เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ 3 ข้อ ที่บอกว่าคุณควรเลิกกินซอสมะเขือเทศสำเร็จรูปแบบขวดได้แล้ว
เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ 3 ข้อ ที่บอกว่าคุณควรเลิกกินซอสมะเขือเทศสำเร็จรูปแบบขวดได้แล้ว
เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ 3 ข้อ ที่ทำไมคุณไม่ควรใส่ซอสมะเขือเทศสำเร็จรูปแบบขวดลงในอาหารของคุณอีก
หากพูดถึง หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนชอบใส่ลงไปในอาหารมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น ซอสมะเขือเทศ!
เวลาที่คุณไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด คุณจะเห็นหลายคนใส่ซอสมะเขือเทศสำเร็จรูปแบบขวดลงไปในเฟรนช์ฟราย เบอร์เกอร์ พิซซ่า ไก่ทอด ไข่คน หรือพาสต้า อย่างไรก็ตาม มีคนไม่มากนักที่ใส่ใจกับคุณค่าทางสารอาหารที่แปะอยู่ในตารางหลังขวดก่อนที่จะใช้มัน
หากเรากำลังพูดถึงคุณอยู่ คุณควรต้องตระหนักถึงนิสัยเหล่านี้บ้าง ก่อนอื่น เราจะแจ้งให้คุณทราบถึงส่วนประกอบของซอสมะเขือเทศสำเร็จรูปแบบขวด ซึ่งมีดังต่อไปนี้
น้ำเชื่อมข้าวโพดผงปรุงแต่งรสธรรมชาติน้ำส้มสายชูกลั่นเครื่องเทศผงหัวหอมน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูงเกลือน้ำมะเขือเทศเข้มข้นที่ได้จากมะเขือเทศสุกสีแดง
ความจริงก็คือส่วนผสมเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติ แม้แต่น้ำมะเขือเทศเข้มข้นที่ได้จากมะเขือเทศสุกสีแดงก็เป็นเพียงคำศัพท์ที่ถูกบัญญัติขึ้นมาเท่านั้น ส่วนประกอบเหล่านี้ได้สูญเสียคุณค่าทางสารอาหาร และไม่มีโภชนาการใดๆต่อร่างกาย
ซอสมะเขือเท ศสำเร็จรูปแบบขวดมีส่วนผสมเป็นน้ำเชื่อมข้าวโพดและเกลือเกรดต่ำ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิต อีกทั้งเกลือชนิดนี้ยังจะไปเพิ่มสารพิษในร่างกายคุณ เมื่อทานเข้าไปแล้ว ยังทำให้คุณรู้สึกไม่สบายด้วย
และนี่คือ 3 เหตุผลที่ทำไมคุณถึงควรหยุดใช้ซอสมะเขือเทศสำเร็จรูปแบบขวด
1. ซอสมะเขือเทศมีน้ำเชื่อมข้าวโพดที่มีฟรุกโตสสูง
น้ำเชื่อมข้าวโพดที่มีฟรุกโตสสูงมีสารพิษรุนแรง เนื่องจากข้าวโพดที่ใช้คือข้าวโพดจีเอ็มโอ และน้ำเชื่อมก็จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ นอกจากนี้อาจมีปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมา เช่นปัญหาด้านระบบภูมิคุ้มกัน โรคเบาหวาน และโรคอ้วน
2. น้ำส้มสายชูกลั่นและน้ำตาล
สิ่งที่คุณควรรู้อีกอย่างคือน้ำส้มสายชูกลั่นนับเป็นสิ่งเลวร้ายต่อสุขภาพของคุณ มันทำมาจากข้าวโพดจีเอ็มโอ ซึ่งเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลงและสารกันบูดมากมายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ
3. คุณค่าทางโภชนาการเป็นศูนย์
ในซอสมะเขือเทศมีโปรตีน เส้นใยอาหาร และแร่ธาตุเท่ากับศูนย์ อย่างไรก็ตาม คุณอาจอยากรู้ว่ามันมีวิตามินเอและซี 2% ซึ่งถือว่าน้อยนิดเกินกว่าจะพูดถึงด้วยซ้ำ
ที่มา...news.thaiza.com