9 ข้อแนะนำในการดูแลตัวเอง สำหรับผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง

อ่าน 7,940

ปัจจุบันโรคแพ้ภูมิตัวเองกลายเป็นปัญหาสุขภาพสำหรับคนส่วนใหญ่ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันกว่า 24 ล้านคนหรือร้อยละ 5-8 ของประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีโรคอีกมากกว่า 80 โรคที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น โรคไขข้ออักเสบ โรคลูปัส (หรือโรคพุ่มพวง) โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง โรคสะเก็ดเงิน โรคแพ้กลูเตน และโรคต่อมไทรอยด์ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาการของโรคที่ยากต่อการจำแนก เช่น การอักเสบ อาการปวด บวม และทุกข์ทรมาน

การแพ้ภูมิตัวเองจะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของคุณมีความสับสน หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือร่างกายของคุณกำลังต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ สารพิษ สารก่อภูมิแพ้ หรือความเครียด เป็นต้น อย่างไรก็ตามระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถแยกแยะเพื่อนออกจากศัตรูได้ ทำให้เนื้อเยื่อของตนเองรวมทั้งข้อต่อ สมอง และผิวหนังถูกลูกหลงไปด้วย แถมบางครั้งก็อาจรุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บและเสียชีวิตได้

โดยทั่วไปจะมีการใช้ยาเพื่อรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง ถึงกระนั้นพวกมันก็อาจมาพร้อมกับผลข้างเคียง ฉันเชื่อว่ามีวิธีจัดการกับโรคแพ้ภูมิตัวเองได้ดีกว่านี้ นั่นคือสมุทัยเวชศาสตร์ซึ่งจะทำให้เราสามารถถอดรหัสที่มาของโรคและอาการเจ็บป่วยที่มารุมเร้าได้ เมื่อเราระบุหาสาเหตุที่แท้จริงของการอักเสบได้ เราก็จะสามารถรักษาโรคได้ซึ่งอาจรวมไปถึงความเครียด การติดเชื้อที่ซ่อนอยู่ การแพ้อาหาร การได้รับสารพิษ ความบกพร่องทางพันธุกรรม การขาดสารอาหาร และลำไส้รั่ว และนี่คือข้อแนะนำ 9 ประการสำหรับผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง

1. รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและต้านการอักเสบ

เช่น โอเมก้า 3 จากปลาธรรมชาติ ผักใบเขียว และขมิ้นชัน ขณะเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น น้ำตาลและน้ำมันข้าวโพด

2. ค้นหาการติดเชื้อที่ซ่อนอยู่

ไม่ว่าจะเป็นยีสต์ ไวรัส แบคทีเรีย และโรคไลม์ การรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันจะช่วยให้คุณสามารถระบุและกำจัดการติดเชื้อเหล่านี้ได้

3. ทดสอบโรคแพ้กลูเตนและอาการแพ้อาหารที่ซ่อนอยู่

แพทย์สามารถตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยโรคแพ้กลูเตนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อร่างกายของคุณมีปฏิกิริยาต่อกลูเตนที่รับประทานเข้าไป แพทย์แผนปัจจุบันยังสามารถค้นหาอาการแพ้อาหารที่ซ่อนอยู่ได้อีก เช่น ถั่วเหลืองหรือนมด้วยการตรวจการแพ้อาหารแฝง

4. ตรวจหาความเป็นพิษของโลหะหนัก

สารปรอทและโลหะอื่นๆก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคแพ้ภูมิตัวเอง

5. แก้ไขปัญหาลำไส้

ระบบภูมิคุ้มกันประมาณร้อยละ 60-70 จะอยู่ต่ำกว่าแนวลำไส้ที่หนาประมาณหนึ่งชั้นเซลล์ หากพื้นผิวบริเวณนี้เสียหาย ระบบภูมิคุ้มกันของเราก็จะเริ่มทำงานและมีปฏิกิริยาต่ออาหาร สารพิษ และสิ่งแปลกปลอมในลำไส้ ทางที่ดีควรเริ่มต้นรักษาลำไส้โดยการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและต้านการอักเสบ ที่สำคัญควรหลักเลี่ยงกลูเตนและอาหารที่ร่างกายแพ้ด้วย

6. อาหารเสริม

สารอาหารที่มีประโยชน์อย่างน้ำมันปลา วิตามินซี วิตามินดี และโปรไบโอติกจะช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณสงบลงอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ควรพิจารณาสารอาหารที่ต้านการอักเสบ เช่น สารเควอซิทิน สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และสารรูติน

7. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยต้านการอักเสบโดยธรรมชาติ คุณไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนส ออกกำลังกายบนลู่วิ่ง หรือยกน้ำหนักเพื่อดูแลรูปร่าง เพียงเริ่มเคลื่อนไหวไปมา ขยับเขยื้อนร่างกายให้มากขึ้น และมีความสนุกสนานก็พอแล้ว

8. รู้จักผ่อนคลายอย่างเต็มที่

ความเครียดจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองแย่ลง ดังนั้นวิธีที่จะช่วยทำให้สงบได้แก่ การฝึกโยคะ การหายใจเข้าลึกๆ และการนวด ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและลดความกังวล

9. นอนหลับนาน 8 ชั่วโมงทุกคืน

การอดนอนหรือนอนหลับไม่เพียงพอจะทำลายกระบวนการเผาผลาญของคุณซึ่งก่อให้เกิดความอยากน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต ส่งผลให้เรารับประทานมากขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงของโรคต่างๆ ตั้งแต่โรคอ้วนไปจนถึงโรคแพ้ภูมิตัวเอง ดังนั้นการนอนหลับที่ดีจึงจำเป็นต่อการมีสุขภาพที่แข็งแรงและขจัดการอักเสบออกไป

Blogger : Dr. Mark HymanSource : mindbodygreen.com



บทความแนะนำ


ใบหน้าสอนแต่งหน้าแต่งหน้าความสวยความงามผู้หญิงทรงผมทรงผมสั้นทรงผมประบ่าทรงผมถักเปียดูดวงดวงความรัก