8 วิธีเลี่ยงการเกิด "สิวที่คางและสันกราม"

อ่าน 11,702

สาวๆ

คนไหนก็ไม่ปลื้มเจ้าเม็ดสีแดงๆ ( หรือสีดำๆ )

บนใบหน้่าที่มีชื่อเรียกคุ้นหูว่า " สิว " ทั้งนั้น T T

ขึ้นมาทีไรต้องคอยกังวลว่าเมื่อไหร่จะหายไป แต่งหน้าก็ไม่สะดวก

ลูบหน้าทีไรก็สะดุด เห็นหน้าตัวเองในกระจกก็สะดุ้ง

ถ่ายรูปมุมเผลอทีไรต้องคอยใช้มือบัง โอย ชีวิตลำบากไปอีก

//ก็เป็นวัยรุ่นวุ่นวายนี่น้า ก็ต้องมีสิวกันบ้าง...

บริเวณ

ที่มีโอกาสเกิดสิวได้มากที่สุด ( โดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่ )

มักเป็นส่วนคางและสันกรามค่ะ เพราะฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ไม่สมดุล

กระตุ้นการผลิตน้ำมัน ทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโต และอุดตันในรูขุมขน

ก่อให้เกิดสิวในที่สุด Y^Y ถ้ารักษาความสะอาดไม่ดี สิวหัวช้างก็มา

สิวเสี้ยนก็มา ยิ่งตอนใกล้มีประจำเดือน สิวผุดรัวๆ โอย เครียด!

หาก

สาวๆ ไม่อยากพลาดท่าเสียทีให้เจ้าสิวตัวร้ายเหล่านี้

มาอ่านวิธีเลี่ยง / ลดโอกาสการเกิดสิวทั้ง 8 วิธีในบทความนี้กันดีกว่า

รับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน

อ่านเลยค่ะ เพื่อผิวหน้าสวยเนียนใสที่แท้จริง!

1. ไม่กินอาหารที่มีส่วนผสมของนม ( dairy ) 2 สัปดาห์


images.agoramedia.com
รู

ขุมขนผิวหนังก็ทำหน้าที่เหมือน " ระบบขับถ่าย "

กำจัดสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกาย อาหารประะภทนมชนิดต่างๆ เช่น นม เนย โยเกิร์ต

ชีส ต่างก็ทำให้ลำไส้ทำงานหนัก ย่อยยาก โดยเฉพาะสาวๆ

ที่มีปัญหาแพ้แลคโตสในนม จะอาเจียนหรือปวดท้อง ถ้าเธอกินนมเนยมากเกินไป

ร่างกายจะย่อยไม่หมด และกลายเป็นสิวหัวช้าง ( กดแล้วเจ็บ ไม่มีหัว )

บริเวณคางและสันกรามค่ะ

ลอง

งดอาหารประเภทนี้ทุกชนิดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แล้วดูว่ามีสิวเม็ดใหม่ๆ

เกิดขึ้นมาอีกหรือไม่ ถ้าไม่มี แสดงว่านี่แหละสาเหตุ!

เพราะคนเลี้ยงวัวนมมักให้ฮอร์โมนเร่งการเติบโต

ซึ่งจะไปปนเปื้อนอยู่ในนมด้วย ซึ่งจะกระตุ้นให้ระบบฮอร์โมนของเราแปรปรวน

กระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง และในที่สุดก็เป็น " สิว " นั่นเอง!

ร่าง

กายจะใช้บริเวณ " คาง " และ " สันกราม " เพื่อกำจัดฮอร์โมนส่วนเกินออกไป

เพราะใบหน้านั้นมีต่อมไขมันมากมาย ฮอร์โมนนั้นละลายได้ในน้ำ

ร่างกายจึงใช้ต่อมเหล่านั้นเป็นแหล่งกำจัดฮอร์โมนที่ผลิตจากไขมันนั่นเอง

หยุดกินผลิตภัณฑ์จากนมซะ หน้าจะได้ใส!



2. ไม่เอามือเท้าคาง


www.hancinema.net


สิว

ทุกประเภทมีสาเหตุมาจาก " เชื้อแบคทีเรีย " ที่อุดตันรูขุมขนบนใบหน้า

รู้ไหมว่าการใช้ฝ่ามือ ( ที่จับอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ทั้งวัน )

แล้วนั่งเท้าคางบ้าง จับหน้าบ้างอยู่บ่อยๆ แม้จะไม่ตั้งใจก็เถอะ

ทำให้ใบหน้าของเธอปนเปื้อนด้วยสิ่งสกปรก ถ้าวัดจำนวนเชื้อโรคล่ะก็

บางทีแขนหรือขาของเธออาจจะสะอาดกว่าซะอีก

หยุด

เอามือเท้าคางบนโต๊ะ จับแก้ม จับคางไปมาเวลาใช้ความคิด

เอามือออกจากหน้าเดี๋ยวนี้เลย! ถ้ามีความจำเป็นต้องจับจริงๆ (

แบบว่า...ติดไปแล้ว ) ล้างมือบ่อยๆ ระหว่างวัน

เมื่อกลับถึงบ้านแล้วก็อย่าลืมทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด

เพื่อไม่ให้เหลือแบคทีเรียคั่งค้างค่ะ



3. เช็ดโทรศัพท์มือถือให้สะอาดทุกครั้งก่อนแนบแก้ม


2ndopinion.ph
ปัญหา

โลกแตกของสาวๆ ที่มักทำโดยไม่รู้ตัว! หน้าจอโทรศัพท์มือถือนี่แหละ

แหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี ทั้งคราบน้ำมัน เหงื่อ สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง

ยิ่งถ้าเป็นสาวติดการคุยโทรศัพท์ แนบหูแนบแก้มทั้งวัน

ยิ่งติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นสิวลุกลามกันไปใหญ่

วิธี

แก้ก็ง่ายๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าจอ เช็ดให้สะอาดทุกวัน (

หรือระหว่างวันด้วยก็ยิ่งดี )

ใช้คู่กับสเปรย์เช็ดหน้าจอเหมือนที่ใช้กับแว่นตา

จะยิ่งลดโอกาสหน้าเป็นสิวเพราะโทรศัพท์มือถือมากยิ่งขึ้น ถนอมผิวไปอีก ^^



4. รักษาสิวที่คางและสันกรามเท่านั้น ถ้าไม่มีสิวขึ้นในที่อื่นๆ


cos.h-cdn.co
ถ้า

โดยปกติแล้ว ผิวหน้าของเธอมักเกิดสิวในบริเวณเดิมๆ คือส่วนล่างของใบหน้า (

คางและสันกราม ) หากใช้โฟมล้างหน้า

มาส์กหน้าและเซรั่มสำหรับผิวแห้งทั่วใบหน้า

เธออาจไม่รู้ว่าทำให้ผิวหน้าส่วนอื่นที่ไม่มีสิว " แห้งกร้าน "

โดยไม่จำเป็นนะคะ

สาวๆ

บางคนมีสภาพ " ผิวผสม " มีทั้งส่วนแห้งและมันในใบหน้าเดียวกัน

หากใช้ผลิตภัณฑ์เดียวกันทั่วหน้า อาจทำให้สภาพผิวไม่สมดุลได้

อาจดูยุ่งยากไปหน่อย

แต่ถ้าเป็นไปได้ให้แบ่งใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับบริเวณนั้นจะดีกว่า เช่น

ตรงไหนมีสิวก็ใช้โฟม เจลสำหรับมีสิว แต่บริเวณอื่นก็ใช้โฟมทั่วไป

เพื่อให้ผิวหน้าไม่แห้งกร้านจนเกินไปค่ะ



5. ใช้ยารักษาที่ " ชุ่มชื่น " ไม่มีแอลกอฮอล์


หาก

ต้องการลดรอยแดง ลดจำนวนสิวที่คาง

เธอต้องใช้เซรั่มรักษาสิวที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ( alcohol-free )

ซึ่งมีส่วนผสมของ salicylic acid เป็น BHA

ชนิดหนึ่่งที่ช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุการเกิดสิวได้

แต่ละสภาพผิวก็ตอบสนองเซรั่มแตกต่างกันออกไป แต่วิธีนี้จะไม่ทำให้ผิวแห้ง

ตกสะเก็ดหรือลอกเป็นขุยๆ แน่นอน

ที่

แนะนำให้ใช้ " เซรั่ม " ไม่ใช่ครีมหรือเจล

เพราะผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ใช้ได้ผลดีที่สุด

ถูกกำหนดมาแล้วให้ใช้กับมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนนอน

เพราะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะซึมซับอย่างล้ำลึกใต้รูขุมขน

ใช้โฟมหรือมาส์กจะไม่ได้ผลเท่า เพราะไม่ได้ทาทิ้งไว้ทั้งคืนค่ะ



6. แต้มยาที่จุดสิวเพื่อให้หายเร็ว ( อย่าบีบ แคะ แกะ เกา )


demandware.edgesuite.net
สิว

มีสองชนิดคือ " สิวมีหัว " และ " สิวไม่มีหัว ( สิวหัวช้าง ) "

ซึ่งมีวิธีรักษาแตกต่างกัน ถ้าอยากรักษาสิว / รอยแดงจากสิวให้หายไวๆ

ต้องทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

สิว

มีหัว : ใช้เจลแต้มสิวแก้อักเสบทาทิ้งไว้ 1-2 วันเพื่อให้มีสิวหัวขาวๆ

โผล่ออกมา เมื่อเห็นแล้วก็ค่อยๆ บีบหนองออกเบาๆ

แล้วทาเจลอีกครั้งเพื่อให้สิวแห้ง ( spot gel )

ถ้าเธอทาเจลให้สิวแห้งก่อนบีบหนองออก ผิวหนังส่วนนั้นจะแห้งก็จริง

แต่เชื้อสิวยังอยู่และอาจปะทุขึ้นมาได้อีกค่ะ

สิว

หัวช้าง ( ไม่มีหัว ) : มักเกิดที่คางและสันกราม

สิวชนิดนี้จะฝังอยู่ใต้ผิวหนัง บีบยังไงก็ไม่ออก

มีแต่จะทำให้ช้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอมากขึ้น ดังนั้นห้ามบีบ แคะ แกะ

เกาเป็นอันขาด! ให้เลือกทาเจลแต้มสิวสำหรับสิวหัวช้าง เพื่อให้สิวยุบตัวลง

อาจเกิดรอยจากการอักเสบบ้าง แต่จะค่อยๆ จางลงเอง แต่ต้องใช้เวลาค่ะ T T



7. ทำความสะอาด " รูขุมขน " ให้ถูกวิธี


s3.amazonaws.com
การ

รักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดเม็ดสิวใหม่ๆ ขึ้นมาได้อีก สังเกตได้ว่า

หากบีบสิวด้วยนิ้วมือที่ไม่สะอาด จะเกิดสิวเม็ดเล็กๆ

ผุดขึ้นมาอีกแบบห้ามไม่ได้ ไม่นับรอยแดง รอยช้ำอีก! เรียกอีกชื่อว่า "

สิวหัวดำ " หรือสิวเสี้ยนนั่นเอง

พร้อมจะกลายเป็นสิวอักเสบได้เสมอถ้าทำความสะอาดไม่ถูกวิธี

วิธี

ป้องกันคือ เมื่อเกิดสิวเสี้ยนขึ้นแล้วก็รีบขจัดออกซะ! เช่น

ใช้มาส์กขจัดสิวเสี้ยน, แผ่นลอกสิวเสี้ยน, สครับขัดสิวเสี้ยน

หรืออาจเป็นสูตรง่ายๆ ที่หาได้จากห้องครัวในบ้าน เช่น ดินสอพองผสมน้ำมะนาว

เบกกิ้งโซดา เป็นต้น



8. ปรึกษาแพทย์เพื่อปรับฮอร์โมนให้สมดุล


www.usnews.com
วิธี

สุดท้ายนี้ เหมาะสำหรับสาวๆ ที่แน่ใจว่าไม่ได้มีสิวด้วยเหตุผลทางธรรมชาติ

เช่น กินยาคุมกำเนิดอยู่, อยู่ในภาวะมีประจำเดือน

ซึ่งทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้บ่อยๆ

และมีอาการรุนแรงกว่าปกติ ลองพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้

คุณหมออาจมีคำแนะนำดีๆ ให้ไปทำตามค่ะ

ถ้า

วิธีธรรมชาติไม่หาย...อาจต้องใช้ยาร่วมด้วย (

แต่ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายเท่านั้นนะ กินยามากๆ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ

ไม่ดีต่อร่างกายในอนาคตแน่นอน ) อาจมีสาเหตุแปลกๆ ที่เราไม่รู้มาก่อน เช่น

ต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดสิวมากขึ้นก็ได้



อ่าน

จบแล้วล่ะสิ *-* เห็นไหมว่า วิธีเลี่ยงสิวที่คางและสันกรามนั้นง่ายสุดๆ

แต่เธออาจไม่รู้มาก่อนเท่านั้นเอง

เพราะส่วนใหญ่มักเผลอทำบ่อยในชีวิตประจำวัน เช่น กินผลิตภัณฑ์จากนม,

เอามือเท้าคางบ่อยๆ, เอาจอโทรศัพท์แนบแก้มทั้งวัน,

ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าไม่ถูกประเภท เป็นต้น แค่ปรับพฤติกรรมในชีวิตตามนี้

สิวก็ไม่มากวนใจแล้ว

หาก

ใครกำลังมีสิวอยู่ ทำใจไว้ก่อนว่า มันอาจไม่หายง่ายๆ โดนทันที

แต่ถ้าลดโอกาสการเกิดสิวเพิ่ม / ค่อยๆ รักษา ทายาไปเรื่อยๆ มันจะค่อยๆ

ยุบไปเอง แม้จะเกิดรอยแดงก็สามารถหายาทาให้รอยจางลงได้ค่ะ

สู้ๆ นะคะทุกคน เพื่อผิวหน้าเนียนสวยกระจ่างใส ชนะใจหนุ่มๆ ฮิ้ววววว แล้วพบกันใหม่กับวิธีดูแลตัวเองคราวหน้า สวัสดีค่ะ


Cr. 8 Tips To Prevent Chin And Jawline Breakouts [ blog.reneerouleau.com ]



บทความแนะนำ


เกิร์ลส์เดอร์วงวันภาพยนตร์TabascoFreddyHeinekenเรียกค่าไถ่Kidnappingไฮเนเก้นทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก