เช็กด่วน คุณมีพฤติกรรมต่อไปนี้หรือไม่!! นี่คือ 10 อาการของคนที่กำลังติดแฟนจนเริ่มจะเข้าขั้นระแวง!!

คนมีความรัก ใครก็อยากอยู่ใกล้คนรักให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่บางครั้งก็ลืมไปว่าหลายสิ่งที่เราทำไปมันก็มีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่ระหว่างความเอาใจใส่กับความจุกจิก, ความห่วงกับความหึง, ความระวังกับความหวาดระแวงทุกคนมีสิทธิ์รักและถูกรัก แต่เมื่อมีโอกาสได้รัก ก็ควรรักษาระยะห่างต่อกันบ้างบางทีแล้ว สิ่งที่เราคิดว่าเป็นความหวังดี มองอีกทีอาจเป็นความอึดอัดของอีกฝ่ายก็ได้ ถ้าคุณมีพฤติกรรมต่อไปนี้ ควรบอกให้ตัวเองถอยห่างมาบ้าง เพราะนี่คืออาการของคนที่กำลังติดแฟนจนเริ่มจะเข้าขั้นระแวง!!

1. ตื่นเช้ามาต้องเช็คโซเชียลของแฟน แทนที่จะรีบลุกไปทำธุระส่วนตัว ทำกิจวัตรประจำวันให้เสร็จ ๆ ไปแล้วค่อยหาเวลาว่างมาคุยกัน กลับเลือกที่จะนอนนิ่ง ๆ เช็คความเคลื่อนไหวของแฟนเป็นอันดับแรกว่าเมื่อคืนเล่นอะไร โพสต์อะไรไปบ้าง ยิ่งถ้าไม่ได้คุยกันแต่เช้ายิ่งรู้สึกหงุดหงิด เหมือนวันนั้นทั้งวันขาดอะไรไปสักอย่าง

2. ต้องให้แฟนรายงานทุกเรื่องที่ทำ อยู่ไหน?, ทำอะไร?, อยู่กับใคร? เป็นคำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ที่ถามอยู่ได้ไม่รู้จักเบื่อ ทั้งที่มีอีกตั้งหลายเรื่องให้ชวนคุย ชวนพูดกันอย่างเป็นธรรมชาติ ทำตัวสบาย ๆ บ้างก็ได้ ไม่ต้องไปอยากรู้อยากเห็นอะไรมากนักหรอก ถ้าเขาอยากบอก เดี๋ยวเขาก็บอกเอง แต่ถ้าคุณยิ่งจี้ เขาจะยิ่งหลบหนีปิดบัง

3. แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยของตัวเอง ก็ต้องการให้แฟนรู้ โลกรู้ เป็นจอมแท็ก เห็นอะไรนิดหน่อยก็โพสต์แล้วแท็กหาแฟนให้โลกรู้ไปเลยว่าคนนี้เป็นของใคร ทั้งที่บางเรื่องเก็บไว้คุยกันสองต่อสองก็ได้ เพลา ๆ โซเชียลหน่อยก็ได้ ในขณะที่คุณยิ้ม ภูมิใจที่ได้เป็นคนรักแฟนแทบทุกลมหายใจ อีกคนอาจกำลังอึดอัด รู้สึกอายเพื่อน อยากลบแท็กก็ได้นะ

4. แค่แฟนหายไปเพราะป่วย หรือทำธุระ คุณก็ถึงกับเครียด คิดมาก เป็นปกติที่คนเราถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นทุกข์ก็ต้องรู้สึกทุกข์ตามไปด้วย แต่บางทีแล้วมันก็ไม่จำเป็นสักนิดที่จะต้องถึงกับขมขื่น อยู่ไม่เป็นสุข ไม่เป็นอันทำอะไรได้ หรือเดาเหตุการณ์ไปต่าง ๆ นานาที่มันแย่กว่านี้ ถ้ามันทำให้กิจวัตรประจำวันของคุณเสื่อมประสิทธิภาพลง นั่นเป็นเพราะคุณรักผิดวิธีแล้วแหละ หัดเข้าใจกันบ้าง รู้จักการรอคอยอย่างมีเหตุผลบ้าง รักจะสวยงามกว่าเยอะ

5. เชื่อในวิธีจับผิดที่คนอื่นบอกมา เสพติดรายการทีวี, สื่อ หรืออะไรก็ตามที่เป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับความรักจนคิดว่าคู่เราก็เหมือนคู่อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการจับผิดจับพิรุธจนถึงขั้นเอามาใช้จับผิดกับแฟนตัวเอง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว แต่ละคู่ก็มีปัญหาสาเหตุไม่เหมือนกัน วิธีของคนอื่นอาจใช้กับเราไม่ได้เสมอไปหรอก และบางทีแล้วแฟนเราก็ไม่ได้มีอะไร เราต่างหากที่คิดไปเอง

6. ทันทีที่มีปัญหาระหว่างกัน เริ่มตั้งเป้าไปที่เรื่องแง่ร้าย คิดวนเวียนแต่ว่าเขาเปลี่ยนไป, เขาอาจจะมีกิ๊ก, เขารักเราน้อยลง ฯลฯ แต่ไม่ได้คิดในแง่ดีด้วยว่า เขาอาจจะไม่มีอะไรจริง ๆ เราต่างหากที่คิดไปเอง ยิ่งคิดในแง่ร้ายบ่อย ๆ จิตเราก็ยิ่งจำแต่เรื่องร้าย เกิดพลังลบในความรัก

7. กล้าที่จะแอบเช็ค แอบเปิดพื้นที่ส่วนตัว แต่ไม่กล้าที่จะถามตรง ๆ สายลับแม่บ้านมักบอกว่า ถ้ารู้สึกมีพิรุธให้แอบเช็คโทรศัพท์ เช็คกระเป๋า เช็คอะไรก็ตามที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ความเป็นจริงแล้วก็คือ มันเป็นการไม่ให้เกียรติกันและทำให้ตัวเราดูไม่ดีไปเลยที่ทำลับ ๆ ล่อ ๆ เหมือนกับโจรซะเอง เพื่อภาพลักษณ์ที่ดูดี สวย ๆ เก๋ ๆ กว่านี้ ยืดอกคุยกันแมน ๆ ดีกว่า ต่อให้เขาปิดบังหรือโกหกจริง สักวันความจริงก็ต้องเปิดเผยเองโดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยค้นแต่แรกหรอก

8. ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน คุณไม่เคยมองว่าตัวคุณเองก็มีส่วนผิดด้วย ชีวิตคู่แปลว่าทุกอย่างหารสอง เพราะฉะนั้น เรื่องทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือร้าย สุขหรือทุกข์ เราย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องเสมอ ใช่ว่าจะเป็นแต่เพียงใครคนหนึ่งเสมอไป ถึงแม้ว่าเรื่องที่ทะเลาะกันจะเป็นความผิดของอีกคนจริง ๆ มันก็อาจเป็นแค่ไม่กี่เปอร์เซ็น และคุณเองก็อาจมีส่วนให้เขาทำผิดด้วย ลองคิดทบทวนให้ดีก่อนจะโบ้ยใครง่าย ๆ สิ

9. คิดเอง เออเอง ว่าคุณดีที่สุดแล้ว เสนอทางเลือกแบบมัดมือชก เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตุกติก คิดไม่ซื่อ ช่างเป็นวิธีที่ไม่แฟร์และไม่รอบคอบเอาเสียเลย ย้ำอีกทีว่าชีวิตคู่เป็นของคนสองคน ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้น ทุกเรื่องต้องช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจ เพื่อความสบายใจของทั้งสองคนมากที่สุด ขัดแย้งกันน้อยที่สุด และโปร่งใสที่สุด เป็นสำคัญ

10. เข้าไปแทรกกลางระหว่างที่แฟนกำลังพูดคุยกับคนอื่น ต่อให้เป็นการหยอกล้อกันก็เสียมารยาทที่สุด เพราะนี่คือการหักหน้าที่ไม่เพียงแต่คู่สนทนาเท่านั้นที่เสียหน้า แต่ยังตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นที่แอบซุ่ม ผ่านไปผ่านมาเช่นกัน ถ้ารู้สึกไม่พอใจหรือมีอะไรที่ต้องการจะปรับความเข้าใจ ควรกลับมาคุยกันสองต่อสองกับแฟนอย่างลับ ๆ จะดีกว่า

ถ้าคุณเลือกที่จะรัก ก็ต้องรู้จักที่จะเชื่อมั่นในกันและกันด้วยอย่าให้ความคิดทำลายเรื่องของหัวใจอย่าให้หัวใจทำลายสติรักกันแต่พอดี รักษาระยะห่างต่อกันแล้วคุณจะไม่เสียใจหรือเสียดายที่ได้รักใครเลยต่อให้ตอนสุดท้ายต้องเลิกกันเพราะอะไรก็ตาม