นอนหลับเต็มอิ่ม แล้วความสวยสดชื่นจะอยู่กับเรา
อยากหัวถึงหมอนแล้ว นอนหลับเต็มอิ่ม ก่อนจะตื่นมาสดชื่นสุดๆ ใช่ไหม?
งั้นมาลองทิปเจ๋งๆ เหล่านี้ดู เป็นวิธีธรรมชาติล้วนๆ ไม่ต้องกลัวผลข้างเคียงแต่อย่างใด สิ่งที่ได้คือ นอนหลับเต็มอิ่ม
ขอบอกว่าการ นอนหลับเต็มอิ่ม
มันสุดยอดไม่ต่างจากเซ็กซ์ดีๆ เลยค่ะ แต่ถ้าเซ็กซ์ดีๆ ทำยากแค่ไหน
การนอนหลับลึกโดยไม่ถูกรบกวนนับว่าหายากกว่านั้นอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ชีวิตเรามีสิ่งเร้ามารบกวนมากมาย
ยังไม่นับเรื่องความเครียดทางเศรษฐกิจและสังคมนั่นอีก โอ้!
ฟังแล้วชวนปวดหัวจนต้องนอนพลิกตัวทั้งคืนเลยล่ะสิ อย่าเพิ่งกังวลไป Women?s
Health มีทิปเด็ดมาช่วยให้คุณกลายร่างเป็นเจ้าหญิงนิทราแบบเต็มอิ่มกันแล้วกินแป้งเล็กน้อยก่อนนอน ช่วยให้หลับง่ายนะ
เวลาหิวน่ะ
ร่างกายคนเราจะหลั่งสารที่กระตุ้นเตือนว่าได้เวลากินแล้ว
ซึ่งถ้าคุณกระโดดขึ้นเตียงทั้งที่ท้องยังว่างอยู่
คุณอาจนอนไม่หลับเพราะฮอร์โมนเหล่านี้ คุณหมอไมเคิล เมอเรย์ (Michael
Murray) ผู้เขียนหนังสือ The Encyclopedia of Healing Foods แนะนำว่า
ก่อนเข้านอนราวๆ 1 ชั่วโมง ให้กินอะไรที่มีแป้งเป็นส่วนผสมเบาๆ เช่น กล้วย
หรือแครกเกอร์ธัญพืช เป็นต้น แป้งช่วยเร่งให้ร่างกายหลั่งสารทริปโตแฟน
ตัวกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเซโรโทนินที่ช่วยให้หลับง่ายขึ้นอีกทีนั่นเองแอ๊บทำตัวเป็นแวมไพร์ กลัวแสงไฟดีกว่า
เพราะโดยธรรมชาติแล้วตาเรายังแยกความแตกต่างระหว่างแสงธรรมชาติกับแสงไฟประดิษฐ์ไม่ออก
ดังนั้นการเจอแสงประดิษฐ์อะไรก็ตามตอนกลางคืน
ก็สามารถปลุกวงจรตื่นของเราได้ คุณหมอเฮอร์เบิร์ต หยู (Herbert Yue)
แห่งคลินิกรักษาอาการนอนไม่หลับ ประจำ Stanford University เปิดเผยให้ฟัง
นอกจากนี้ การเจอแสงไฟเป็นเวลาหลายชั่วโมงนั้นจะส่งผลรบกวนสมอง
และขัดขวางกระบวนการสร้างเมลาโทนิน (ฮอร์โมนที่ทำให้หลับ) ได้ด้วย
แสงสีแดงตามปลั๊กไฟอาจไม่มีผลต่อการนอน
แต่แสงไฟจากแลบท็อปอาจรบกวนความสุขบนเตียงได้
แนะนำให้ปิดทีวีและคอมพิวเตอร์ก่อนนอนราวๆ 30 นาที
แล้วถ้าต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก อย่าได้เปิดสวิตช์เด็ดขาด
เพราะแสงไฟสว่างโร่จะทำให้คุณตาสว่างขึ้นอีกครั้งปรับอุณหภูมิห้องให้เย็น แล้วสวมถุงเท้าก่อนเข้านอน
นักวิจัยค้นพบว่าขณะที่เราเตรียมตัวเข้านอนนั้น
ระบบรักษาสมดุลของอุณหภูมิภายในร่างกายจะถ่ายเทเลือดจากส่วนกลางลำตัวไปยังปลายแขนและปลายขา
ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายนั่นเอง (โดยเฉลี่ยแล้ว
อุณหภูมิร่างกายสามารถลดต่ำลงได้ถึง 94 ฟาเรนไฮต์ ในช่วงตี 3 ถึง 6
โมงเช้า) เหตุผลที่ร่างกายเย็นลงอัตโนมัติตอนนอนนั้นยังไม่แน่ชัด
แต่คุณหมอหยูอธิบายว่า
มันเหมือนระบบที่ร่างกายวิวัฒนาการขึ้นมาเพื่อเก็บรักษาพลังงานไว้ใช้ในยามตื่นนั่นเอง
การนอนในห้องที่ปรับอุณหภูมิให้เย็น (ดีที่สุดคือ 68 ฟาเรนไฮต์)
จะช่วยเร่งกระบวนการนี้และทำให้คุณหลับได้เร็วขึ้น นอกจากนี้
การสวมถุงเท้าก่อนเข้านอนยังช่วยให้เส้นเลือดบริเวณเท้าขยายตัว
กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดี
ซึ่งไปเสริมกระบวนการลดอุณหภูมิร่างกายให้ทำงานดีขึ้นอย่าลืมงดแอลกอฮอล์นะจ๊ะ
เอาล่ะ การดื่มไวน์ 2
แก้วก่อนนอนอาจทำให้คุณรู้สึกง่วงซึม แต่อาการนี้จะออกฤทธิ์แค่แป๊บเดียว
คุณหมอหยูเผย
ทั้งนี้แอลกอฮอล์จะไปกระตุ้นสารสื่อนำประสาทที่ช่วยให้คุณรู้สึกง่วง
แต่ขณะเดียวกันร่างกายก็จะเผาผลาญแอลกอฮอล์ด้วย
สมองของคุณจึงกลับมาแอ็กทีฟและส่งผลให้ฤทธิ์ง่วงซึมหายไปในที่สุด
โดยในช่วงที่ตับทำการกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายนั้น สมองเริ่มตื่นตัว
คุณจะตาสว่างและรู้สึกกระสับกระส่ายหลับตานอนไม่ได้