อาหารธรรมชาติ 11 ชนิด ช่วยลดคอเลสเตอรอล

สมัยนี้เทรนด์รักสุขภาพ กินคลีน กำลังมาเลยนะคะ

เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ค่อนข้างฮิตเลยทีเดียว สุดฯ ก็ไม่อยากตกเทรนด์

พอดีไปเจอหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพดีๆ เลยอยากนำมาบอกต่อ นั่นคือหนังสือ

?กินป้องกันโรค? ซึ่งมีวิธีการกินเพื่อป้องกันโรคต่างๆ

รวมไปถึงการเลือกทานอาหารที่ดี และได้ประโยชน์ สุดฯ

อ่านไปเจออยู่เรื่องหนึ่ง คิดว่าเหมาะกับสาวๆ สวยๆ แบบเรา นั่นคือ

อาหารธรรมชาติ 11 ชนิด ช่วยลดคอเลสเตอรอล

คราวนี้เราจะได้มากินคลีนกันแบบถูกต้องซักทีเนอะ อิอิ

ไปดูกันดีกว่า?ว่ามีอะไรบ้าง

ข้าวโอ๊ต

สามารถนำมาผสมในข้าวต้มทำเป็นโจ๊ก หรือผสมหมูบด ไก่บด ซึ่งเมนูเหล่านี้จะช่วยลดคอเลสเตอรอลได้

ข้าวบาร์เลย์และเมล็ดธัญพืชไม่ขัดสี

มีคุณสมบัติเหมือนกับข้าวโอ๊ตเลยค่ะ คือมีใยอาหารที่ละลายน้ำได้ และช่วยลดคอเลสเตอรอล

มะเขือยาวและฝักกระเจี๊ยบ

เป็นแหล่งที่ดีเยี่ยมของใยอาหารละลายน้ำได้ ให้พลังงานต่ำ

ถั่วเปลือกแข็ง

เช่น ถั่วอัลมอนด์ วอลนัท ถั่วลิสง และถั่วเปลือกแข็งชนิดอื่น

ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ โดยพบว่าการทานถั่วเปลือกแข็งวันละ 60 กรัม

ถั่วเมล็ดแห้ง

เช่น ถั่วแดง เลนทิล ถั่วลูกไก่ ถั่วลายนอกจากช่วยลดคอเลสเตอรอลแล้ว ยังช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย

น้ำมันพืช

การใช้น้ำมันพืชปราศจากคอเลสเตอรอลในธรรมชาติ เช่น น้ำมันรำข้าว

น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย และน้ำมันเมล็ดชา

เพื่อใช้แทนเนย เนยขาว น้ำมันหมูหรือน้ำมันวัวในการปรุงอาหาร

แอ๊ปเปิ้ล องุ่น สตรอว์เบอร์รี่ ผลไม้ตระกุลส้ม

มีใยอาหารละลายน้ำได้สูงในรูปสารเพกทิน มีฤทธิ์ช่วยลดคอเลสเตอรอล

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสารสเตอรอลและสตานอล

ซึ่งสกัดมาจากพืช จะช่วยดูดซับคอเลสเตอรอลจากอาหาร

จึงมีการนำสารนี้เติมลงในอาหารต่างๆ เช่น มาร์การีน กราโนลาบาร์ น้ำส้มคั้น

ช็อกโกแลตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ถั่วเหลือง อาหารถั่วเหลือง หรือผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง

เช่น เต้าหู้และนมถั่วเหลืองช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ เพราะโปรตีนจากถั่วเหลืองช่วยลดแอลดีแอลคอเลสเตอรอลได้ 5-6เปอร์เซ็นต์

ปลาทะเล

ควรกินสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แทนการกินสัตว์ใหญ่ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวสูง

ปลาทะเลช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ นอกจากนี้กรดโอเมก้า-3

ใยอาหารเสริม

มีใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ในปริมาณมาก ช่วยลดแอลดีแอลคอเลสเตอรอล เช่น ผงซิลเลียม วันละ 2 ช้อนชา ให้ใยอาหารละลายน้ำได้ถึง 4 กรัม

ภาพจาก pixabay.com :the5th

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือ ?กินป้องกันโรค? โดย อาจารย์ ศัลยา คงสมบูรณ์เวช สำนักพิมพ์ Amarin Health