4 เทคนิคง่ายๆ ลดน้ำหนัก แบบไม่ต้องออกกำลังกายหนักมาก แต่ได้ผลเร็ว!
ลดน้ำหนักแบบไม่ต้องออกกำลังกายมีมั้ยคะพี่ ?
คำถามที่ผู้เขียนมักจะได้รับทางอีเมลล์ อินบ๊อคส์ หรือคอมเม้นท์ต่างๆ อยู่เป็นประจำไม่เคยขาด จนพอจะอนุมานได้แล้วว่า ?การออกกำลังกาย? เป็นกำแพงสูงหนา ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าคนที่ต้องการจะลดน้ำหนักแทบทุกคน เหตุผลก็พอจะเดาได้ไม่ยาก ?ทำงานกลับมาก็เหนื่อยแล้ว? ?งานเยอะมาก เวลาจะนอนยังไม่มีเลย? ?แถวบ้านไม่มีสวน ฟิตเนสก็แพง จะไปวิ่งที่ไหน? ? แหม เอาซะเราไปต่อไม่เป็น ไม่รู้จะแนะนำยังไงเลย
ถ้าจะให้ตอบแบบตรงไปตรงมา การออกกำลังกายอาจจะไม่จำเป็นก็ได้สำหรับคนที่ต้องการ ?ลดน้ำหนัก?
เพียงอย่างเดียว เพราะร่างกายของคนเรา 70% ประกอบไปด้วยน้ำ
ดังนั้นแค่ไม่ดื่มน้ำสัก 1 วัน หรืออดอาหารสัก 2-3 วัน
ตัวเลขบนตาชั่งก็ดีดลงมาให้ใจชื้นแล้วล่ะค่ะ แต่ที่หลายคนนึกไม่ถึงก็คือ
พฤติกรรมเหล่านั้นอาจจะนำไปสู่อาการ ?หุ่นพังแบบถาวร?
ได้โดยไม่รู้ตัว เพราะสิ่งที่ทำให้เราอ้วนและป่วยจริงๆ ไม่ใช่น้ำ
แต่เป็นเจ้าไขมันสะสมตัวร้ายที่เกาะแกะอยู่ตามพุงหลาม ต้นแขน
ต้นขาอันอวบอิ่ม แถมดูแล้วท่าทางจะไม่ยอมไปไหนง่ายๆ เสียด้วย
และไขมันเหล่านี้เองคือสิ่งที่เราควรตั้งใจจะลด ไม่ใช่น้ำ
ซึ่งเป็นส่วนประกอบของกล้ามเนื้อ องค์ประกอบของร่างกายที่แข็งแรง
และแล้วก็มาถึงประโยคนี้!! ประโยคที่ผู้เขียนควรจะโปรยตั้งแต่บรรทัดแรกการออกกำลังกายเท่านั้น ที่จะเผาไขมันเดิมออกไปได้ !
ใช่แล้ว อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ การงดอาหาร
หรือรับประทานอาหารน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการมีแต่จะช่วยให้โยโย่หนักขึ้น
เท่านั้น แต่การออกกำลังกายด้วยวิธีการที่ถูกต้องแสนง่ายมีแค่ 2 วิธีการ
แต่ได้ผลอย่างคลาสสิควิธีที่ 1 เวทเทรนนิ่ง คือ การทำยังไงก็ได้ให้กล้ามเนื้อได้ออกแรงทุกสัดส่วน
ประโยชน์โดยตรงก็คือ เมื่อกล้ามเนื้อของเราได้ทำงาน มันก็จะโต
เมื่อกล้ามเนื้อเติบโต
ก็จะต้องการพลังงานมากขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันนี่แหละที่เขาบอกว่า ?กล้ามเนื้อจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน? มันมีที่มาอย่างนี้!
ไม่ต้องเป็นห่วงว่ากล้ามเราจะนูนปูดโปนเหมือนพ่อหนุ่มตามฟิตเนสหรอกนะคะ ผู้หญิงอย่างเรามีฮอร์โมนไม่เหมือนผู้ชาย เล่นเวทไป สิ่งที่จะได้กลับมาก็คือ หุ่น S Shape มีอก เอว สะโพก และบั้นท้ายกลมกลึงค่ะวิธีที่ 2 คาร์ดิโอ คือการผลักดันให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
เมื่อหัวใจเต้นแรงขึ้นจนอยู่ในระดับที่เราเริ่มรู้สึก ?เหนื่อย? อย่างต่อเนื่อง เพียงแค่ประมาณ 20-30 นาทีต่อวัน เจ้ากรรมนายเวรของเราๆ ท่านๆ ที่มีนามว่า ?ไขมัน? ก็จะโดนดึงเข้ามาสู่กระบวนการเผาผลาญในทันทีที่เหลือก็เพียงแค่รักษาสมการง่ายๆ ข้อเดียว ?เบิร์นออกให้มากกว่าที่รับเข้า? เท่านี้ก็ผอมอย่างปลอดภัยแน่นอน
แต่ยังขี้เกียจอยู่ดี พอจะมีไหม? ที่ออกกำลังกายน้อยๆ แต่ได้ผลมากๆ
โอเค.. ถ้าให้ตอบตรงๆ (อีกที) มันก็มีค่ะ อาหารที่เรารับประทานเข้าไปทุกวันนั่นแหละที่จะช่วย ?เร่ง? หรือ ?เสริมสร้าง? ระบบเผาผลาญของเราให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยเทคนิคง่ายๆ ไม่กี่ข้อ
1. โปรตีน กับ ไขมันดี คือสารอาหารที่ขาดไม่ได้
ในแต่ละวัน ให้ทานโปรตีน 1 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
เพื่อชดเชยกล้ามเนื้อที่เสียไประหว่างออกกำลังกาย
เสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดใหม่ขึ้นมา
ช่วยให้กระบวนการเผาผลาญทำงานดีขึ้นโปรตีนที่แนะนำควรเป็นโปรตีนจากไก่
โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกที่มีไขมันแทรกในเนื้อน้อย หรือโปรตีนจากเนื้อปลา
และอาหารตระกูลถั่วชนิดต่างๆ ที่ถึงแม้จะมีไขมัน
แต่ก็เป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อการลดไขมันเลวอีกต่างหาก2. กินคาร์โบไฮเดรตอย่างเหมาะสมคือดีงาม
หลังออกกำลังกายให้ทานสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต หรือ
อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของน้ำตาล
เพื่อให้ร่างกายไม่รู้สึกโหยหาอาหารมื้อใหญ่ๆ
และไม่เผลอไปซัดโฮกบุฟเฟ่ต์หลังเวิร์คเอ๊าท์ โดยอาจจะพก snack
ที่มีน้ำตาลไม่เกิน 10 กรัม ติดกระเป๋าไว้ในวันที่ไปฟิตเนส หรืออาจจะเลือกเป็น snack ที่มีใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลก็จะดีขึ้นไปอีกนะ!3. รู้จักตัวช่วยดีๆ ไว้ ไม่เสียหาย
อาหารเสริมก็ไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไปนะตัวเธอ อย่าสับสน ?อาหารเสริม? กับ ?ยาลดความอ้วน?
เพราะบอกเลยว่ามันทำงานไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียว
การเลือกอาหารเสริมที่ดีแน่นอนว่าต้องมี อย. รับรอง
ดูแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่ยาผีบอก
ไม่ออกฤทธิ์กดประสาทหรือกระตุ้นอวัยวะ อย่าง LeVif S7 อาหารเสริมที่มีลักษณะเป็น เจลลี่รสแอ๊ปเปิ้ล ในซองสีเขียวสดใสตัวนี้ ที่เคลมเอาไว้ว่า มีส่วนผสมของสารอาหารประเภท GIC Complex ลิขสิทธิ์เฉพาะจากเกาหลี
ที่นอกจากจะช่วยบล็อกไขมันแล้วยังทำงานควบคู่กับระบบเผาผลาญ
ช่วยในการดึงไขมันเก่าออกมาใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่มีประสิทธิภาพ
ทานง่ายๆแค่ฉีกซอง บีบเจล อั้มๆ ก่อนออกกำลังกาย
เท่านี้ก็ช่วยให้เห็นผลจากการเวิร์คเอ๊าท์ชัดเจนขึ้น 2-3 เท่า
(เมื่อเทียบจากระยะเวลาและความหนักในการออกกำลังกายเท่าเดิม)4. ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม
การออกกำลังกายหนักทำให้ร่างกายเสียเหงื่อ ซึ่งก็คือ น้ำ
ที่ช่วยปรับสมดุลย์ของร่างกายนั่นเอง
การดื่มน้ำที่ถูกต้องจึงควรจะทำโดยค่อยๆ จิบทีละนิด ไปตลอดทั้งวัน
และในช่วงที่ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายของเรามีน้ำหล่อเลี้ยงตลอด
ทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น รวมทั้งป้องกันสภาพ ?บวม? จากอาการขาดน้ำ (หรือที่เรียกว่า บวมน้ำ) ได้อีกด้วย?..คำตอบชัดเจนขนาดนี้แล้ว
รู้กันแล้วใช่ไหมว่าการออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหาร
และอาหารเสริมที่มีประโยชน์ มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักขนาดไหน
?..ผู้สนับสนุนเนื้อหาดีๆ : ผลิตภัณฑ์ LeVif S7 : คู่ใจสาวๆ ที่ควบคุมน้ำหนักโดยการออกกำลังกายจากประเทศเกาหลีข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ : http://www.levifbeauty.com/product