5 ความกลัวที่คุณต้องข้ามผ่านไปให้ได้ หากต้องการเปลี่ยนรูปร่างและชีวิตของตัวเอง

ฉันยังจำวันที่ฉันตระหนักได้ว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าความคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นไปได้ยากเหลือเกิน ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะไม่ทำอะไรและใช้ชีวิตอย่างไร้ความสุข ไม่มั่นคง และทนอยู่น้ำหนักส่วนเกิน จนกระทั่งเพื่อนสนิทคนหนึ่งถามฉันว่าฉันยอมแพ้แล้วเหรอ ณ เวลานั้นความกลัวทั้งหมดที่ฉันยอมจำนนให้ก็เริ่มแล่นเข้ามาในหัว สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจปล่อยมือจากความกลัวเพื่อปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระ

การเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉันต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะกำจัดน้ำหนักส่วนเกินออกไปได้ถึง 22 ปอนด์ ฉันเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงและกล้าเผชิญหน้ากับปัญหาที่เหลืออยู่ และนี่คือวิธีพูดคุยกับตัวเองเพื่อให้ก้าวผ่านความกลัวเหล่านั้น

ความกลัว #1 : คุณไม่มีสิ่งที่จะนำทางสู่ความสำเร็จ

อันที่จริงคุณมีและไม่ว่าใครก็มีกันทั้งนั้น ความแตกต่างระหว่างคุณกับผู้ที่ประสบความสำเร็จคือสามสิ่งนี้ 1.ความเชื่อ 2.ทักษะ และ 3.การลงมือทำ ซึ่งการผสมผสานระหว่างความเชื่อ ความรู้ และการลงมือทำอย่างต่อเนื่องคือสิ่งที่สร้างความมั่นใจและผลักดันให้ฉันก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับกล้าเผชิญกับความกลัวและความไม่แน่นอน คุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็สามารถเรียนรู้ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งคุณ

ความกลัว #2 : คุกกี้ เค้ก และไอศกรีม ห้ามเด็ดขาด..ตลอดกาล

การมีน้ำหนักตัวและรูปร่างที่คุณปรารถนาไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่คุณโปรดปรานไปชั่วนิรันดร์สักหน่อย คุณต้องทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้คุณกินมากเกินไปและรู้วิธีที่จะเปลี่ยนแปลงมัน ประเด็นสำคัญอยู่ที่การสร้างนิสัยที่ส่งเสริมการมีร่างกายที่สมดุลและสุขภาพดี รวมถึงวิธีรักษารูปร่างและสุขภาพไปตลอดทั้งชีวิตที่เหลือของคุณด้วย อย่าลืมว่าไม่มีมนต์วิเศษใดๆทั้งสิ้น ขอแค่ความสม่ำเสมอและการฝึกฝนตัวเองก็พอ

ความกลัว #3 : คุณต้องรอจนกว่าจะรู้ทุกอย่างในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง

เมื่อฉันเริ่มตั้งปณิธานในการลดน้ำหนัก ณ เวลานั้นฉันแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโภชนาการและการออกกำลังกายเลย แต่ถ้ารอจนกว่าฉันจะรู้ทุกอย่างล่ะก็ ความตั้งใจของฉันคงค่อยๆลดลงไปจนไม่เหลืออะไรเลยเช่นกัน ดังนั้นจงลงมือปฏิบัติแม้ว่าตอนนั้นจะรู้สึกว่ายังไม่พร้อมหรือไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ยิ่งลงมือทำมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้สึกพร้อมที่จะก้าวสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น แถมยังได้เรียนรู้ไปตลอดทางด้วย

ความกลัว #4 : คุณไม่คู่ควรกับสิ่งที่คุณต้องการ

คนส่วนใหญ่มีความเชื่อที่ปิดกั้นตัวเองจากการลงมือทำ ยกตัวอย่างเช่น ?ฉันดูดีไม่พอ? หรือ ?ฉันยังฉลาดไม่พอ? หรือ ?ฉันไม่มีกำลังใจที่จะทำ? หรือ ?ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร? ความเชื่อเหล่านี้ล้วนทำให้เราย่ำอยู่กับที่หรือแม้แต่ถอยหลังลงคลองเนื่องจาก ?คุณไม่คู่ควรที่จะได้รับมากไปกว่านี้หรอก? แล้วคุณล่ะ? ถามตัวเองสิว่าจริงเหรอ? หากคำตอบคือใช่ แล้วคุณจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้อย่างไร? แต่ถ้าคำตอบคือไม่ใช่ งั้นคุณมัวรออะไรอยู่ล่ะ?

ความกลัว #5 : คุณต้องหาแผนการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารที่สมบูรณ์แบบเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน

คุณไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามแผนการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักแบบเป๊ะๆหรอก จำไว้ 2 อย่างคือ 1.การควบคุมอาหารไม่ได้ผลกับคนส่วนใหญ่ และ 2.การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินย่อมได้ผลดีกว่าการออกกำลังกายมากมายนัก ไม่มีแผนการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารใดๆที่ได้ผลหากคุณข้ามขั้นตอนที่สำคัญไป นั่นคือสาเหตุที่ทำให้คุณกินมากเกินไป กลยุทธ์การลดน้ำหนักที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพซึ่งคุณสามารถใช้ได้คือ..หาว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำหนักตัวของคุณเพิ่มขึ้นและมุ่งเน้นไปที่วิธีแก้ปัญหา และลองหาวิธีออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วันๆละ 30 นาที สุดท้ายอย่าลืมว่าคุณมีดีอยู่ในตัว มีคุณค่า และไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างหรือทำทุกอย่างด้วยความสมบูรณ์แบบ ลงมือทำซะตั้งแต่ตอนนี้โดยไม่ต้องรอให้ตัวเองพร้อม

Blogger : Michele LianSource : huffingtonpost.com