14 เทคนิค กินบุฟเฟ่ต์ อิ่มได้ ไม่เสียสุขภาพ
อาหารบุฟเฟ่ต์ ปัจจุบันมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน
มีกระแสความนิยมเพิ่มขึ้นจนบางร้านต้องรอคิวกว่าชั่วโมงเพื่อเข้ารับประทาน
เหตุนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า บุฟเฟ่ต์
ได้เข้ามาเป็นวัฒนธรรมการบริโภคของสัมคมไทยไปแล้ว
ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายสามารถกินได้แบบไม่อั้น ?อาหารบุฟเฟ่ต์?
จึงกลายเป็นอาหารยอดนิยมของกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา
โดยการกินบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่มักจะคิดถึงความคุ้มทุนโดยจะพยายามกินอาหารปริมาณ
มาก หรือเลือกกินอาหารราคาแพง เพื่อจะให้คุ้มค่ากับราคาทั้งนี้
ร่างกายนำพลังงานจากอาหาร มาใช้กิจกรรมต่าง ๆ เช่น นั่ง นอน ยืน เดิน ทำงาน
ออกกำลังกาย ถ้าได้รับพลังงานมากเกิน
ความต้องการร่างกายจะนำพลังงานส่วนเกินนั้นไปเก็บสะสมในรูปไขมันเพื่อเป็น
พลังงานสำรอง ถ้ามีการสะสมของไขมันมากขึ้นก็จะนำไปสู่โรคอ้วน
และนำไปสู่โรคต่างๆวันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ ที่จะทำให้ทุกครั้งที่ กินบุฟเฟ่ต์ ?อิ่ม คุ้มค่า ไม่เสียสุขภาพ?
1. กินน้อย ก่อนกินมาก
จำไว้ให้ขึ้นใจเลยว่า ?การอดอาหารเพื่อกะไปกินบุฟเฟต์กับเพื่อนๆ
ให้คุ้มนั้นไม่คุ้มอย่างที่คิด?
เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายลดการเผาผลาญพลังงานลงแล้ว
เรายังอาจรู้สึกหิวมากเกินไปตอนไปกินบุฟเฟต์
ดังนั้นควรเลือกกินอาหารในแต่ละมื้อให้น้อยลงก่อนไปกินบุฟเฟต์สัก 1 วัน
หรือ 1-2 มื้อ (ถ้าหิวมากจนอดใจไม่ไหว ก็ควรกินผลไม้หรือดื่มนมไขมันต่ำ
และตามด้วยน้ำเปล่ารองท้อง) แต่ถ้ามีเหตุให้ต้องไปกินแบบไม่ทันได้เตรียมตัว
ก็ควรลดอาหารในวันหลังจากนั้นให้น้อยลง2. ?ลุกเดิน? วอร์มอัพ ก่อนหรือหลังกินบุฟเฟต์
?การเดิน? เป็นกิจกรรมทางกายที่ง่ายสุดๆ ฉะนั้นจะลุกขึ้นมาเดินเพิ่มขึ้น
20-30 นาที ประมาณ 5-7 วัน ก่อนหรือหลังไปกินบุฟเฟต์
ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินความสามารถ3. เสื้อผ้าก็สำคัญควรใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัว ไม่ควรใส่ชุดหลวมๆ เพราะเราอาจเพลิดเพลินกับอาหารจนกินเกินอิ่มได้ง่ายๆ
4. ไกลไว้ดีกว่าใกล้การเลือกที่นั่งไกลจากซุ้มอาหาร ช่วยให้เราได้เพิ่มการใช้พลังงานทุกครั้งที่เดินมาตัก
5. สำรวจร้านเตรียมรับมือ
ชิงเดินสำรวจอาหารทั้งหมดให้เรียบร้อย
เพื่อที่จะได้วางแผนการรบกับกองทัพอาหารได้ถูกว่าควรเลือกเอาอะไรใส่ปากบ้าง
และไม่ต้องเจอกับสถานการณ์ประเภท ?อิ่มแล้ว แต่เพิ่งเดินมาเห็น?
แถมยังได้เดินเพิ่มก้าวอีกเล็กน้อยด้วย6. จานเล็กช่วยได้
การหยิบจานเล็กใส่อาหารเหมือนไม่น่าจะช่วยอะไรเท่าไหร่
แต่เรื่องนี้มีการศึกษามาแล้วและพบว่าการลดขนาดจานลง 2 นิ้ว
ช่วยให้เรากินอาหารลดลงถึงร้อยละ 227. สลัดมาจานแรกควรเลือกตักสลัด (น้ำสลัดน้อยๆ) เป็นจานแรก
8. ไม่ติดมัน ไม่เอาน้ำผัด
ควรเลือกกินเนื้อสัตว์ประเภทต้มหรือนึ่ง ถ้าปิ้งย่างก็ไม่เอาแบบไหม้เกรียม
ส่วนพวกเนื้อติดมัน น้ำผัด และชุบแป้งชุบไข่ทอดนี่อยู่ให้ห่างไว้9. ตักเผื่อล้นโต๊ะ
การมีน้ำใจถือเป็นสิ่งดี แต่การตักเผื่อคนอื่นเวลากินบุฟเฟต์นั้น
อาจทำให้มีอาหารล้นโต๊ะ ควรตักอาหารแต่ละชนิดไม่เกิน 1-2 ช้อน
และตักทีละจานก็พอแล้ว10. ผ้าเช็ดปากเตือนสติแค่เอาผ้าเช็ดปากมาวางไว้บนตัก เราก็สามารถรู้ตัวทุกครั้งเวลาที่ลุกไปตักอาหาร และจะได้บังคับตัวเองไม่ให้ลุกจนเพลิน
11. สนทนาละความสนใจ
มากินบุฟเฟต์ทั้งทีจะเน้นกินอย่างเดียวก็คงกระไรอยู่
ควรหันไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมโต๊ะให้มากขึ้นจะได้ช่วยดึงความสนใจของเราออก
จากอาหารและกินอาหารได้น้อยลง12. น้ำเปล่าดีที่สุดน้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลมก็ล้วนเป็นเครื่องดื่มเพิ่มแคลอรีทั้งนั้น เพราะฉะนั้นหันมาดื่มน้ำเปล่าดีกว่า
13. ตัดทิ้งแอลกอฮอล์การดื่มแอลกอฮอล์นอกจากจะทำให้เรามีภาวะขาดน้ำแล้ว ยังกระตุ้นให้เราดื่มน้ำหรือกินอาหารเพิ่มขึ้นฉะนั้นเมินได้ก็เมินเถอะ
14. โปรดระวังไขมันแอบแฝง
หลีกเลี่ยงไขมันแอบแฝงซึ่งซุกซ่อนอยู่ใน เนย น้ำสลัด (ไม่ว่าจะเป็น
น้ำใสหรือน้ำข้น) รวมถึงเกลือแอบแฝงที่อยู่ในบรรดาซอสต่างๆ (ซอสพริก
ซอสมะเขือเทศ) หรือกระทั่งครีมทาร์ทาร์ และน้ำจิ้มเอง
ก็ควรจิ้มให้น้อยที่สุดการกินอาหารที่ดี จะต้องใส่ใจว่าเรากินเข้าไปมากน้อยเพียงใด
รู้จักการควบคุม ?แคลอรี่? หรือปริมาณ พลังงานของอาหารที่กิน
โดยผู้ชายควรได้รับพลังงานประมาณวันละ 2,000 กิโลแคลอรี และผู้หญิง วันละ
1,600 กิโลแคลอรี ปริมาณที่ว่านี้ รวมทั้งอาหารคาวและหวาน อาหาร 1
มื้อควรได้แคลอรี่ประมาณ 400-700 กิโลแคลอรี่
โดยอาหารเย็นเป็นมื้อที่มีแคลอรีต่ำกว่ามื้ออื่นๆ อาหารว่าง
ต้องจำกัดให้น้อยกว่า 200 กิโลแคลอรีในแต่ละครั้ง และเมื่อรวมกับ
อาหารมื้อหลักทั้งวันแล้วต้องไม่เกินปริมาณที่กำหนด ลด
หรืองดอาหารที่ให้พลังงานสูง อาหารรสจัด
และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง
เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ หรืออาหารทั่วไปก็ตามหากกินมากเกินไป
ก็สามารถทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ มากมาย ความคุ้มค่าของราคาและปริมาณ
อาจเทียบไม่ได้กับค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น
กินอย่างพอดี เสริมกิจกรรมทางกาย เพื่อสุขภาพที่ดีกันนะคะเรื่องโดย : กิดานัล กังแฮ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลและภาพประกอบจาก : หนังสือ?คิดเอง ทำได้
ห่างไกลโรค?เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และ
หนังสือ ? เดินศาสตร์? โครงการรักเดิน สสส. ร่วมกับ นิตยสารหมอชาวบ้าน