สัญญาณเตือนและวิธีรับมือกับ 6 อาการปวดหัวที่แตกต่างกัน

ไม่ดีเลยที่อาการปวดหัวมักเกิดขึ้นบ่อยในชีวิตประจำวันของเรา ดังนั้นเราจึงหาวิธีจัดการกับอาการที่แตกต่างกันเหล่านี้

คนส่วนใหญ่มักจะใช้ยาในการรักษากับอาการปวดหัว แต่มันจะดีมากถ้าเรารู้ถึงอาการปวดหัวในรูปแบบต่างๆที่แตกต่างกันออกไป

นี่คือประเภทของอาการปวดหัวที่คุณอาจเคยประสบมาแล้ว

1.อาการปวดศีรษะคลัสเตอร์ (Cluster Headache)การปวดศรีษะชนิดนี้มีผลกระทบต่อทั้งชายและหญิง แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่เมื่อเกิดขึ้นอาการจะรุนแรงมากสาเหตุของอาการปวดศรีษะชนิดนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มักจะเกี่ยวข้องกับเส้นประสาทหรือสมองทำงานผิดปกติ ซึ่งแตกต่างจากอาการปวดหัวไมเกรน อาการปวดหัวชนิดนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในบางช่วงเวลา สำหรับอาการ จะมีอาการอ่อนเพลียหรือมีอาการปวดรุนแรงที่ด้านข้างของศีรษะและบริเวณดวงตาของคุณ

2.ปวดศรีษะบริเวณต้นคออาการปวดหัวชนิดนี้จะเกิดบริเวณต้นคอหรือส่วนท้ายทอยของศรีษะ จากนั้นอาการปวดจะย้ายลงไปยังหน้าผากและส่งผลกระทบต่อหูและบริเวณด้านข้างดวงตา อาการปวดชนิดนี้จะเรื้อรังและมีความรุนแรงที่แตกต่างกัน มันจะเรียกว่าโรคปวดคอรวมกับปวดศีรษะ (cervicogenic headache) มันเกี่ยวกับความเครียดจากอาการปวดหัวไมเกรน สามอันดับแรก เกี่ยวกับปัญหาของกระดูกสันหลังคอ ความเสียหายของเส้นประสาท ไปจนถึง เส้นประสาทไขสันหลัง

ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการปวดหัวชนิดนี้มากกว่าผู้ชาย ประมาณ 15-20% ผู้ป่วยจะบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าการปวดหัวด้านข้างเกี่ยวข้องกับโรคปวดคอรวมกับปวดหัว

3.ปวดศรีษะไมเกรนอาการปวดศรีษะไมเกรนเป็นที่รู้กันดีว่า เริ่มจากมีอาการปวดแปลบแก้วหูในตอนเช้า และจะปวดมากขึ้นเมื่อเคลื่อนใหวร่างกาย และไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆเช่นแสง กลิ่น เสียง จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเกิดจุดขึ้นในสายตาของคุณ ฯลฯ

อาการปวดหัวไมเกรนเกิดจากหลายปัจจัย แต่ส่วนใหญ่เกิดจากความเครียด มีผลกระทบต่อคนที่มีอารมณ์เปราะบาง บ่อยครั้งที่อาการปวดหัวชนิดนี้เกิดขึ้นได้ในระหว่างมีประจำเดือน ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวชนิดนี้ เช่น มีพฤติกรรมการกินผิดปกติ การสูบบุหรี่ และนอนไม่หลับ

4.ปวดหัวจากช่องไซนัส Sinus headachesอาการปวดหัวจากช่องไซนัส เกิดขึ้นในบริเวณรูจมูกและทวีความรุนแรงระหว่างดวงตา การเคลื่อนใหวศรีษะ ก้มหัวหรือการนอนทำให้เจ็บปวดมากขึ้น อาการปวดหัวชนิดนี้ จะไม่มีน้ำมูก ซึ่งหมายความว่ามันเป็นอาการปวดหัวที่ไม่เกี่ยวกับโพรงจมูก

อาการปวดไมเกรนและปวดหัวไซนัส สามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาเดียวกัน อาการปวดหัวไมเกรนแตกต่างจากอาการปวดหัวไซนัสที่ก่อให้เกิดปัญหากับสายตา และจุดนี่ทำให้คุณสามารถแยกความแตกต่างระหว่างพวกมันได้

5.อาการปวดหัว TMJคนจำนวน 75 ล้านคนได้รับผลกระทบจากอาการปวดหัวประเภทนี้ ซึ่งมันมีอาการเรื้อรัง ไม่เพียงแค่ปวดเป็นบางครั้งบางเวลาแต่มันมีอาการปวดตลอดเวลา อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ ฟันบิ่นหรือฟันหัก การอุดฟัน รวมไปถึงลักษณะรอยยิ้มที่เปลี่ยนไป มันเกิดขึ้นจากอาการเกร็งกล้ามเนื้อที่เกิดจากความเครียด

ในการแก้ปัญหานี้ ร่างกายจะต้องส่งเลือดไปยังบริเวณที่ได้รับผลกระทบ เว้นแต่ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดการตึงขึ้นที่ขากรรไกร ลำคอ และไหล่ รวมไปถึงอาการอื่น ๆ เช่น การกัดฟัน

6.อาการปวดหัวรุนแรงนี้อาจจะเป็นอาการปวดหัวที่พบมากที่สุด และทุกคนต่างเคยมีประสบการณ์กันมาแล้ว โดยทั่วไปอาการของมันจะกินเวลานานหลายชั่วโมงและส่งผลไปถึงขมับ หน้าผาก แก้ม และลำคอ

แม้จะจัดการกับมันแล้วก็ตาม แต่ก็ยังรู้สึกถึงอาการตึงแน่นในหัวจนแทบทนไม่ได้ อย่างไรอาการปวดหัวชนิดนี้จะเป็นในระดับปานกลาง นอกเสียจากปัจจัยบางอย่างที่สามารถกระตุ้นให้กลายเป็นความรุนแรงมากขึ้น

โดยปกติจะเกิดขึ้นในตอนเช้าหรือตอนเย็น การกินยาหรือใช้วิธีรักษาทางธรรมชาติคือคำแนะนำในการรับมือกับอาการนี้