ชีวิตจริง ยิ่งกว่านิยาย "รักกันไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักกัน"

อ่าน 6,482

ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเขียนดีไหม แต่ผมอึดอัดใจมากครับ บางทีก็อยากระบายให้ใครได้ฟัง แต่มันติดที่เรื่องบางเรื่องเราเล่าให้คนที่รู้จัก รู้ไม่ได้นี่แหละครับ.ผมชื่อ "พี" ครับ ถึงแม้ว่าผมจะเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้อบอุ่นซักเท่าไหร่ แต่ผมก็มีความเชื่ออยู่อย่างนึงครับ ว่า "ความรัก สวยงามเสมอ"และผมเชื่ออย่างนั้นมาตลอด .... จนมาถึงวันนี้ ผมเริ่มรับรู้ได้ว่าบางครั้งมันก็โหดร้ายกับจิตใจมากเกินที่คนคนนึงจะรับไหวอาจจะด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง จนทำให้มันไม่ได้เป็นไปตามที่เราหวังไว้ ถึงแม้เราจะรับรู้ว่าคนสองคนจะผูกพันกันมากแค่ไหนก็ตาม...เหมือนกับเรื่องราวของผม ที่จะเล่าให้ฟังนี่ไงครับ มันอาจจะฟังดูเหมือนนิยายน้ำเน่าไปซักหน่อย ซึ่งผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้นนะแต่จะให้ทำยังไง มันเป็นความจริงที่มันยากมาก ยากที่จะทำให้ผมยอมรับมันได้....เรื่องของผม...มันเริ่มต้นมาจากคำว่าเพื่อนครับ เพื่อนกันเมื่อเกือบ 15 ปีที่แล้ว..เมื่อตอนปีหนึ่ง...ชีวิตของผม เด็กหนุ่มบ้านนอก คนนึง ได้ก้าวเข้ามาในเมืองหลวงครับ เหมือนกับเด็กต่างจังหวัดคนอื่นๆที่สามารถสอบเข้าเอนทรานซ์ มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯได้ ผมเชื่อว่าหลายๆคนในยุคของผม ก็คงจะใฝ่ฝันอยากเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้โดยหารู้ไม่ ว่า การเข้ามาเรียนที่นี่ สภาพสังคม มันต่างกันลิบลับ ต่างกันทั้ง ชนชั้น ฐานะ หรือบางที...ถูกแบ่งแยกกันด้วย เด็กในเมือง กับเด็กบ้านนอกซะด้วยซ้ำ(ผมขอยืนยันว่าเมื่อ 15 ปีก่อนเป็นแบบนั้นจริงๆครับ)เพราะฉะนั้นจึงเป็นการยากมากๆ ที่จะต้องปรับตัวในทุกช่วงจังหวะการใช้ชีวิต ในเมืองหลวง ของเด็กบ้านนอกอย่างผมแต่อย่างน้อย ผมก็ยังโชคดีที่ยังมีเพื่อนสนิทสมัยมัธยม เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะคนละมหาวิทยาลัยก็ตาม.ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ผมได้เจอเพื่อนกลุ่มหนึ่งครับ ประมาณ 4 คน เป็นเด็กที่มาจากต่างจังหวัดเหมือนๆกันเราจะเข้าใจหัวอกซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี ในทุกๆเรื่องครับ แต่สุดท้ายกลุ่มเรา เมื่อจบปีหนึ่ง ก็เหลือเพียงแค่ผมกับ นนท์ แค่สองคนครับ.ช่วงแรกผมกับนนท์ต่างคนต่างอยู่หอพักของตนเองครับ เพราะไม่มีญาติอยู่กรุงเทพ และอีกอย่างไม่อยากอยู่หอในด้วยความสัมพันธ์ของเราก็ยังคงเป็นเหมือนเพื่อนปกติทั่วๆไป แต่ก็รู้สึกได้ว่าเราสนิทกันมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ.แม้ว่าผมกับนนท์จะต่างคนต่างมีแฟนเป็นของตัวเองกันแล้ว (แฟนผมและแฟนนท์เป็นผู้หญิงนะครับ) และก็ดูจะไปได้กันด้วยดีซะด้วยสินะแต่แปลกตรงที่ เวลาพวกเราเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น เราก็จะเป็นที่พึ่งเดียวของกันและกันเสมอ ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังใช้ชีวิตกันเหมือนผู้ชายปกติทั่วไปในช่วงปลายปี หนึ่ง เราตัดสินใจที่จะย้ายหอมาอยู่ด้วยกันครับ เนื่องจากเพื่อนคนอื่นๆซิ่วออกไปหมด เพราะทนกับสิ่งแวดล้อมและสังคมที่นี่ไม่ได้.การที่เราตัดสินใจที่จะย้ายหอมาอยู่ด้วยกันนั้น เหตุผลอีกอย่างคือ จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนไปด้วยในขณะนั้นแต่ละคนก็เริ่มมีปัญหากับแฟนของตัวเองครับ ของนนท์เป็นเหตุผลของความไม่เข้าใจกันในเรื่องของเวลาครับนนท์เป็นนักกิจกรรมตัวยงค์ก็ว่าได้ ถึงแม้จะเป็นเด็กบ้านนอก แต่ก็ฮอตมากสำหรับสาวๆในคณะเลยทีเดียวก็เป็นธรรมดาที่แฟนนนท์รู้ก็ต้องหึงอยู่แล้ว สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน.สำหรับผมหนะเหรอ เหตุผลที่เลิกกับแฟนตอนนั้น เกิดจากเราเริ่มใช้ชีวิตต่างกันอย่างสิ้นเชิงคนนึงติดหรู แต่อีกคนแทบไม่มีจะกิน สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เค้าไปตามทางของเค้า.ด้วยความที่ต่างคน ต่างไม่มีใคร หรือด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ทำให้เราได้คุยกันมากขึ้น เป็นทั้งที่ปรึกษา เป็นทั้งที่พึ่งทางจิตใจของกันและกัน ในเวลาที่ต่างคนต่างไม่มีที่ยึดเหนี่ยวเริ่มดูแลกัน และเห็นอกเห็นใจกัน จนเริ่มแซวกันว่า หรือว่ากะกูจะเป็นเกย์ กันเหรอวะ ดูแลกันยิ่งกว่าแฟนอีกพอมองหน้ากัน ต่างคนก็ต่างเริ่มปฏิเสธในสิ่งที่ได้ยิน และก็ต่างกระโดดเตะ กระโดถีบ ให้ออกจากกันนั่นแหละมั้งที่มันเป็นเรื่องราวเริ่มต้นของผมกับนนท์ จนทำให้เราทั้งสองคนต้องเสียใจในวันนี้.........



บทความแนะนำ


สปอร์ตบราผู้หญิงความเชื่อออกกำลังกายTrekBeyondStarดูดวงภาพยนตร์TrekStarทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก