น้ำตาล ตัวร้ายทำลายสุขภาพ
?น้ำตาล?
น่ะถือเป็นตัวร้ายของสุขภาพคุณเลยแหละ มาดูซิว่า ?น้ำตาล?
ทำร้ายสุขภาพได้อย่างไรบ้าง ขนาด Jessica Biel ยังเคยประกาศเลยว่า
เธอจะไม่กินน้ำตาลและแป้ง แล้วนั่นคืออะไรอ่ะ เธอแค่โปรโมตร้านขายเบเกิลค่า
น้ำตาล?ตัวการความอ้วน
น้ำตาลให้พลังงานได้รวดเร็ว แต่ไม่ค่อยมีสารอาหารเท่าใดนัก
และเมื่อร่างกายใช้พลังงานที่รับเข้าไม่หมด
ตับก็จะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันไปสะสมทั่วร่างกาย
และเมื่อคุณติดใจในความหวาน คุณก็จะยิ่งกินหวานมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ทีนี้ไขมันก็จะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ และก็ตามมาด้วยโรคจากความอ้วนต่างๆน้ำตาล?มาพร้อมกับเบาหวาน
แม้ว่าโรคเบาหวานส่วนหนึ่งอาจเกิดจากพันธุกรรม
แต่ถ้าคุณติดหวานแม้จะไม่มีคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน
คุณก็อาจเป็นเบาหวานได้เหมือนกัน
ทางที่ดีควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะๆ
และควบคุมปริมาณอาหารหวานและออกกำลังกายดีกว่า
แค่นี้เบาหวานก็ห่างไกลจากตัวเราแล้วล่ะน้ำตาล?ทำลายสุขภาพฟัน
รู้มั้ยว่าการกินน้ำตาลเยอะๆ บ่อยๆ แล้วไม่ทำความสะอาดช่องปากให้ดี
อาจเกิดแบคทีเรียในช่องปากซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยน้ำตาล
ทำให้เกิดกรดและสารพิษออกมาจนทำให้เกิดโรคปริทันต์
และอาจทำให้คุณสุญเสียฟันได้ นอกจากนี้
โรคนี้ยังนำมาซึ่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ในช่องปากอีกด้วยน้ำตาล?ทำร้ายหัวใจ
ไม่ได้มีแค่ไขมันเท่านั้นที่ทำร้ายหัวใจ น้ำตาลหวานๆ
ก็ทำอันตรายหัวใจคุณได้เช่นกัน โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งบอกว่า
คนที่ได้รับพลังงานจากน้ำตาลเกิน 17.5% ของพลังงานทั้งหมด
จะมีไขมันเลวในกระแสเลือดสูงกว่าคนทั่วไป 20-30%
และหากพลังงานจากน้ำตาลเกิน 25%
ก็มีโอกาสที่ไขมันดีจะต่ำมากกว่าคนที่กินน้ำตาลน้อยถึง 3 เท่า
ทำให้คุณมีโอกาสเป็นหลอดเลือดหัวใจอุดตันหรือหัวใจวายได้ค่อนข้างสูงน้ำตาล?อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง
นักวิจัยบางคนเชื่อว่าน้ำตาลเป็นตัวเร่งการเติบโตและแพร่กระจายของเซลล์
มะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่คอนเฟิร์มว่าการกินหวานจัดๆ
จะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งให้สูงขึ้นได้ ดังนั้น
ถ้าไม่อยากเสี่ยงกับมะเร็งก็ต้องเลิกกินของหวานซะ4 วิธีหยุดกินน้ำตาลอย่างมีสติ
- ห้ามอดมื้อเช้า
เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มใช้แรงงานและสมองก่อนที่อาหารจะตกถึงท้อง
ระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดลงจะทำให้คุณหิว
และอาจคว้าของที่เพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้เร็วอย่างน้ำตาลเข้าปากได้ง่าย
ทำให้ 90% ของคนที่อดมื้อเช้า ?ติดหวาน?
- กินผลไม้น้ำตาลต่ำ ป้องกันความโหยของหวานระหว่างวันด้วยผลไม้อย่างฝรั่ง แอปเปิ้ล ชมพู่ พุทรา รับรองเฮลตี้สุดๆ
- เลี่ยงเครื่องดื่มหวานๆ รู้ไว้ว่าเครื่องดื่มดับกระหายที่ดีที่สุดก็คือน้ำเปล่า หากต้องการกาเฟอีนก็ควรเลือกดื่มชาดำหรือกาแฟดำ
- ดีท็อกซ์ความหวานบ้าง เราไม่ได้บอกให้คุณไปเข้าคอร์สที่ไหนหรอกนะ
แต่อดรสหวานสัก 2-3 วันเดี๋ยวคุณก็จะรู้สึกดีขึ้นเอง แต่ถ้าหักดิบไม่ไหว
ก็ค่อยๆ กินหวานให้น้อยลง ไม่นานคุณก็จะไม่กินหวานไปเอง
ตกใจมั้ยล่ะ
เมื่อเห็นว่าน้ำตาลที่เพิ่มความอร่อยให้มื้ออาหารทำร้ายสุขภาพเราได้มากขนาด
นี้ แต่อย่าเพิ่งกังวลไป ก็แค่ลดหวานซะ
แค่นี้สุขภาพดีก็จะอยู่กับคุณไปอีกนานแล้วล่ะ