ประสบการณ์การมีเเฟนอ้วน

อ่าน 11,660

สวัสดีคะวันนี้ได้มีโอกาสได้เห็นประเด็นเรื่องการเลือกคนที่หน้าตาจากเฟสบุ๊คคะ เลยอยากจะมาเเชร์ประสบการณ์การณ์ค่ะ ไม่มีเจตนาจะทำร้ายใครนะคะ

แต่ขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่าได้พิสูจน์มาเเล้วว่าการมีแฟนอ้วนโดยที่เราเลือกจะรักเค้าที่นิสัย ไม่ได้มองหน้าตาไม่ได้หมายความว่าเค้าจะนิสัยดีเสมอไป

ขอเล่าคร่าวๆนะคะ

ช่วงนั้นกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมปลายคะ ช่วงนั้นยังอ้วนเเละกินเก่งมากคะ น้ำหนักสมัยนั้นเกือบ 60 กิโล โรงเรียนเป็นหญิงล้วน เเต่จะมีผู้ชายเฉพราะ มอปลายเท่านั้น เลยจะมีผู้ชายน้อย เพื่อนที่จบมาจากมอสามเเล้วต่อที่เดิมก็มีน้อยเเต่เพื่อนสนิทไปต่อพาณิชย์เลยเลือกจะอยู่โรงเรียนเดิม เเล้วต่อเข้าได้เพราะโควต้าด้วย ช่วงเเรกไม่มีเพื่อนคะเลยชอบเดินไปหาเพื่อนที่มาต่อด้วยกันเเต่คนละห้อง ไปบ่อยๆ เลยเจอผู้ชายคนนึงชอบเล่นกีต้าร์หลังห้องเวลาเราไปหาเพื่อนตอนเช้าเพื่อชวนเพื่อนไปทานเข้าเช้า จนวันหนึ่งเค้าทักเฟสบุ๊คเรามาเเล้วเราก็คุยกัน เขาก็ถามเราประมาณว่าจำเราได้ไหม (ขอสมมุติชื่อเพื่อนคนที่เราไปหาว่า เอ นะคะ) ที่เธอชอบมาหาเอไง เราก็เลยบอกอ่อ จำได้ เเต่เราไม่รู้จักชื่อก็เลยถาม เเล้วก็คุยกันมาจนได้คบกับกันตั้งเเต่มอสี่เลยคะ เค้าเป็นคนอ้วนคะ ไม่สูง ไม่หล่อ มีกลิ่นตัว เเละสกปรกค่ะเเต่เลือกที่จะคบกับเค้าเพราะเราชอบคนอวบๆอ้วนๆคะน่ารักดี (ขอสมมุติชื่อว่า บี) เเต่เค้าก็ดูเเลเราดีนะคะในช่วงเเรกๆ วันไหนเรากลับดึกเค้าจะรอเเล้วไปส่งเเค่หน้าปากซอยเพราะทางบ้านเรายังไม่ได้รับรู้อะไรเรื่องที่คบกัน หลังจากนั้นก็ปิดเทอม เราก็เริ่มมีปากเสียงทะเลาะกันมากขึ้นเเต่เราก็คบกันจนถึง 1 ปี จนเราเริ่มมีเพื่อนสนิท เเต่เราก็ไปเที่ยวกันบ้างตามโอกาสและเค้ามีน้องสาวน่ารักมากเราก็รักน้องเค้านะคะดูแล เลี้ยงเหมือนน้องตัวเองค่ะ เเต่เเล้วเค้าก็เปลี่ยนไป เริ่มต้นจากวาเลนไทน์ ปกติเราเป็นคนไม่ชอบจุกจิกเลยคิดว่าไม่น่าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวเเต่เราก็มีรหัสนะคะ เพื่อนบอกว่าไม่ลองดูหน่อยเหรอ เราเลยลองเข้าไปเช็คที่คอมของห้องสมุด ปรากฏว่าเราเห็นเค้าคุยกับรุ่นน้องอีกคนหนึ่งอยู่

บี : เเย่จังนะครับวันวาเลนไทน์ปีนี้พี่ไม่ได้ให้อะไรเราเลย พี่กะว่าจะเอาดอกไม้ไปให้เเต่พี่ติดต้องไปส่งแฟนน้อง : ค่ะ เราไม่ได้เจอกันเลยนะคะพี่บีบี : ครับผมไว้เจอกันนะครับ(เราจำได้คร่าวๆนะคะ นานมากเเล้ว)

เราก็เลยไปถามบีว่าเกิดอะไรทำไมถึงคุยกับน้องเค้า บีบอกเเค่ว่าไม่มีอะไรเเต่เราก็รู้เเล้วละค่ะว่าเค้าคงคิดอะไรกับน้องคนนั้น เเล้วเราก็กลับบ้านนั่งรถกลับด้วยกัน บีก็พูดมาว่า "อยากมีเเฟนผอมๆหุ่นดีๆไม่อ้วนเหมือนเรา" เราก็เลยได้เเต่เงียบ หลังจากวันนั้นเค้าก็ไม่เหมือนเดิม เวลาเราทะเลาะกันเราจะโดนบีบ โดนบังคับ โดนตี จากเค้าจนเราร้องไห้เพราะมันเเดงไปทั้งตัว จนเราเลิกกันไปช่วงหนึ่งเเล้วได้กลับมาคบกันอีกค่ะ ช่วงนั้นปิดเทอมจะขึ้นมอหกเเล้ว ได้มีโอกาสทำงานด้วยกันเป็นงานพาสทาม เเต่เเล้วเราก็ทะเลาะกันเเละเค้าก็เริ่มทำร้ายร่างกายเราด้วยการหยิกเเล้วบีบเเขนของเราจนเราเเดงทั้งตัว ตอนนั้นเลิกงานสี่ทุ่ม กำลังยืนรอรถไปทะเลาะกันไปป้ายรถเเทบไม่มีใครเลยค่ะ (ครอบครัวเราเค้าอนุญาติให้กลับดึกเพราะทำงานได้ค่ะ) จนเราร้องไห้ทนไม่ไหวต่อยหน้ากลับไปเเล้วผลักบีไปชนกำเเพงวิ่งหนีขึ้นเเท็กซี่ไปเลยค่ะ

พอเช้าเราออกมาทำงานทราบข่าวว่าเค้าเเขนหักค่ะเข้ารพ.เมื่อคืน เราเลยส่งข้อความไปขอเลิกกับเค้า เเละนึกถึงคำของเค้าว่า อยากมีเเฟนผอมๆหุ่นดีๆไม่อ้วน เราเลยเลือกจะลดน้ำหนักค่ะ กินอาหารมีประโยชน์ ไม่กินน้ำอัดลม สามสี่เดือน จากนั้นได้หุ่นเเละน้ำหนักกลับคืนมาที่ 44 กิโล เรากับเค้าก็ไม่คุยไม่ยุ่งกันอีกเลย ส่วนเราก็เรื่อยเปื่อยค่ะ โสดสบายๆเหมือนกัน หลายเดือนค่ะน่าจะครึ่งปีได้นะคะ

จากนั้นพอเริ่มขึ้นมอหกเราก็เครียดเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เเต่เราก็ได้ไปเจอพี่ผู้ชายคนหนึ่งในเฟสบุ๊ค เค้าเป็นคนอ้วนค่ะ (สมมุติชื่อว่า เค )เเต่ในรูปเค้าก็ไม่ได้อ้วนมากเท่าไหร่ พอคุยกันไปรู้สึกว่าเค้าน่ารักมากค่ะคือเค้าเหมือนพี่ชายคนหนึ่งของเราเลย เราเลยนัดกันไปทานข้าวค่ะ หลังจากที่เราเจอกันนั้นเราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้คิดอะไรกับเขาจริงๆ เเต่สุดท้ายพี่เค้าก็ขอให้เราลองคบกันค่ะ เราก็ปฏิเสธไปนะคะเเต่สุดท้ายเคก็ขอโอกาสให้เราลองดูค่ะ ไม่นานเราก็รักเคเพราะเคเป็นคนปากหวานมากค่ะ คบกันเเรกๆเเทบจะดีทุกอย่างเลยค่ะ เราก็คบกันปกติตามประสาวัยรุ่นค่ะ

เเต่เรานิสัยใจร้อนนิดหน่อยเลยทะเลาะกันบ่อยๆ จนวันที่เราสอบติดมหาวิทยาลัยมาถึงเค้าก็เเสดงความดีใจกับเรานะคะ เเล้วเราก็หมดห่วงเพราะที่บ้านโอเคเรื่องที่เรียนเราเลยไปขายของที่ตลาดหารายได้ช่วงเย็นขายกิ๊ฟช็อปกับเสื้อมือสองค่ะ ขายของเสร็จเราเกิดมีปากเสียงกัน ช่วงนั้นเราเเลกโทรศัพท์กันใช้ค่ะ สมัยนั้นไอโฟนสามนะคะ เราโนเกียเลยค่ะ เคโมโหอะไรไม่รู้ เค้าปามือถือเราเเบตกระจายออกมาเลยค่ะกลางตลาดทุกคนหันมามองเเล้วเค้าก็วิ่งหนีหายไปปล่อยเราถือของที่เอามาขายคนเดียวเเล้วกลับบ้านเองค่ะ อายมากค่ะ เเต่ตอนนั้นร้องไห้ขึ้นรถกลับบ้านเลยค่ะ ทั้งเสียใจเเละเจ็บใจ มือถือเครื่องนั้นมันสำคัญมากกับเราเพราะครอบครัวซื้อให้ เราร้องไห้จนดึกๆเค้าทักมาขอโทษเราก็ให้อภัยค่ะเพราะเราคิดว่าเราเองคงผิดจิงๆที่ใจร้อนเหมือนกัน

จากนั้นก็มีปากเสียงเรื่อยๆค่ะเราทนไม่ค่อยไหวกับคำหยาบที่เค้าชอบว่า เช่น อีตัวเงินตัวทอง(here) อีannimal ......................ประมาณนี้เสมอ อดทนค่ะ จนครบรอบหนึ่งปี ค่ะ เราเริ่มเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัย เเต่เราไปกลับ เวลาไม่มีให้เค้า ถึงเเม้ว่าเราจะเจอคนที่เรารู้สึกว่าตรงใจเเละชอบที่มหาวิทยาลัยเเต่เราก็ยังรักและเลือกจะอยู่กับเค้าค่ะ คำพูดการทะเลาะเริ่มเเรงขึ้นเรื่อยๆ (เค้าไม่ได้เรียนต่อนะคะ เค้าจบเเค่มอห้ามั้งคะจำไม่ผิด) จนเราทะเลาะกับครอบครัวเเล้วเค้าก็มาต่อว่าครอบครัวเราค่ะ เเรงพอที่จะทำให้จากที่ผู้ใหญ่รังเกลียดเลยละค่ะ ตอนเเรกคิดว่าเค้าน่าจะเเค่เตือนๆเเต่ไม่คิดว่าเคจะพูดเเรงๆ เเต่เราก็โดนที่บ้านว่ามาเยอะค่ะว่าไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนเเบบนี้เลยนะ เเต่เราก็ยังคบกันต่อไปค่ะจนวันหนึ่งต้องส่งเมลให้อาจารย์เพราะช่วงนั้นคอมที่บ้านเสีย เลยขอไปส่งเมลล์ที่บ้านเค เคกำลังนอนหลับเเต่เครู้เเล้วว่าเราจะยืมคอมเลยไม่ได้ลุกมาคุยเราเปิดคอมเข้าไปเจอ เค้าคุยกับใครไม่ทราบในเมลล์ เลยนั้งอ่านค่ะ จับใจความได้เเค่เค้าบอกรัก ผู้หญิงคนนั้นเเละอยากคุยด้วยทุกวันเเอบเปิดกล้องกัน มาสักพักเราตกใจเเต่เราก็ต้องส่งงานให้อาจารย์ก่อนเพราะเรียนสำคัญกว่า จากนั้นเราก็ถามเค้าค่ะว่ามีคนอื่นหรอเค้าก็ยอมรับค่ะ เเละเค้าคุยกันตอนหลังเที่ยงคืนทุกวันเพราะเรานอนหลับประมาณห้าทุ่มค่ะ เจอกันกับเคในเกมส์ เเอบมีโทรคุยกันนะคะเเต่ผู้หญิงคนนั้นเค้าชื่อเหมือนพี่ที่ทำงานด้วยกันเลยทำให้เราไม่รู้ว่า คนที่โทรมานี่เป็นใครคิดว่าเป็นพี่ที่ร้านมาตลอด เเละเเอบมีมาคอมเม้นภาพเราในเฟส ทั้งๆที่ผู้ชายอยู่กับเรานะคะ เราถามเคๆก็บอกว่าคนในเกมส์ เราเจ็บเเละเสียใจมากเเต่เราก็คิดว่าถ้าเราเสียใจเราจะไม่ได้อะไรขึ้นมาตั้งใจเรียนจะได้เจอคนดีๆดีกว่า เเต่ก็ยังคบกันอยู่นะคะเเต่เราค่อยๆตัดใจจากเค้าค่ะ ช่วงนั้นเรากลับมารักตัวเองค่ะดูเเลตัวเอง ไม่ร้องไห้ไม่เสียใจ ตั้งใจเรียนค่ะ เทอมนั้นเกรดงามมากๆค่ะ 55 แต่เราก็ยังคบอยู่นะคะค่อยๆตัดใจจากเค้าช้าๆค่ะ

จนวันที่ครอบครัวเราฝากเค้าขายของเค้าก็บอกรอก่อนนะเดียวคุยกะพี่ที่ร้านให้เเล้วเค้าหายไปเป็นชั่วโมง ป้าเราฝากคนเเถวบ้านขายได้เเล้วเค้าก็เข้าทักมาบอกว่าได้ๆขายได้เอามาให้เคเลย เคจะขายให้ เเล้วเราตอบกลับไปว่าเราให้คนเเถวบ้านขายเเล้วขอบคุณเคมากๆนะ เค้าตอกกลับเรามาว่า " อี olo กูอุส่าคุยกับพี่ให้ เจ้าของร้านให้ มาเปลี่ยนใจเเบบนี้ได้ไงวะ เสียเวลาของกู อี HERE " เราได้เเต่เสียใจค่ะเเละเเล้วเค้าก็ขอเลิกกับเรา นาทีนั้นเหมือนฟ้าเป็นใจมากค่ะเรารอเวลานี้มานานค่ะ รอเพราะเราไม่อยากเป็นคนบอกเลิกเค้าเองค่ะ เราเลยไปจากเค้าเลยค่ะ ยอมรับว่าทำใจได้นานเเล้วนะคะ จากนั้นไม่นานเราก็เริ่มคุยกับรุ่นพี่ที่มหาลัยเเล้วก็ดูใจกันจบคบกันค่ะ (ขอสมมุติชื่อว่า S )พี่เอสเค้าก็อกหักมาเลยเข้าใจกันทั้งคู่ค่ะ

เเต่เคไม่ได้หยุดเท่านั้น เค้าทักเฟสมาพยายามถามเราว่าไปไหน ไม่คิดถึงกันหรอ เเละเราก็ไม่สนใจจะตอบค่ะ สุดท้ายเเล้วเค้าก็โพสด่าเราหน้าเฟสว่าอีKa -Ree อีโส.... ประมาณยี่สิบบรรทัดได้คะเราเห็นเเล้วก็เสียใจนะคะไม่คิดว่าปากเค้าจะร้ายเเบบที่ครอบครัวบอกจริงๆ เเต่เราไม่ตอบกลับค่ะเราเงียบจนในที่สุดมันก็เงียบไปค่ะ เเล้วเราก็กลับมารักตัวเองดูเเลเเละรักษาพี่คนนั้นคนที่เค้ารักเรา จนปัจจุบันค่ะเราเพิ่งรู้ว่าถ้าเรารักตัวเองเป็นเราจะมีความสุขขนาดนี้

สุดท้ายนี้เเค่อยากเเชร์ประสบการณ์นะคะ จากที่เคยคบมาเค้าสองคนก็มีข้อดีค่ะเเต่หักลบความเจ็บเเล้ว ข้อเสียเยอะกว่าค่ะ ทุกวันนี้เราเลือกไม่ติดต่อเค เเต่กับบีเค้ายังเป็นเพื่อนเราคนหนึ่งนะคะ เราคุยกันเเล้วเเยกทางกันอยู่ต่างคนต่างอยู่ คุยเเค่สุขสันต์วันเกิด ส่วนเคทุกวันนี้ก็ยังอ้วนเเละยังโพสหาเเฟนเรื่อยๆค่ะ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การมีแฟนอ้วนโดยที่เราเลือกจะรักเค้าที่นิสัย ไม่ได้มองหน้าตาไม่ได้หมายความว่าเค้าจะนิสัยดีเสมอไป เเต่คนดีๆก็มีนะคะขอบอกอีกรอบนะคะ ไม่มีเจตนาจะทำร้ายใคร

ขอให้เรื่องนี้เป็นคติเตือนใจนะคะ ว่าเราควรรักตัวเองให้มากๆเเละรักคนที่เค้ารักเรา เราจะไม่เหนื่อยเเละเสียใจค่ะ เเละการเลือกคบใครสักคนหนึ่งจริงๆหน้าตามันเเค่องค์ประกอบค่ะสุดท้ายเเล้วนิสัยสำคัญมากที่สุดนะคะ รักกันในข้อดี ยอมรับในข้อเสีย เเต่ถ้าเราไม่ไหวก็ถอยค่ะ อย่าทนเป็นคนไม่รักตัวเอง

เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกมีความสุขหรือทุกข์ได้เพราะทุกอย่างเกิดจากการกระทำของเราค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ



บทความแนะนำ


ผู้หญิงแฟชั่นนักลงทุนเรื่องบนเตียงปลุกเร้าความสวยความงามการแต่งตัวทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก