ใช่ออฟฟิศหรือเปล่า? ตัวการทำให้คุณ อ้วน ตัวแตก
ทุกครั้งที่ใกล้จะถึงวันจันทร์ถัดไป
เราก็มักตั้งอกตั้งใจที่จะเริ่มไดเอทกันอีกสักรอบ
เช็คลิสต์พร้อมอยู่ในมือแล้ว
และคุณก็มุ่งมั่นที่จะควบคุมอาหารให้ดีที่สุดก็คราวนี้ล่ะ ไหนดูสิว่าต้องเริ่มอะไรที่บ้านคุณบ้าง เคลียร์อาหารชวน อ้วน ออกไปให้หมด วางผลไม้สุดโปรดไว้ใกล้ ๆ มือ และ แช่ผักเขียวสดในตู้เย็นให้พร้อมหน้า ทีนี้ทุกอย่างก็เป็นใจให้คุณไดเอทได้ไม่ยากเย็นแล้ว?.
แต่ทันทีที่คุณก้าวเท้าเข้าออฟฟิศ ความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะไดเอทก็มลายหายวับไป เมื่อเห็นถุงกล้วยทอดเจ้าอร่อยที่ห้องคอฟฟี่เบรคของออฟฟิศ ไหนจะ ข้าวเหนียวไก่ทอดบนจานตรงนั้นอีก แล้วยังจะโถคุกกี้รสช็อกโกแลตชิพ บนโต๊ะเพื่อนร่วมงานอีกล่ะ ไม่เพียงเท่านั้น ทุกคนที่ออฟฟิศก็ดูเหมือนกำลังดื่มด่ำกับ ชานมไข่มุก กาแฟเย็น และสมูทตี้หวาน ๆ
อย่างเอร็ดอร่อย
จนทำให้คุณอดใจไม่ไหวต้องขอจิบสักคำจนเลยเถิดดื่มไปเสียหมดแก้ว
ยิ่งในประเทศไทยที่ท้องถนนคึกคักไปด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน
มันจึงยากเหลือเกินที่จะหันหลังให้เมนูแสนล่อตาล่อใจเหล่านี้ได้อย่างเด็ด
ขาด
ในสหรัฐอเมริกา
ได้มีการเผยแพร่รายงานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารในสถานที่ทำงาน
โดยดร. ไบรอัน แวนซิงค์
ได้ทำการทดสอบเพื่อชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลของการมองเห็นอาหารที่ช่วยกระตุ้น
ให้เกิดความอยากอาหารตามมา เขา
เตรียมขวดภาชนะที่มีฝาปิด 2 ใบ แล้วบรรจุลูกอมรสช็อกโกแลตลงไปในนั้น
ขวดแรกเป็นขวดภาชนะใส ขวดที่สองเป็นขวดกระเบื้อง
และนำไปวางบนโต๊ะของเลขานุการทุกคนในอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง ทุก ๆ
คืนเขาจะนับลูกอมที่ถูกทานไปและเติมกลับเข้าไปใหม่เช่นนี้เป็นเวลาสอง
สัปดาห์ติดต่อกัน ผลที่ได้ก็คือ ลูกอมจากขวดภาชนะใสลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดย
เลขานุการทานลูกอมจากขวดภาชนะใสบ่อยครั้งถึงร้อยละ 71
ซึ่งเท่ากับบริโภคพลังงานส่วนเกินไปกว่า 77 แคลอรี่ต่อวัน และ
ถ้าทานแบบนี้ทุกวันเป็นเวลาหนึ่งปี จะส่งผลทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น 2-3
กิโลกรัมเลยทีเดียว
นอกจากนี้
การนำอาหารไปวางไว้ในจุดที่เข้าถึงยากก็ส่งผลต่อปริมาณการทานอาหารของเรา
เช่นเดียวกัน เห็นได้จากผลการวิจัยจากเลขานุการอีกกลุ่มหนึ่ง
ที่ดร.แวนซิงค์ ได้ย้ายที่วางขวดภาชนะใสที่บรรจุลูกอมรสช็อกโกแลตไปเรื่อย ๆ
ทุก ๆ สัปดาห์ สัปดาห์แรกเขานำขวด
วางไว้บนโต๊ะทำงาน สัปดาห์ที่สองเขานำขวดไปไว้ในลิ้นชัก
และสัปดาห์ต่อมาเขาก็ย้ายขวดไปวางไว้บนตู้ที่ห่างจากโต๊ะทำงานถึงสองเมตร
ผลสุดท้ายก็พบว่า ลูกอมที่อยู่บนโต๊ะทำงานนั้นหยิบทานได้ง่ายที่สุด
ทำให้เลขาฯ ทานลูกอมตามใจปากโดยเฉลี่ยบ่อยถึง 9 ครั้งต่อวัน
ซึ่งต่างจากลูกอมที่วางอยู่บนตู้ที่พวกเขาต้องเดินไปหยิบ พบว่าเลขาฯ
เดินไปเพื่อหยิบลูกอมเพียงแค่ 4 ครั้งต่อวันเท่านั้น
จากผลการวิจัยของ ดร.ไบรอัน แวนซิงค์ จะเห็นได้ว่า การมีอาหารและขนมในที่ทำงานก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คน อ้วน ได้ง่าย
และหลายต่อหลายครั้งที่ทำงานของคุณก็เต็มไปด้วยบรรดาอาหารสุดแสนอร่อย
คุณจึงต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง และนำอาหารพวกนั้นออกไปให้พ้นจากสายตา
พร้อมเตรียมอาหารว่างเพื่อสุขภาพไว้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าเสมอ หลาย
ๆ
คนที่ให้คำมั่นว่าจะควบคุมอาหารอย่างจริงจังก็มักจะนำอาหารกลางวันมาทานเอง
จากบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการลงไปเห็นข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู
หรือแม้แต่ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว ที่อาจทลายความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเขาลงได้
ยิ่งไปกว่านั้น คุณควรหลีกเลี่ยงการซื้อขนมหรืออาหารว่าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาบ่าย 3-4 โมงเย็น
ซึ่งเป็นช่วงเวลาท้องร้องตอนบ่ายด้วย
ซูซาน โบเวอร์แมน ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจากเฮอร์บาไลฟ์
ยังได้แบ่งปันวิธีง่าย ๆ ที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้อาหารมารบกวนจิตใจของคุณ
ดังนี้1. วางอาหารในจุดที่หยิบทานได้ยากหรือวางไว้ให้ไกลตัวและสายตา ลองพยายามไม่ลงไปร้านสะดวกซื้อ หรือถ้าจะเดินไปเข้าห้องน้ำ อาจต้องพยายามหลีกเลี่ยงโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหาร ด้วยการเดินอ้อมไปทางอื่น
2. พกของว่างเพื่อสุขภาพติดตัวตลอดเวลา เช่น ผลไม้สด ถั่วต่าง ๆ ชีสไขมันต่ำ แครกเกอร์ธัญพืช หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำ
ขอบคุณบทความดีดี จาก เฮอร์บาไลฟ์