ไขข้อสงสัย ทำไมผู้หญิงโบราณต้อง "ทาหน้าขาว" ก่อนถวายตัวเป็นมเหสี อ่านแล้วเข้าใจทันที!

อ่าน 6,946

หลายคนอาจจะเคยตั้งคำถามในใจ เวลาเราไปดูหนัง ย้อนประวัติศาสตร์แล้วสังเกตเห็น ฉากการถวายตัวเป็นมเหสี ในสมัยนั้น ทำไมจะต้องทาหน้าขาว และเขียนคิ้วโก่งๆ วันนี้เรา เลยมีคำตอบมาฝากกันค่ะ

การนำลูก และ หลานสาวทูลเกล้าถวายตัวให้เป็นบาทบริจาริกาของกษัตริย์ เป็นไปเพื่อพยุงฐานะทางเศรษฐกิจสังคม และการเมืองของสมาชิกในตระกูลตนด้วยเช่นกัน จึงทำให้พระราชสำนัก จึงคับคั่งไปด้วยสุภาพสตรีมากหน้าหลายตา คอยปรนนิบัติรับใช้กษัตริย์ ซึ่งการถวายตัวเป็นมเหสีของกษัตริย์ พิทยา บุนนาค ให้สัมภาษณ์ว่า "พระแท่นบรรทมจะอยู่ใต้เศวตฉัตร เจ้าจอมจะขึ้นไปนอนบนพระแท่นบรรทมไม่ได้ จะมีพระแท่นรองเวลาถวายงาน เท้าเจ้าจอมจะชี้ไปที่พระแท่นก็ไม่ได้ จึงมีท่ากามสูตรที่จะเก็บเท้าไม่ให้ชี้ ผู้หญิงมีตระกูลที่จะถวายตัว ต้องฝึกท่าที่คล้ายคลึงกับท่าโยคะบางท่าตั้งแต่เล็ก" (พิทยา บุนนาค, 2552,น. 43) เช่นเดียวกับที่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธิสิริโสภา และพลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เล่าประทานให้ เผ่าทอง ทองเจือ ว่าบรรดาหญิงสาวต้องผ่านการล้างและอบร่ำอวัยวะเพศอย่างพิถีพิถัน และ"ท่า" แรกในการถวายตัวคือ พนมมือนอนหงายในท่า "พับเป็ด" เพื่อไม่ให้ตีนของหญิงที่กษัตริย์กำลังทรงร่วมเพศไปสัมผัสพระวรกายของพระเจ้าแผ่นดิน เพราะตามคติความเชื่อชาวสยามแล้ว ตีนเป็นของต่ำที่จะไม่สามารถถูกหรือสัมผัสพระเจ้าแผ่นดินซึ่งประหนึ่งเทพเจ้าอันสูงสุดได้แม้แต่เพียงพระบาทของพระองค์ "ท่าพับเป็ด" ของผู้หญิงจึงกลายเป็นท่าแรกและท่าบังคับตามจารีตประเพณี ตามที่ แต่ท่าร่วมเพศหลังจากนั้นน่าจะขึ้นอยู่กับพระราชนิยมส่วนพระองค์ (เผ่าทอง ทองเจือ, 2552) แต่ถึงกระนั้นบางท่าบางลีลาน่าเป็นท่าต้องห้ามเพราะในสังคมสยามที่เชื่อถือกันมายาวนานแล้วว่า ศีรษะหรือผมเป็น "ของสูง" ห้ามให้ผู้อื่นไปสัมผัสอวัยวะดังกล่าว หรือแม้แต่การเอื้อมมือกรายข้ามหรือการสัมผัสลอมพอกก็ตามเพราะถือว่าเป็นการดูถูกดูแคลนอย่างมหันต์(มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์, สันต์ ท.โกมลบุตร,ผู้แปล,,2548,น. 180)

ในการหลับนอนกับพระเจ้าแผ่นดินนั้น ไม่เพียงแต่ "ท่าทาง" ที่ถูกกำหนด แต่ "ที่ทาง" ก็เป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งสำหรับการรักษาอำนาจทางการเมืองของพระองค์ เนื่องจากผู้ที่เป็นกษัตริย์เท่านั้นที่สามารถบรรทมใต้นภปดลเศวตฉัตรซึ่งแขวนอยู่เหนือพระแท่นบรรทม ผู้อื่นมิสามารถอยู่ใต้ร่มของพระมหาเศวตฉัตร 9 ชั้นนั้นได้ ซึ่งพระแท่นบรรทมของกษัตริย์ตั้งแต่รัชกาลที่1-4 ในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน มีลักษณะ 4 เสา มีโครงหลังคาทำด้วยไม้ฉลุ มีที่พำนัก 3 ด้าน ขึ้นลงได้ด้านเดียว ซึ่งเป็นอิทธิพลจากราชสำนักจีน ด้านหน้าพระแท่นบรรทมพบว่ามีเตียงขาคู้ขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่า "พระแท่นลด" มีความสูงลดต่ำลงมา ประมาณ 1 ศอก เพื่อให้บาทบริจาริกาถวายอยู่งานนวด และเพื่อไม่ให้นางในที่ถวายงานอยู่ใต้พระมหาเศวตรฉัตรด้วย(เผ่าทอง ทองเจือ, 2552)พระแท่นลดนั้นมีขนาดกว้างมาก จึงสันนิษฐานได้ว่ากิจกรรมทางเพศของพระเจ้าแผ่นดินน่าจะประกอบบนบริเวณพระแท่นลดนี้ในสมัยรัชกาลที่ 1 ? 4 ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ชนชั้นสูงสยามได้รับวัฒนธรรมตะวันตกมากขึ้น พระแท่นบรรทม จึงมีหัวเตียงปลายเตียง ขึ้นลงได้ 2 ทาง ซ้ายและขวา เห็นได้จากห้องบรรทมในพระที่นั่งอัมพรสถาน แต่ด้านข้างของพระแท่นบรรทมพบว่าทั้งซ้ายขวาเป็นเตียงลดต่ำลงมาทั้งสองข้าง(เผ่าทอง ทองเจือ, 2552)ซึ่งไปสู่ข้อสังเกตเกี่ยวกับการถวายตัว และ ถวายงานของบาทจาริกาในพระองค์ว่าอาจมีจำนวน 1 คนขึ้นไป เพราะมีพระแท่นเพิ่มขึ้น

"พระแท่นลด"

ตามคติความเชื่อที่สืบทอดกันมาตั้งสมัยแต่โบราณนั้น พระมหากษัตริย์เปรียบดั่งองค์สมมติเทพ ซึ่งองค์สมมติเทพนั่นก็คือ องค์พระนารายณ์ที่อวตารลงมาบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาราษฎรบนโลกมนุษย์ ดังนั้นเหล่าสตรีผู้ที่มาเป็นมเหสี สนม นางใน จึงเปรียบเสมือนนางฟ้าเทพธิดาต่างๆ บนสรวงสวรรค์ตามลงมาคอยปรนนิบัติรับใช้ ซึ่งเหล่านางฟ้าเทพธิดาทั้งหลายจะได้รับการพรรณาว่ามีผิวขาวนวล คิ้วโก่งดั่งคันศร ผมสีดำขลับ ปากแดงดั่งสีชาด ซึ่งเป็นความงามในอุดมคติของเหล่านางฟ้าทั้งหลาย ตามความเชื่อจากคัมภีร์ไตรภูมิพระร่วงที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ทำให้นางฟ้าในอุดมคติไทยจะมีลักษณะแบบนี้มาจนถึงปัจจุบัน จึงไม่แปลกที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังตามวัดวาอารามต่างๆ เหล่านางฟ้าจะหน้าตาแนวเดียวกันหมด

ดังนั้นสตรีใดได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าให้ถวายตัวเป็นบาทบริจาแก่พระมหากษัตริย์แล้ว ตามโบราณราชประเพณีจึงจำเป็นต้องจัดเตรียมเครื่องแต่งตัวเครื่องประดับและที่สำคัญคือเครื่องแต่งหน้าให้ประหนึ่งว่าเป็นดั่งนางฟ้าเทพธิดา นอกจากนี้การทาตัวด้วยสีขาวนั้นก็เพื่อจะได้มองเห็นรูปร่างและใบหน้าได้ชัดๆ เพราะสมัยก่อนมีแต่เทียนไข ต่อให้จุดเป็นร้อยเล่มยังไงก็ไม่สว่างแบบแสงไฟปัจจุบันแต่ถ้าสมัยนี้ใครเกิดมาทาตัวขาวแบบนี้ แต่งหน้าแบบนี้ เดินไปมาอยู่ใต้แสงเทียนล่ะก็คนที่เห็นอาจจะช็อกหรือไม่ก็วิ่งหนีไม่คิดชีวิตค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 1445970



บทความแนะนำ


มอบตัวตำรวจSkinFoodHALLOWEENภาพยนตร์SleepingMaskนักมวยติดยาข่าวล่าสุดสกินแคร์เกาหลีทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก