กินอาหารให้เหมาะกับ กรุ๊ปเลือด ของคุณ
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมแต่ละคนถึงมีภูมิในการรับประทานอาหารไม่เท่ากัน
เพื่อนเราบางคนกินเท่าไหร่ก็ได้ น่าอิจฉาชะมัด
ดูเราซิ๊กินเนื้อสัตว์เข้าไปนิดหน่อย ก็แน่นท้องจนพุงจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
กินบุฟเฟ่ไม่คุ้มเลย ที่เป็นเช่นนั้น นั่นก็เพราะว่า
การรับประทานอาหารส่งผลต่อการย่อยและระบบต่างๆ ในร่างกาย
แน่นอนว่าแต่ละคนมีไม่เท่าเทียมกัน วันนี้จึงมีคำแนะนำ
การกินอาหารให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือด ของแต่ละประเภท มาฝากกันค่ะ
คนเลือดกรุ๊ปเอ
แนะนำให้กินผักมากๆ รองลงมาเป็นผลไม้และเมล็ดพืชเปลือกแข็ง
โปรตีนจากสัตว์ กินแต่น้อยเป็นดี จะห่างไกลโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด
(ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง และโรคหัวใจ) โรคกระเพาะและโรคมะเร็งคนเลือดกรุ๊ปบี
แนะนำให้กินผักและธัญพืชให้มาก รองลงมาเป็นผลไม้และพืชเปลือกแข็ง
กินโปรตีน จากสัตว์ได้มากกว่าคนเลือดกรุ๊ปเอเล็กน้อย แต่น้อยกว่ากรุ๊ปโอ
ก็จะห่างไกลจากโรคประสาท โรคเกาต์ โรคไต มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
และเนื้องอกในสมองคนเลือดกรุ๊ปเอบี
แนะนำให้กินผักและถั่วมากๆ กินผลไม้และธัญพืชแต่น้อย
โปรตีนจากสัตว์กินได้เท่ากับคนเลือดกรุ๊ปบี (มากกว่าคนเลือดกรุ๊ปเอ
แต่น้อยกว่ากรุ๊ปโอ) ก็จะห่างไกลจากโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคผิวหนัง
และโรคไขข้ออักเสบคนเลือดกรุ๊ปโอ
แนะนำให้กินผลไม้และถั่วให้มากๆ
โปรตีนจากสัตว์กินได้มากกว่ากรุ๊ปบีและเอบีเล็กน้อย แต่ไม่ควรกินทุกวัน
ก็จะห่างไกลจากโรคปอด โรคกลัดหนอง โรคภูมิแพ้ และ อาการปวดหลังปวดเอวสัดส่วนอาหารที่ถูกต้อง
ผักร้อยละ 60 ธัญพืช ถั่ว และผลไม้ ร้อยละ 35
เมื่อเข้าใจวิธีปรับการดื่มกินอย่างเป็นลำดับขั้นตอนแล้ว
และทราบชัดว่าควรเลือกกินอาหารอย่างไรจึงจะเหมาะกับกรุ๊ปเลือด
ท่านก็คงจะอยากทราบต่อว่า อาหาร 3 มื้อในแต่ละวัน
ควรมีสัดส่วนอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น
จากประสบการณ์กินอาหารอินทรีย์มาหลายสิบปี และทำให้ตนเองหายจากโรคมะเร็ง
ตลอดจนคำแนะนำที่ผมให้กับผู้ป่วยเห็นผลอย่างชัดเจน
ผมจึงยินดีแบ่งปันสัดส่วนอาหารเพื่อสุขภาพดังนี้
ผักสด ร้อยละ 60
ข้าวธัญพืช 5 ชนิด ร้อยละ 10 (บักวีต ข้าวฟ่าง ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ข้าวนิล)
ถั่ว ร้อยละ 10 (ถั่วชนิดต่างๆ ที่เพาะเพิ่งงอก)
ผลไม้ ร้อยละ 10
เมล็ดพืชเปลือกแข็งและเมล็ดพืชดิบ ร้อยละ 5
โปรตีนจากสัตว์ ร้อยละ 5 (แต่ละมื้อเลือกเพียงอย่างเดียว อาหารทะเล ไข่
สัตว์ปีก เนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์นมแพะ ถ้าไม่อยากกินเนื้อสัตว์
อาจเพิ่มถั่วจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 15(แต่ละมื้อเลือกเพียงอย่างเดียว
อาหารทะเล ไข่ สัตว์ปีก เนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์นมแพะ
ถ้าไม่อยากกินเนื้อสัตว์ อาจเพิ่มถั่วจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 15
(ถั่วเพิ่งงอกมีโปรตีนสูงกว่าโปรตีนจากสัตว์หลายเท่า
เป็นโปรตีนที่ผู้ป่วยมะเร็งต้องการเพิ่ม แต่ต้องเคี้ยวคำละ 40
ครั้งให้ละเอียด แล้วค่อยกลืน)ที่มาจากหนังสือธรรมชาติช่วยชีวิต ฉบับโรคภัยหายได้จริง