยัง ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี หรือไม่ว่าจะเป็นในด้านหน้าทีการงานของผมเองก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเรียกว่าเป็นหน้าเป็นตาได้เลยล่ะ ผมจึงถือโอกาสไปคุยกับเขาถึงเรื่อง "อนาคต" สิ่งที่ผมอยากจะรู้เขาคิดอย่างไร อยากแต่งเมื่อไร ผมจะได้เตรียมตัวเก็บตัง จะได้เลิกเที่ยว (เที่ยวของผมนี้เที่ยวต่างจังหวัดนะครับ ปกติไปเที่ยวทีก็หมดเงินไปเยอะอะหลายหมื่น จริงๆถ้าไม่เลิกกันก่อนมีแพลนไว้ว่าจะไปเที่ยวภูเก็ตพักโรงแรมดังของภูเก็ตด้วยแต่ดันเกิดปัญหากันซะก่อน) เพื่อที่จะเตรียมตัวแต่งงาน แต่สิ่งที่ผมได้คำตอบมาคือเค้าไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ หลังจากที่คุยเรื่องนี้ เขาก็ดูไม่ปกติ ไม่คุยเล่น เหมือนเดิม หลังจากนั้น สามสี่วัน เขาก็บอกเลิก . . . . .

ผมทำอะไรไม่ถูกเลยนะตอนนั้น มันงงไปหมด มันสตั้น มันแบบว่าเฮ้ยจริงดิ เฮ้ยฝันเปล่าวะ ผมกลับห้องมาตั้งหลักสองสามวัน แล้วหลังจากนั้นผมก็ไปหาเขา เพื่อจะปรับความเข้าใจ แวะซื้อผลไม้รถเข็นติดมือไปถุงนึงด้วย (บอกทำไม) เขาบอกผมอยู่ประโยคหนึ่ง เป็นประโยคที่ทำให้ผมต้องหยุดทุกอย่าง เป็นประโยคที่ผมคิดได้เลยว่า กูทำอะไรไม่ได้อีกแล้วสินะ เขาบอกกับผมว่า "ถ้า(ชื่อผม)รักฉันจริงก็อย่าทำแบบนี้อีกเลย" นี้คือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากเขา หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ยินเสียงเขาอีกเลย ผมไม่รู้ว่าจะง้อเขาโดยวิธีใดได้อีก มันทำให้ผมคิดว่าต้องหยุดทุกอย่างจริงๆ

หลังจากนั้นพอเพื่อนทราบข่าวว่าเกิดอะไรขึ้น(ก็หลายเดือนอยู่กว่าเพื่อนจะทราบข่าว) เพื่อนของผมไปถามเขาว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้ เขาตอบเพื่อนผมมาว่า . . . . .

"กูรักมันนะแต่กูไม่ได้รักถึงขั้นแต่งงานด้วยได้"

มันทำให้ผมเปลียนความคิดเลยว่า เมื่อก่อนผมเคยเชื่อว่า ความดียังไงก็ชนะความรักได้ เราทำดีกับเขาซะอย่างทำไมเขาจะไม่รักเรา แต่มาวันนี้ผมเชื่อแล้วครับว่า ความดีอย่างเดียวมันไม่พอจริงๆที่ทำให้ใครสักคนรักเราได้ มันต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ไม่ใช่แค่ความดี . . . .

ทุกวันนี้มันทำให้กลัว กลัวที่จะรักใครสักคน มันทำให้ผมรู้สึกว่าต้องปิดกั้นตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีกำแพงหนาแน่นมากเกี่ยวกับความรัก

ที่ผมมาเล่าเรื่องนี้เพียงแค่อยากจะบอกว่า ถ้าวันใดคุณคิดว่าแฟนของคุณไม่ใช่เมื่อใดอย่าปล่อยให้มันนาน เชื่อเถอะครับว่า มันโหดร้ายกว่าเพื่อนรักเพื่อนร้ายเยอะหนัก >,<

ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับและหวังว่าประสบการณ์ที่ผมพบเจอจะช่วยให้เพื่อนๆได้บ้างไม่ว่าสิ่งใดก็สิ่งหนึ่ง

ขอบคุณครับ#หัวกลม



บทความแนะนำ


การศึกษาที่กินอัยการสุราษฎร์ธานีร้านอาหารเรื่องลาว(ReungLao)ข่าวล่าสุดฆ่าอัยการทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก