เวลาออมแสงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณอย่างไร

การเริ่มต้นของเวลาออมแสงนั้นเกิดขึ้นที่ปลายขอบฟ้าซึ่งมาพร้อมกับความตื่นตระหนกและต้องปรับเปลี่ยนเวลา แต่นอกเหนือจากนี้คุณรู้ไหมว่าเวลาออมแสงสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราทั้งในทางบวกและทางลบ

การปรับลดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กลางคืนนานขึ้น)

ชั่วโมงการนอนหลับที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงเวลาออมแสงซึ่งจะสิ้นสุดลงเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงนั้นเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ประสบภาวะการนอนหลับไม่เพียงพอขั้นรุนแรง แต่จะดีก็ต่อเมื่อคุณได้นอนหลับอย่างแท้จริงในช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมการนอนที่ไม่ดี เช่น การงีบหลับในช่วงบ่ายเป็นเวลานานๆหรือเล่นอินสตาแกรมบนเตียง อันที่จริงคนส่วนมากไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเวลาที่เพิ่มขึ้นเท่าไหร่นักเนื่องจากนาฬิกาชีวภาพ และหากคุณเป็นหนึ่งในนั้นก็สามารถกล่าวโทษนิวเคลียสซูพราไคแอสมาติก (SCN) ซึ่งทำหน้าที่เป็นนาฬิกากลางและควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย การย่อยอาหาร การปล่อยฮอร์โมน และวงจรการนอนของเราโดย SCN จะถูกตั้งโปรแกรมให้ทำงานในช่วงกลางวัน ดังนั้นเมื่อเราพยายามเอาชนะแบบไม่ตั้งใจก็มักจะไม่ประสบผลสำเร็จ

นอกจากนี้การปรับเวลาลดลงยังเกิดขึ้นพร้อมกับช่วงฤดูหนาวอันแสนสั้นซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล (SAD) มีจำนวนเพิ่มขึ้น การวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรค SAD จะรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ได้สัมผัสกับแสงสว่างและจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากแสงแดดในตอนเช้า ดังนั้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกับช่วงฤดูหนาวที่มีแสงแดดน้อยลง ผู้ป่วยโรค SAD ก็จะใช้แสงสว่างเทียมบำบัดเพื่อลดผลกระทบจากแสงแดดที่หายไป

การปรับเพิ่มในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (กลางวันนานขึ้น)

เราคือแฟนพันธุ์แท้ของการนอนหลับ ดังนั้นเราจึงต้องต่อสู้เพื่อให้ทุกคนเห็นคุณค่าของเวลาที่หายไปหนึ่งชั่วโมงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่แสงแดดที่เพิ่มขึ้นก็มีประโยชน์ในตัวของมันเอง หากมีเวลากลางวันมากขึ้นก็มีแนวโน้มที่ผู้คนจะออกจากบ้านและเคลื่อนไหวมากขึ้น ดังนั้นการออกกำลังกายก็อาจจะเพิ่มระดับขึ้นตามไปด้วย

กลับมาที่ข้อเสีย มีการศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการสูญเสียชั่วโมงในการนอนจะทำให้ผู้คนรู้สึกเหนื่อยและเครียดซึ่งเป็นเหตุทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 24 หลังจากที่ช่วงเวลาออมแสงได้เริ่มขึ้น และเมื่อผู้คนเหนื่อยล้ามากขึ้นก็จะยิ่งมีอุบัติเหตุทางรถยนต์บนท้องถนนเพิ่มขึ้น มีสมาธิน้อยลง รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานก็ลดลงด้วย

สรุป

ช่วงเวลาออมแสงนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การปรับลดอาจหมายถึงชั่วโมงการนอนหลับอันแสนสุขที่เพิ่มขึ้นแต่ระดับวิตามินดีอาจลดลงและเปิดโอกาสให้โรค SAD เข้ามาเยี่ยมเยือน ส่วนเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิการสูญเสียเวลานอนหนึ่งชั่วโมงอาจเป็นเรื่องที่ยากสำหรับทุกคน ร่างกายของคุณจะมีเวลาน้อยลงในการจัดการความเครียดและสิ่งที่เกี่ยวข้อง แต่ด้วยแสงสว่างที่มากขึ้นจะทำให้คุณมีเวลาสำหรับการออกกำลังกายและทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามการกดปุ่มตั้งค่านาฬิกาชีวภาพให้เริ่มต้นใหม่อยู่เสมอนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

Blogger : Rachel NussbaumSource : greatist.com