10 วิธี เรียนรู้ที่จะรักและอกหักอย่างเข้าใจ
เพราะตัวเราเป็นผู้กำหนดทิศทางความรักของตัวเองได้ ขอแค่เราพร้อมที่จะเรียนรู้รักอย่างเข้าใจและเป็นธรรมชาติ
"ความรักคืออะไร ?"
เป็นประโยคคำถามปลายเปิดที่ไม่มีใครคนไหนตอบคำถามนี้ได้สมบูรณ์แบบ
เพราะเอาเข้าจริงตัวเราเองก็ยังไม่สามารถหาคำนิยามที่ดีที่สุดเพื่ออธิบาย
"ความรัก" ได้ จะคงมีก็แต่ความรู้สึกภายใน
วันนี้เราเลยรวบรวมทัศนคติทางความรัก
เพื่อเรียนรู้ความรักอย่างเท่าทันและไม่เจ็บปวดกับมันมากจนเกินไป
1. ไม่มีความรักที่สมบูรณ์แบบ
ไม่มีใครบนโลกนี้จะเป็นผู้กำหนดว่าคนรักของคุณคู่ควรกับคุณหรือไม่
ไม่ว่าจะจน รวย หล่อ ขี้เหร่ พิการ อ้วน หรือผอม
นั่นไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะต้องมาให้ความสนใจ (โดยเฉพาะจากปากคนอื่น)
ว่าเขาคนนั้นไม่คู่ควรกับคุณ หรือเราเองไม่คู่ควรกับเขา
จำไว้ว่ามีเพียงคุณและแฟนเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ
ไม่มีความรักคู่ไหนที่สมบูรณ์แบบ คู่ของคุณก็เป็นหนึ่งในนั้น
2. หมั่นให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
กำลังใจที่ดีจะเป็นพื้นฐานของการสร้างความรักที่ดีตามมา
เพราะการมอบกำลังใจซึ่งกันและกันสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้อยากที่จะทำอะไรให้คนรักของตัวเองมีความสุข
เมื่อคนรักของตัวเองมีความสุข
นั่นย่อมหมายถึงตัวเราเองก็มีความสุขตามไปด้วยเช่นกัน
ดังนั้นต้องหมั่นสร้างกำลังใจซึ่งกันและกัน ตราบเท่าที่โอกาสจะเอื้ออำนวย
3. ยอมรับอดีตของตัวเอง
เอาน่า?เราทุกคนล้วนเคยมีอดีตรักที่ขื่นขมด้วยกันทั้งนั้น
อยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะยอมรับแล้วอยู่กับมันให้ได้
หรือว่าจะปล่อยให้อดีตเหล่านั้นกลับมาทำร้ายเรา
ทางที่ดีหัดรู้จักปล่อยวางความรักที่ผ่านพ้นไปแล้วเสียบ้าง
เพราะต่อให้คุณหยุดเวลาไว้ที่เดิมก็ไม่ได้หมายความว่าความรักครั้งเก่าจะย้อนกลับมาหาคุณอีกครั้งเมื่อไหร่กัน
4. การรักษาคำมั่นสัญญา
การรักษาสัญญาระหว่างกันของคู่รักเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้าม
เพราะการรักษาสัญญาจะนำมาซึ่งความเชื่อมั่นและเชื่อใจ
แต่คุณต้องมั่นใจว่าเมื่อใดก็ตามที่คุณเอื้อนเอ่ยคำสัญญาไปแล้ว
คุณต้องมีความมั่นใจมากพอที่จะรักษาคำมั่นสัญญานั้น
เพราะการผิดคำสัญญามักตามมาด้วยความเชื่อใจที่พังทลายลงด้วยเช่นกัน
5. คุยกันด้วยเหตุและผล
แน่นอนว่าเมื่อมีปัญหาบางครั้งก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการปะทะอารมณ์
ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี ทำให้ปัญหาลุกลามใหญ่โต
ทั้งยังไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
จะดีกว่าถ้าทั้งคู่พยายามตั้งสติและหันหน้าคุยกันด้วยเหตุและผล
ไต่ถามถึงสาเหตุความขุ่นข้องหมองใจ และร่วมกันแก้ไขปัญหา
ดีกว่าเลือกใช้อารมณ์เข้าแก้ปัญหาอย่างแน่นอน
6. อกหักให้เป็น
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดที่ต้องเลิกรา
ความเสียใจย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่การฟูมฟายก็ไม่ช่วยให้เกิดประโยชน์เช่นกัน ทางที่ดีเราควรยอมรับความจริง
และคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้ความเจ็บปวด
และเข้าใจมันให้ลึกซึ้งมากขึ้น ซึมซับกับความเจ็บปวดให้เต็มที่
ไม่แน่ว่ารู้ตัวอีกทีเราอาจผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตไปแล้วก็ได้
7. อย่าคาดหวังมากเกินไป
ไม่ใช่เรื่องผิดถ้าคุณจะรักใครสักคนอย่างลึกซึ้ง จริงใจ และหมดใจ
สิ่งเหล่านี้มักสร้างความกดดันให้เราเองต้องคาดหวังในตัวคนรักที่สูงด้วยเช่นกัน
ทางที่ดีคุณเองก็ควรจะมีสติระหว่างรัก
เพราะนั่นจะช่วยทำให้คุณไม่พลั้งเผลอยกความไว้ใจให้คนรักของคุณไปทั้งหมด
8. คิดบวกให้เป็น
การหัดมองโลกในแง่บวกมีผลดีต่อสุขภาพจิตทางความรักของตัวเองเป็นอย่างมาก
เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเชื่อและหวังสิ่งดี ๆ ที่มีมาในอนาคต
เพราะการมองโลกแต่ด้านแย่ ๆ ทำให้ตัวคุณเองก็มีแต่ความไม่สบายใจ
ความกังวลและความเครียด
ทั้งยังส่งผลให้การดำเนินชีวิตแต่ละวันเป็นไปอย่างยากลำบากอีกด้วย
9. อยู่กับตัวเองให้เป็น
การมีบุคคลให้รักย่อมเป็นเรื่องที่ดี
แต่จะไม่ดีแน่ถ้าเราเอาใจไปผูกพันกับเขามากจนเกินไป
ทำให้เราขาดความเชื่อมั่นที่จะเป็นตัวของตัวเอง
อย่าลืมว่าสุดท้ายแล้วไม่มีใครรักเรามากไปกว่าตัวเราเอง
การอยู่กับตัวเองให้เป็นจะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องบอบช้ำ
ในวันที่ความรักเลือกที่จะจากเราไป
10. หยุดตอกย้ำความคิดแย่ ๆ
"สิ่งไหนเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ" ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเลวร้ายมากแค่ไหน มันจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก
ถ้าเราเลิกคิดซ้ำเติมตัวเอง หัดเตือนสติตัวเองว่าอะไรที่แก้ไขได้ก็แก้ไขไป
อะไรที่แก้ไขไม่ได้ก็อย่าไปคิดมาก ต้องรู้จักปล่อยวาง
และเลิกตอกย้ำตัวเองว่าไม่ดีหรือไม่มีคุณค่ามากพอสำหรับใคร
ความรักมีทั้งสมหวังและผิดหวังคละเคล้าปะปนกัน
ความรักจึงเป็นเรื่องของการเรียนรู้ เรียนรู้ที่จะเจ็บและเข้าใจ
สุดท้ายแล้วความรักก็คือความรัก
ต่อให้เราเตรียมการความรู้สึกล่วงหน้าไว้ดีแค่ไหน
ก็มีสิทธิ์พลาดพลั้งได้เสมอถ้าเราไม่ระวังตัว...
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
tinybuddha.com และ powerofpositivity.com