9 วิธีลดปัญหาสิวง่ายๆ..ทำได้หน้าเนียนแน่ !

อ่าน 3,470

สำหรับสาวๆหนุ่มๆที่มีผิวมัน ผิวผสม และผิวแพ้ง่าย หนึ่งในปัญหาโลกแตกที่แก้ไม่ตกก็คือ ?สิว? โดยเฉพาะเจ้าสิวอักเสบที่สร้างความรำคาญใจให้เสมอ ต่อให้ดูแลผิวหน้าดีแค่ไหน ปัญหาสิวก็ไม่ยอมหมดไปง่ายๆ ลองมาทำความรู้จักและวิธีลดปัญหาสิว และสิวอักเสบกันดีกว่าค่ะ

ปัจจัยการเกิดสิวอักเสบตัวแสบ- ปัจจัยจากภายในร่างกายของเรา เช่น ภาวะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง การได้รับสารบางอย่างเข้าไปภายในร่างกาย อาการเจ็บป่วยบางอย่าง

- ปัจจัยจากภายนอก เช่น เครื่องสำอาง การอุดตันของชั้นผิวภายนอก มลพิษ ของใช้ต่างๆในชีวิตประจำวันแบคทีเรีย

ทำอย่างไรให้สิวอักเสบเกิดขึ้นได้น้อยที่สุด ??1. ทำความสะอาดเครื่องสำอางให้หมดจดทุกครั้ง สำหรับสาวผิวมันควรใช้คลีนเซอร์สูตรน้ำหรือน้ำนม จะเหมาะกับสภาพผิวมากกว่าสูตรน้ำมันและไม่ทำให้เกิดการอุดตันเพิ่ม

2. รักษาความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรอ่อนโยนและปราศจากสบู่ (Soap free) คือ ปราศจากสารจำพวกสบู่ที่มีความเป็นด่าง หรือมีค่าความเป็นกรด-ด่างใกล้เคียงสภาพผิวตามธรรมชาติ (pH Balance)

3. ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตร non-ionic โดยปกติแล้วผิวหนังของคนเรามีคุณสมบัติทางประจุไฟฟ้าเป็นขั้วลบ ถ้าใช้สารชำระล้างที่มีประจุไฟฟ้า สารดังกล่าวจะตกค้างอยู่บนผิว เนื่องจากมีการเกาะติดกับประจุไฟฟ้าตามธรรมชาติของผิวหน้า และสารที่ช่วยทำความสะอาดผิวหนังก็มีทั้งชนิดที่มีขั้ว (ionic) และไม่มีขั้ว (non-ionic) เป็นสารที่ไม่มีประจุไฟฟ้าเลย จึงถือเป็นสารทำความสะอาดใบหน้าที่ค่อนข้างจะอ่อน มีคุณสมบัติช่วยลดความตึงผิวระหว่างน้ำ สิ่งสกปรก และผิวหน้า เมื่อลดความตึงผิวลงสิ่งสกปรกก็จะถูกล้างออกไปได้ จึงเป็นที่ยอมรับกันว่าผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตร non-ionic ใช้ได้กับทุกสภาพผิว และปราศจากสารตกค้างบนผิวหน้า

4. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่งสำอางที่แรงเกินไป ควรใช้ครีมอ่อนๆ เพราะสิวก็คือแผลสดที่เกิดขึ้นบนใบหน้า เพราะฉะนั้นเราควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางหรือโลชั่น ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน (oil free) หรือโลชั่นที่ระบุว่าไม่ก่อให้เกิดสิว (non-acnegenic) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedongenic)5. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีใดๆก่อนเข้านอน เช่น สระผมให้สะอาดในตอนเย็นเพื่อทำความสะอาดสารเคมีตกค้างจากผลิตภัณฑ์ตกแต่งผม และทำความสะอาดเปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนบ่อยๆ

6. อย่าใช้มือซนเด็ดขาด ห้ามแคะแกะเกาบริเวณที่เป็นสิวเพราะจะทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นได้7. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าเครียด หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ8. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณไขมันมากๆ และควรรับประทานผักใบเขียวและผลไม้อย่างสม่ำเสมอ

9. เมื่อจำเป็นต้องใช้ยา เลือกใช้ยาที่มีส่วนผสมของวิตามินเอเพราะมีสรรพคุณรักษาสิว และยาประเภท เบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือประเภทที่มีกรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid) ที่มีเปอร์เซ็นต์ต่ำ ซึ่งควรเริ่มใช้จากเปอร์เซ็นต์ต่ำๆก่อนจะไม่ทำให้ผิวเราแพ้และอาจเกิดอาการแพ้ยา ที่สำคัญต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้และใช้ในปริมาณและระยะเวลาที่แพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกรแนะนำอย่างเคร่งครัดนะคะ

cr photo: purehealthcare / siamloftclinic.com / Tumble / istockphoto / itoppluswriter: Sunflower Kiss