8 พฤติกรรมทำลายความประทับใจโดยไม่รู้ตัว
ว่ากันว่าเส้นทางมุ่งหน้าสู่การเป็นคนไม่น่าประทับใจจะได้รับการปูอย่างประณีตแต่กลับสูงชันและทำให้คนอื่นร่วงหล่นลงไปได้ เหตุการณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนแต่ไม่จำเป็นต้องเกิดกับคุณ จงปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้และความตั้งใจที่ดีของคุณจะทำให้ความสัมพันธ์ใหม่ๆดีขึ้นและดำเนินต่อไป
1. หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูกลางวงสนทนา
การศึกษาล่าสุดจาก Deloitte เผยว่าชาวอเมริกันจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูโดยรวมวันละ 8 พันล้านครั้งหรือเฉลี่ยวันละ 46 ครั้งต่อคน อย่างไรก็ตามเราขอแนะนำว่าคุณควรเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าโดยเฉพาะหากคุณอยู่กับคนอื่น ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นบุคคลสำคัญหรือพนักงานเสริฟแต่คุณก็ควรให้ความสนใจกับผู้ที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าปลายสายที่คุณมองไม่เห็น แน่นอนว่ามักจะมีข้อยกเว้นในกรณีฉุกเฉินแต่เราเชื่อว่าอีกฝ่ายหนึ่งรอได้ หากคุณคิดว่ามีเรื่องสำคัญจริงๆก็ขอให้เดินออกไปที่ทางเดินหรือห้องน้ำ
2. พูดแทรกและไม่เคยถามถึงคนอื่น
หากคุณพยายามที่จะสร้างความประทับใจ คุณจะถูกกระตุ้นให้อยากพูดคุยแต่เรื่องของตัวเอง ทว่าจงขัดขืนแรงกระตุ้นนี้ซะ คุณไม่จำเป็นต้องควบคุมการสนทนา หากคุณรู้สึกว่าคำพูดของตัวเองทำให้การสนทนาดำเนินไปอย่างคลุมเครือ ลองถอยออกไปและถามตัวเองว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น คุณควรใส่ใจต่อสิ่งที่คนอื่นกำลังพูดอยู่และปล่อยให้พวกเขามีโอกาสได้พูด การศึกษาล่าสุดพบว่าเกือบสามเท่าของผู้ชายมีแนวโน้มว่าจะพูดแทรกผู้หญิง ลองควบคุมตัวเองเพียงเล็กน้อยในไม่ช้าทุกคนก็จะชื่นชมความเป็นนักสนทนาที่ดีของคุณ
3. ไม่สบตาคู่สนทนา
เมื่อมีการประชุมและปรึกษาปัญหาต่างๆการสบตาถือเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งที่สำคัญมาก การสบตาบ่งบอกว่าคุณต้องการมีส่วนร่วมและสนใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด การศึกษาเผยว่าการสบตาจะทำให้อีกฝ่ายไม่กล้าโน้มน้าวและเราทุกคนก็ล้วนเคยรู้สึกประหม่าจากการถูกคู่สนทนาสบตาเป็นเวลานาน การสบตาอย่างยาวนานและต่อเนื่องอาจทำให้อีกฝ่ายเครียดได้ ดังนั้นควรเบาๆลงบ้างเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาที่ดูเหมือนกับฆาตกรต่อเนื่อง
4. ปิดท้ายข้อความด้วยเครื่องหมายจุด
ฟังดูประหลาดใช่ไหม? นี่คือมารยาทอย่างหนึ่งในโลกดิจิทัล การพิมพ์ประโยคด้วยตัวอักษรใหญ่หรือตัวอักษรเข้มทั้งหมดจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณกำลังตะโกนใส่เขา ขณะที่เครื่องหมายจุดสามารถเปลี่ยนอารมณ์ทั้งหมดของคำพูดได้ การเขียนให้ถูกหลักไวยากรณ์เป็นสิ่งดีแต่การปิดท้ายข้อความด้วยเครื่องหมายจุดบ่งบอกว่าคุณไม่พอใจและกระโชกโฮกฮากใส่คนคนนั้น งานวิจัยพบว่าหากคุณปิดท้ายประโยคด้วยเครื่องหมายจุดจะทำให้เนื้อหามีความจริงใจน้อยกว่าการไม่ใช้ ดังนั้นพึงระวัง
5. ระวังภาษากาย
รายงานเผยว่าภาษากายซึ่งไม่ใช่การแสดงออกทางสีหน้าจะเปิดเผยให้เห็นความรู้สึกของอีกฝ่ายชัดเจนขึ้น งั้นลองสำรวจภาษากายของคุณ เช่น คุณยืนอยู่ห่างจากอีกฝ่ายประมาณหนึ่งช่วงแขนหรือไม่? คุณกอดอกหรือไม่? คุณใช้การสัมผัสมากเกินไปและทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัดหรือไม่? คุณควรพิจารณาตัวเองและทุกคนที่อยู่รอบตัวเช่นเดียวกับการมองกระจกหลังเวลาขับรถ เราต้องระวังให้ดี
6. ลืมชื่อของคู่สนทนา
ชื่อของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในทุกๆภาษา แม้ว่าจะจำชื่อของอีกฝ่ายไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าการเจรจาทุกอย่างจะพังพินาศ แต่นี่คือการแสดงให้เห็นว่าคุณขาดความเอาใจใส่ในตัวบุคคลนั้นๆ ทางที่ดีคุณควรหาเวลาเพื่อที่จะทำความรู้จักพวกเขารวมถึงวิธีการสะกดและออกเสียงให้ถูกต้องเพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยและมิตรภาพที่ดี
7. คุณเหวี่ยงใส่พนักงานเสริฟในร้านอาหาร
หากคุณไม่เคยได้ยินคำว่า ?กฎของพนักงานเสริฟ? ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะเรียนรู้มัน มีคนเคยกล่าวไว้ว่าหากใครสุภาพกับคุณแต่หยาบคายใส่พนักงานเสริฟก็แสดงว่าพวกเขาไม่ใช่คนสุภาพจริงๆ โปรดจำไว้ว่าการปฏิบัติต่อบุคคลที่คุณไม่ใส่ใจนั้นสำคัญพอๆกับคนที่คุณใส่ใจ
8. การอวดรูปถ่ายที่ไม่มีคนอื่น
เอาน่า ถ้าน้องหมาของคุณจะน่ารักสุดๆก็ไม่มีใครสนใจหรอก