ข้อดี-ข้อเสียของการรับประทานวิตามิน

อ่าน 7,011

คนรุ่นก่อนหน้านี้มักจะพึ่งพาวิตามินเป็นส่วนใหญ่

เริ่มจากวิตามินรวมสำหรับเด็กเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต

ตามด้วยอาหารเสริมบำรุงกระดูกและเส้นผม วิตามินบำรุงร่างกาย

เห็นไหมว่าการรับประทานวิตามินไม่มีวันสิ้นสุด

แต่คำถามคือวิตามินทั้งหมดนี้ปลอดภัยกับเราจริงไหม? แล้วคำตอบคืออะไร?

คำตอบคือคุณรับประทานวิตามินได้ไม่มีปัญหา

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณควรรับประทานอาหารที่สมดุลและมีประโยชน์

ชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิตามินทั้งหมด

และนี่คือรายการวิตามินที่คุณควรรับประทานและรายการวิตามินที่ควรหลีกเลี่ยง

วิตามินเอ ซี และอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระแต่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิดหากรับประทานมากเกินไป

วิตามินเอ ซี และอี

ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

แต่การศึกษาพบว่าหากรับประทานวิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากเกินไปอาจ

ส่งผลเสียต่อร่างกาย

ดังนั้นคุณควรรับประทานผักและผลไม้ที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแทน

เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่รับวิตามินเอ ซี และอีมากเกินความจำเป็น

วิตามินบี 3 อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ มีปัญหาเกี่ยวกับตับ และเลือดออกภายใน

เชื่อกันว่าวิตามินบี 3

จะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง

วิตามินบี 3 สามารถลดระดับ LDL (ไขมันเลว) และเพิ่มระดับ HDL (ไขมันดี)

แถมยังช่วยรักษาผู้ป่วยที่มีประวัติการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตันได้ด้วย

แต่การศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่รับประทานวิตามินบี 3

เป็นประจำมีโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ มีปัญหาเกี่ยวกับตับ และเลือดออกภายใน

นักวิจัยพบว่าไนอะซิน (วิตามินบี 3)

ไม่มีบทบาทในการป้องกันโรคหัวใจแต่กลับมีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างน่ากลัวแทน

วิตามินซีไม่ได้ช่วยให้คุณหายหวัด

ฉันสังเกตว่าแพทย์ส่วนใหญ่ไม่สั่งจ่ายยาหาก

คุณหรือเด็กๆเป็นโรคหวัด แต่แนะนำให้รับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแทน เช่น

ส้มแมนดาริน และสตรอเบอรี่ มีการศึกษาพบว่าวิตามินซีไม่มีผลในการรักษาหวัด

นอกจากนี้การรับประทานวิตามินซีเกิน 2000

มิลลิกรัมทุกวันอาจทำให้คุณมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในไต

วิตามินดีควรรับประทานเพื่อกระดูกที่แข็งแรง

โดยเฉพาะเมื่อคนเราเริ่มมีอายุมาก

แสงแดดคือแหล่งวิตามินดีตามธรรมชาติแต่ก็ยังไม่เพียงพอ

ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องพึ่งพาวิตามินเสริม

วิตามินดีจะให้แคลเซียมซึ่งจำเป็นต่อร่างกายในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็ง

แรงและมีสุขภาพดี

ผู้ที่รับประทานวิตามินดีเป็นประจำมีแนวโน้มที่จะอายุยืนยาวและไม่มีอาการ

ปวดเมื่อยตามร่างกาย

วิตามินอีอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งบางชนิด

วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิด

หนึ่งซึ่งเชื่อว่ามีสรรพคุณป้องกันมะเร็ง

แต่การศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานมีความเสี่ยงสูงมากในการเป็นมะเร็งต่อมลูก

หมาก แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำอาหารอย่างอื่น เช่น ผักสีเขียวอย่างผักโขม

กรดโฟลิกแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรบริโภคกรดโฟลิกเป็นประจำ

วันละ 400 ไมโครกรัมซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์

นอกจากนี้กรดโฟลิกยังช่วยลดอัตราความผิดปกติที่อาจเกิดกับทารกแรกเกิดได้

เช่น ความผิดปกติทางสมองหรือไขสันหลัง เป็นต้น

อย่างไรก็ตามแพทย์ยังแนะนำให้ผู้ที่ต้องการตั้งครรภ์รับประทานวิตามินบี

เสริมเข้าไปด้วย

หลีกเลี่ยงวิตามินรวม เนื่องจากคุณสามารถได้รับวิตามินในปริมาณที่เหมาะสมจากอาหารทุกมื้อ

วิตามินรวมส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยวิตามินเอ

บี และซี แต่ในปี 2012

นักวิจัยพบว่าผู้ที่รับประทานวิตามินรวมเป็นประจำติดต่อกัน 25

ปีจะมีโอกาสเสี่ยงในการเสียชีวิตสูงกว่าปกติ

ด้วยเหตุนี้แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีความสมดุล

และคุณค่าทางโภชนาการทุกวัน

สังกะสีเป็นแหล่งวิตามินชั้นดีสำหรับร่างกาย

สังกะสีเป็นแหล่งแร่ธาตุชั้นดีและสามารถ

บรรเทาอาการหวัดได้ซึ่งแตกต่างจากวิตามินซี

มีการศึกษาพบว่าการบริโภคยาน้ำที่มีส่วนผสมของสังกะสีหรือยาเม็ดหรือแม้

กระทั่งยาอมก็มีผลเชิงบวกต่อการรักษาโรคหวัด

นอกจากนี้สังกะสียังส่งผลดีกับเด็กอีกด้วย

ปัจจุบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พัฒนาไปมาก

วิตามินต่างๆที่คุณคิดว่าดีกลับกลายเป็นสิ่งที่อันตรายมากเลยทีเดียว

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณในการตัดสินใจว่าอาหารเสริมชนิดใดควรรับประทาน

และชนิดใดควรหลีกเลี่ยง

Blogger : John Stone

Source : awesometips.pw



บทความแนะนำ


ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมวิถีชุมชนมหกรรมสุขภาพดีที่เที่ยวศูนย์การค้าเซ็นทรัลพญานาคเที่ยวในประเทศโปรโมชั่นข่าวล่าสุดข่าวแปลกทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก