9 เรื่องผิด ๆ ของการกินมื้อเช้า ทำแบบนี้รู้ไว้ ยังไงก็ไม่ผอม !
อาหารเช้าสำคัญกับสุขภาพ และช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย แต่ถ้ายังทำสิ่งเหล่านี้อยู่ ก็บอกได้เลยว่าไม่มีทางผอมอย่างแน่นอน
เป็น
ความจริงที่ว่ามื้อเช้า คืออาหารมื้อสำคัญที่สุดของวัน
แถมการรับประทานอาหารเช้ายังช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้อย่างมี
ประสิทธิภาพอีกด้วย ทว่ากลับมีหลาย ๆ คนที่ยังทานอาหารเช้ากันแบบผิด ๆ
จนทำให้ลดความอ้วนไม่สำเร็จ แถมน้ำหนักยังขึ้นมากกว่าเดิมอีกต่างหาก
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่แม้จะควบคุมอาหารในมื้ออื่น ๆ
และออกกำลังกายอย่างเคร่งครัดแล้ว แต่ก็ยังลดน้ำหนักไม่ลง
ลองหันกลับมาเช็กเดี๋ยวนี้เลยว่า ในมื้อเช้าคุณยังทำอยู่หรือเปล่า
ถ้าทำอยู่ละก็ รีบเปลี่ยนซะ !
1. ไม่ยอมกินอาหารเช้า
การไม่ยอมกินมื้อเช้าเพราะต้องการควบคุมแคลอรีเป็นความคิดที่ผิดมหันต์
โดยการศึกษาจาก Imperial College ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
พบว่าการที่เราไม่ยอมรับประทานอาหารเช้า
จะทำให้นึกถึงอาหารที่มีแคลอรีสูงมากขึ้น
และเป็นสาเหตุทำให้เลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูง
หรือรับประทานในปริมาณที่มากกว่าปกติในมื้อต่อ ๆ ไป
ซึ่งจะทำให้แผนการลดน้ำหนักของคุณพังในที่สุดค่ะ
2. ทานอาหารเช้าไม่ตรงเวลา
โดย
ปกติแล้วเวลาที่เหมาะสำหรับการทานอาหารเช้ามากที่สุดก็คือประมาณ 1
ชั่วโมงหลังจากตื่นนอน
แต่คนส่วนใหญ่มักจะปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วจึงค่อยรับ
ประทานมื้อเช้า บ้างก็ว่าไม่หิว
หรือมีสิ่งที่ต้องทำจนทำให้ต้องกินมื้อเช้าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
ขอบอกค่ะว่ายิ่งรับประทานมื้อเช้าสายมากเท่าใด
ก็ยิ่งจะทำให้คุณหิวและกินเยอะขึ้น
แถมยังมีโอกาสเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูงเพื่อทดแทนความหิว
นอกจากนี้ยังอาจทำให้คุณไม่อยากกินมื้อเที่ยง แต่กลับไปหิวตอนบ่ายแทน
และลงเอยด้วยการรับประทานจุบจิบ
ถ้าไม่อยากให้ความตั้งใจในการควบคุมน้ำหนักพัง
รับประทานอาหารเช้าให้ตรงเวลากันดีกว่าค่ะ
3. ไม่ใส่ใจกับอาหารเช้า
ในสังคมที่ต้องแข่งกับเวลา
ทำให้หลายคนเลือกที่จะรับประทานมื้อเช้าที่สะดวกมากกว่าจะเลือกรับประทาน
อาหารที่มีประโยชน์
ซึ่งการที่เราไม่ใส่ใจกับอาหารเช้าที่เรากินกันทุกวันนี่ล่ะ
คือบ่อเกิดของความอ้วน เพราะเมื่อเรารับประทานมื้อเช้าที่มีสารอาหารไม่ครบ
ก็จะทำให้เราหิวบ่อย และกินมากขึ้นเพื่อทดแทนส่วนที่ขาดไป
รู้แบบนี้แล้วรีบเปลี่ยนตัวเองกันเถอะค่ะ หันมาใส่ใจกับอาหารเช้าให้มากขึ้น
เลือกรับประทานมื้อเช้าที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เพียงพอ
อาจจะทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้นอีกหน่อย แต่ดีกับสุขภาพมากกว่านะ
4. เลี่ยงแป้ง งดไขมัน ลดโปรตีน
คาร์โบ
ไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ล้วนเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย
แต่หลายคนกลับรู้สึกว่าการลดปริมาณอาหารเหล่านี้ลงจะช่วยลดน้ำหนักได้
ซึ่งก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด
โดยเฉพาะกับมื้อเช้าที่เป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุดของวัน
ถ้าหากเราได้รับปริมาณคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนไม่เพียงพอ
ก็จะเรารู้สึกหิวได้ง่ายขึ้น และกินมากขึ้นในมื้อต่อ ๆ ไปแบบไม่รู้ตัว
แถมยังส่งผลให้เกิดการกินจุบจิบเพื่อบรรเทาความหิวอีกด้วย รู้แบบนี้แล้ว
อย่ามัวแต่กลัวว่าตัวเองจะกินแป้ง ไขมัน หรือโปรตีนมากเกินไป
แต่ควรกินให้เพียงพอดีกว่าเนอะ
5. ดื่มกาแฟที่มีครีมและน้ำตาลมากเกินไป
กาแฟช่วยทำให้ร่างกายตื่นตัวกระชุ่มกระชวยได้
เพราะกาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีน
แต่ถ้าหากยังคงดื่มกาแฟที่เต็มไปด้วยครีมและน้ำตาล
ถึงจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัว
แต่ปริมาณไขมันและน้ำตาลที่เข้าสู่ร่างกายก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย
คงไม่ต้องพูดถึงว่าถ้าดื่มเป็นประจำทุกวันตอนเช้าจะทำให้อ้วนขึ้นได้ขนาดไหน
ฉะนั้น เปลี่ยนมาดื่มกาแฟดำกันดีกว่าค่ะ
ถ้าหากดื่มไม่ไหวละก็ลองเติมนมพร่องมันเนย
หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลอย่างหญ้าหวานที่ดีต่อร่างกายลงไป
แบบนี้จะได้ตื่นตัวแบบไม่ต้องกลัวอ้วนยังไงล่ะ
6. ดื่มสมูธตี้แทนอาหารเช้า
สมูธตี้
เป็นเครื่องดื่มสุขภาพอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง
เพราะแก้วเดียวก็มีสารอาหารครบ จนทำให้หลาย ๆ
คนถึงกับดื่มเจ้าสมูธตี้แทนอาหารเช้าไปเลยก็มี
แต่ต้องขอบอกว่าถ้าหากคิดจะลดน้ำหนักละก็
การดื่มสมูธตี้เป็นมื้อเช้าไม่ใช่ความคิดที่ดีค่ะ เพราะว่าเมื่อเราหิว
สิ่งที่จะสั่งการให้สมองรู้สึกอิ่มได้ก็คือการเคี้ยวอาหาร
ซึ่งสมูธตี้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่ม จึงไม่สามารถทำให้รู้สึกอิ่มได้เต็มที่
และจะส่งผลให้รู้สึกหิวในระหว่างมื้ออาหารได้
ฉะนั้นหากอยากดื่มสมูธตี้เป็นมื้อเช้าก็ควรจะมีอาหารอื่น ๆ ร่วมด้วย
เพื่อที่จะได้เติมเต็มความอิ่มกันได้แบบเต็มร้อย
7. ดื่มน้ำผลไม้แทนการรับประทานผลไม้สด
น้ำผลไม้เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ เหมาะกับการเริ่มต้นวันใหม่
จึงเป็นเครื่องดื่มที่มีบนโต๊ะมื้อเช้า
แต่ก็อย่าลืมว่าน้ำผลไม้สำเร็จรูปที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวันนี้
มีส่วนผสมของน้ำตาลสูงมาก ทำให้มีปริมาณแคลอรีสูงกว่าที่ควรจะเป็น
ถ้าไม่อยากจะเจอกับปริมาณแคลอรีที่มหาศาลจากน้ำผลไม้ตั้งแต่เช้า
ลองหันมารับประทานผลไม้สดแทนการดื่มน้ำผลไม้กันดีกว่าค่ะ
ได้ประโยชน์จากผลไม้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นแร่ธาตุ และวิตามิน
แถมยังมีไฟเบอร์ให้อิ่มท้องอีกด้วย
แต่ก็ต้องเลือกรับประทานผลไม้ให้ถูกชนิดนะ เลือกที่หวานน้อย และไฟเบอร์สูง
อย่างเช่น ส้ม แตงโม และมะละกอ เป็นต้น
8. ให้ความสำคัญกับซูเปอร์ฟู้ดมากเกินไป
สมัย
นี้มีซูเปอร์ฟู้ดให้เลือกมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดเจีย
น้ำมันมะพร้าว เมล็ดแฟล็กซ์ ถั่วเปลือกแข็ง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทำให้บรรดาคนที่รักสุขภาพและลดน้ำหนักต่างสรรหามารับประทาน
แต่รู้หรือไม่ว่า การรับประทานซูเปอร์ฟู้ดหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน
โดยไม่ได้คำนึงถึงปริมาณก็อาจจะทำให้มื้อเช้าของคุณมีปริมาณแคลอรีมากเกินไป
แทนที่จะได้ประโยชน์เพื่อสุขภาพ
ก็ได้ตัวเลขบนตราชั่งเพิ่มขึ้นมาเป็นของแถม แบบนี้ไม่ดีแน่เลยล่ะ
9. ดื่มน้ำเปล่าน้อยเกินไป
การดื่มน้ำเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กับการเลือกรับประทานอาหาร
แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ดื่มน้ำเปล่าน้อยเกินไปในช่วงมื้อเช้า
เพราะกลัวว่าจะไปปวดปัสสาวะขณะเดินทาง ถ้าคุณกำลังเป็นอย่างนั้น
ขอให้เปลี่ยนความคิดใหม่โดยด่วนค่ะ
เพราะการดื่มน้ำในมื้อเช้าจะช่วยทำให้อิ่มไว และอิ่มนานขึ้น
อีกทั้งยังช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่อง
ดื่มที่มีน้ำตาลหรือคาเฟอีนเลยล่ะ
รู้แบบนี้แล้วตื่นนอนมารีบดื่มน้ำเปล่าสักแก้วเลยนะคะ
การ
รับประทานมื้อเช้าอย่างเพียงพอและเหมาะสม ไม่ได้แค่ช่วยทำให้ไม่หิวบ่อย
และกินจุบจิบเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่าพร้อมรับกับวันใหม่ได้
ฉะนั้นรีบเปลี่ยนพฤติกรรมการกินมื้อเช้าที่ผิด ๆ ให้ถูกต้องกันดีกว่า
เพื่อสุขภาพที่ดีของเราทั้งวันนี้และวันหน้าค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
bodybuilding
jaimerosenutrition
thecandidadiet
dwfitnessclubs