14 สัญญาณที่บอกให้รู้ว่าน้ำตาลในเลือดของคุณสูงมากแล้ว
ระดับน้ำตาลในเลือดในร่างกายแสดงถึงปริมาณของน้ำตาลกลูโคสในเลือด ซึ่งเป็นประเภทของน้ำตาลที่เป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับร่างกาย เมื่อคุณรับประทานกลูโคสผ่านอาหาร มันจะถูกกระจายไปยังทุกเซลล์ทั่วร่างกาย ระดับกลูโคสในเลือดสูง (น้ำตาลในเลือด) หรือในทางเทคนิค เรียกว่าภาวะในเลือดมีน้ำตาลมาก จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลกลูโคสได้อย่างเหมาะสม (โรคเบาหวานชนิดที่ 2) หรือมีจำนวนน้ำตาลไม่เพียงพอ (โรคเบาหวานชนิดที่ 1)
หากคุณเป็นเช่นนี้นานวันเข้า เป็นเดือน หรือเป็นปี มันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างถาวรต่อบางส่วนของร่างกาย รวมทั้ง ไต เส้นเลือด เส้นประสาท และตา ในผู้ป่วยโรคเบาหวานระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยที่แตกต่างกัน เช่นดังต่อไปนี้:
รักษาอาการภาวะในเลือดมีน้ำตาลมากเกินไป (น้ำตาลในเลือดต่ำ)
ทานยารักษาโรคเบาหวานผิดหรือทานผิดขนาด
ขาดการออกกำลังกาย
ความเครียด
การเจ็บป่วย เช่น ไข้หวัด
การสูญเสียน้ำ
ทานมากเกินไป เช่น ทานขนมระหว่างมื้ออาหาร
ยาบางประเภท เช่น ยารักษาโรคเสเตียรอยด์
นอกจากนี้เด็กและวัยรุ่นอาจต้องพบกับอาการน้ำตาลในเลือดสูงเป็นบางครั้งคราวขณะที่ร่างกายกำลังมีการเจริญเติบโต
อาการของน้ำตาลในเลือดสูง
ระดับน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มสูงขึ้นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเป็นโรคเบาหวานเสมอไป ในบางกรณี ผู้ที่มีภาวะในเลือดมีน้ำตาลมากก็ไม่ได้มีสัญญาเตือนโรคใดๆ
อย่างไรก็ตาม อาการต่อไปนี้คืออาการทั่วไปของผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูง
ปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะระหว่างคืน
ตาพร่ามัว
ไม่สามารถตั้งสมาธิจดจ่อได้
ปากแห้ง
อ่อนแอ
ติดเชื้อซ้ำ
การรักษาแผลที่เกิดขึ้นได้ช้า
มีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหาร
เหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าอย่างมาก
มีความกระหายเพิ่มขึ้น
ผิวแห้งและคัน
มีความหิวอย่างต่อเนื่อง
มีไขมันหน้าท้องหรือน้ำหนักเพิ่มสูง
ปัญหาเส้นประสาท
ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยอาหารลดค่าน้ำตาล
ค่าดัชนีน้ำตาลหรือค่าน้ำตาลจะเป็นการบอกจำนวนของคาร์โบไฮเดรตในอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด และแบ่งได้ตั้ง 0 ถึง 100
อาหารที่ค่าดัชนีน้ำตาลสูงประมวลผลได้เร็วกว่าอาหารค่าดัชนีน้ำตาลต่ำสูงมาก ดังนั้นหลังการบริโภคจะช่วยลดระดับอินซูลิน นอกจากนี้อาหารเหล่านั้นยังมีประโยชน์สำหรับการลดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
ต่อไปนี้คือค่าดัชนีน้ำตาลของอาหารแต่ละประเภท
อาหารค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลระหว่าง 0-54 คืออาหารค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ คุณควรบริโภคมันในแต่ละวัน)
ไข่หนึ่งฟอง = 0
ฮัมมูสหนึ่งถ้วย = 6
บร็อคโคลี่หนึ่งถ้วย = 10
หัวหอมขนาดกลางหนึ่งลูก = 10
วอลนัทหนึ่งถ้วย = 15
เชอร์รี่หนึ่งถ้วย = 22
เม็ดมะม่วงหิมพานต์หนึ่งถ้วย = 22
โยเกิร์ตหนึ่งถ้วย = 23
ไส้กรอกเนื้อไก่งวงหนึ่งชิ้น = 28
ถั่วแดงหนึ่งถ้วย = 31
เนยถั่วหนึ่งถ้วย = 34
น้ำมะเขือเทศ 8 ออนซ์ = 38
แอปเปิ้ลขนาดกลางหนึ่งลูก = 38
สปาเกตตีหนึ่งถ้วย = 42
องุ่นเขียวหนึ่งถ้วย = 46
น้ำสัปปะรด 8 ออนซ์ = 46
แครอทลูกใหญ่หนึ่งลูก = 47
ส้มขนาดกลางหนึ่งลูก = 48
ส้มโอลูกใหญ่หนึ่งลูก = 50
กล้วยลูกใหญ่หนึ่งลูก = 52
ถั่วหนึ่งถ้วย = 54
อาหารค่าดัชนีน้ำตาลกลาง (อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลระหว่าง 55-69 คืออาหารค่าดัชนีน้ำตาลในระดับกลาง คุณควรบริโภคมันในปริมาณปานกลาง)
ข้าวกล้องหนึ่งถ้วย = 55
น้ำผึ้งหนึ่งช้อนโต๊ะ = 55
ข้าวโอ๊ตบดหนึ่งถ้วย = 58
ข้าวสีขาวทั่วไปหนึ่งถ้วย = 64
มักกะโรนีที่เสิร์ฟพร้อมกับชีสหนึ่งจาน = 64
อาหารค่าดัชนีน้ำตาลสูง (อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลระหว่าง 70-100 คืออาหารค่าดัชนีน้ำตาลในระดับสูง และการบริโภคมันเป็นประจำจะเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพมากมาย เป็นอาหารที่แนะนำให้หลีกเลี่ยง)
ขนมปังสีขาวทั่วไปหนึ่งชิ้น = 70
ป็อปคอร์นสองถ้วย = 72
โดนัทหนึ่งชิ้น = 76
เค้กข้าวหนึ่งชิ้น = 78
มันฝรั่งอบขนาดกลางหนึ่งชิ้น = 85
คอร์นเฟลคหนึ่งถ้วย = 92
กลูโคส 50 กรัม = 100
การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องส่งผลต่อปัญหาสุขภาพของเรา โดยเฉพาะปัญหาเรื่องระดับน้ำตาลในเรื่อง ดังนั้น หากคุณมีอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดสูงดังที่กล่าวมาข้างต้น คุณควรปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหาร และพยายามรักษาสมดุลของร่างกายให้เป็นไปตามธรรมชาติ ก่อนที่มันจะเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมา