ทึ่งมากๆ น้ำตาสามารถรักษาอาการเหล่านี้ได้

การร้องไห้เป็นการกำจัดอารมณ์เชิงลบ แต่นอกจากนี้ น้ำตายังสามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรีย หรือทำปฏิกิริยากับสารเคมีบางอย่างได้อีกด้วย แน่นอนว่าน้ำตาไม่ได้เป็นสัญญาณของความอ่อนแอหรือสิ่งที่ไม่ดี บางครั้งการร้องไห้ก็เป็นสิ่งดี อ่านบทความนี้และคุณจะรู้สาเหตุว่าทำไม

น้ำตาทำความสะอาดดวงตา

น้ำตาทำหน้าที่เป็นยาปฏิชีวนะตามธรรมชาติและกำจัด 95% ของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในดวงตาได้ภายใน 5 นาที

น้ำตาช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น

เมื่อเยื่อตาแห้ง จนเกิดปัญหาทางการมองเห็น ในสถานการณ์เช่นนี้ การมองเห็นของเราจะพร่าเลือน น้ำตาช่วยคงความชุ่มชื้นของเยื่อหุ้มเซลล์ จึงเป็นการอำนวยความสะดวก และช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น

น้ำตาขจัดสารพิษ

ดร.วิลเลียม เฟย์ นักวิจัยในศูนย์การแพทย์แรมซี่ ในมินนีแอโพลิส พบว่าน้ำตามีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับเหตุผลที่ว่าทำไมเราร้องไห้ น้ำตาที่เรียกว่า Reflex-tears ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่เราหั่นหัวหอมประกอบด้วยน้ำ 98% ในขณะที่น้ำตาที่เกิดจากอารมณ์ จะเต็มไปด้วยฮอร์โมนความเครียดที่เรียกว่าโปร- แลคติน

น้ำตาช่วยปลดปล่อยอารมณ์และการเชื่อมโยงกับคนอื่นๆ

เมื่ออารมณ์ถูกควบคุม การร้องไห้จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การร้องไห้ช่วยให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างง่ายดายมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นสัญชาตญาณการปกป้องของเรา และทำหน้าที่โดยการร้องไห้เพื่อขอความช่วยเหลือ การร้องไห้ทำให้เกิดความสนใจ ดังนั้นเมื่อเราเห็นใครบางคนร้องไห้ สัญชาตญาณการปกป้องจะเกิดขึ้น และต้องการที่จะปลอบโยนพวกเขา นี่จึงเป็นช่องทางที่ช่วยให้เราเชื่อมโยงกับคนอื่นๆได้

น้ำตาช่วยให้รู้สึกสบายมากขึ้น

การศึกษาพบว่าการร้องไห้เป็นการเพิ่มระดับของฮอร์โมนแห่งความสุขที่เรียกว่า อ็อกซี่ท็อกซิน ซึ่งบล็อกการปลดปล่อยของฮอร์โมนความเครียดที่เรียกว่าคอร์ติซอล ขณะที่เราร้องไห้ร่างกายของเราจะปล่อยสารเอนโดรฟินส์ ฮอร์โมนที่ถูกปล่อยออกมาระหว่างการออกกำลังกาย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเมื่อเราร้องไห้ เราถึงได้รู้สึกดีขึ้น

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับน้ำตา

ผู้หญิงจะร้องไห้มากกว่าผู้ชายสี่ครั้ง แต่ เมื่อใครสักคนที่คุณรักเสียชีวิต การร้องไห้ของทั้งสองเพศจะไม่แตกต่างกัน ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจมากก็คือผู้ชายจะร้องไห้มากกว่ากับเรื่องราวในเชิงบวก ส่วนผู้หญิงจะร้องไห้มากกว่ากับเรื่องราวในเชิงลบ ความแตกต่างนี้มีสาเหตุมาจากฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศชายยับยั้งความจำเป็นที่จะต้องร้องไห้ ในขณะที่โปรแลคติน ฮอร์โมนเพศหญิงจะกระตุ้นให้เกิดความเห็นอกเห็นใจและน้ำตา